ความดีชั่วไม่ได้อยู่ที่ชาติตระกูล

ความดีชั่วไม่ได้อยู่ที่ชาติตระกูล


"ดูก่อนผู้สืบวงศ์แห่งวาสิษฐะและภารัทวาชะทั้งหลาย วรรณะ ๔ เหล่านี้ คือกษัตริย์ (นักรบ) พราหมณ์ (นักทำพิธี) แทศย์ (พ่อค้า) และศูทร (กรรมกร).

"ดูก่อนผู้สืบวงศ์แห่งวาสิษฐะและภารัทวาชะทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ที่เป็นกษัตริย์ก็มี เป็นพราหมณ์ก็มี เป็นแพศย์ก็มี เป็นศูทรก็มี ย่อมฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด (ยุให้เขาแตกร้าวกัน) พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ, มักได้ มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด. ธรรมเหล่าใดที่เป็นอกุศล นับเนื่องเข้าในอกุศล มีโทษ นับเนื่องเข้าในสิ่งมีโทษ ไม่ควรส้องเสพ นับเนื่องเข้าในสิ่งไม่ควรส้องเสพ ไม่ควรแก่พระอริยะ นับเนื่องเข้าในสิ่งไม่ควรแก่พระอริยะ เป็นธรรมดำ มีวิบากดำ อันผู้รู้ติเตียน. ธรรมเหล่านั้น บางข้อปรากฏในกษัตริย์ก็มี ในพราหมณ์ก็มี ในแพศย์ก็มี ในศูทรก็มี.

"ดูก่อนผู้สืบวงศ์แห่งวาสิษฐและภารัทวาชะทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ที่เป็นกษัตริย์ก็มี พราหมณ์ก็มี แพศย์ก็มี ศูทรก็มี ย่อมเว้นจากการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม, ย่อมเว้นจากการพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดคำหยาบ การพูดเพ้อเจ้อ, ย่อมเป็นผู้ไม่มักได้ ไม่มีจิตพยาบาท ไม่มีความเห็นผิด. ธรรมเหล่าใดที่เป็นกุศล นับเนื่องเข้าในกุศล ไม่มีโทษ นับเนื่องเข้าในสิ่งไม่มีโทษ ควรส้องเสพ นับเนื่องเข้าในสิ่งควรส้องเสพ ควรแก่พระอริยะ นับเนื่องเข้าในสิ่งควรแก่พระอริยะ เป็นธรรมขาว มีวิบากขาว อันผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านั้น บางข้อปรากฏในกษัตริย์ก็มี ในพราหมณ์ก็มี ในแพศย์ก็มี ในศูทรก็มี.

"ดูก่อนผู้สืบวงศ์แห่งวาสิษฐะและภารัทวาชะทั้งหลาย เมื่อวรรณะทั้งสี่ยังดาษดื่นทั้งสองทาง ยังประพฤติทั้งในธรรมที่ดำและขาว ที่ผู้รู้ติเตียนและสรรเสริญอยู่อย่างนี้ คำใดที่พวกพราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า วรรณะพราหมณ์เท่านันประเสริฐสุด วรรณะอื่น ๆ เลว, วรรณะพราหมณ์เท่านั้นขาว วรรณะอื่น ๆ ดำ, พราหมณ์ทั้งหลายเท่านั้นย่อมบริสุทธิ์ คนที่มิใช่พราหมณ์ย่อมไม่บริสุทธิ์, พราหมณ์ทั้งหลายเป็นบุตร เป็นโอรสของพรหม เกิดจากปากพรหม มีพรหมเป็นแดนเกิด เป็นผู้อันพรหมสร้างสรรค์ เป็นทายาทของพรหม ดังนี้. วิญญูชนทั้งหลายย่อมไม่รับรู้คำกล่าวของพราหมณ์เหล่านั้น. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?

"ดูก่อนผู้สืบวงศ์แห่งวาสิษฐะและภารัทวาชะทั้งหลาย เพราะบรรดาวรรณะ ๔ เหล่านี้ ผู้ใดเป็นภิกษุ เป็นพระอรหันต์ สิ้นอาสวะ (กิเลสที่ดองสันดาน) แล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ได้ทำหน้าที่เสร็จแล้ว วางภาระแล้ว บรรลุประโยชน์ของตนแล้ว สิ้นกิเลสเป็นเหตุมัดสัตว์ไว้ในภพแล้ว พ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ผู้นั้นย่อมกล่าวได้ว่า เลิศกว่าวรรณะทั้งสี่เหล่านั้นโดยธรรมอย่างแท้จริง มิใช่โดยอธรรม เพราะว่าธรรมเป็นของประเสริฐสุดในหมู่ชนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต."

จาก ลานธรรมจักร

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์