ความรู้ประดับจิต ธรรมะประดับใจ



คติธรรมประจำใจสร้างคุณค่าในการดำเนินชีวิต

พระเทพสิงหบุราจารย์(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน)


สร้างกุศลทดแทนพระคุณมารดา บิดา
ท่านมานั่งกรรมฐานทั้งลูกเด็กเล็กเด็กแดง ถ้าทำได้จริงใช้ข้าวป้อนแทนค่าน้ำนมแม่ได้ นี่แหละเป็นทุกสิ่ง กตัญญุูกตเวทิตาธรรม ที่ท่านมาบวช บวชกายทำจิตใจเข้าถึงพระ มีพระประจำจิตใตท่านแล้ว ท่านจะประเสริฐ ท่านจะมีแต่ความสุข มันไม่มีทุกข์แต่ประการใด ท่านมาที่นี่อาตมายินดีต้อนรับทุกคน ต้องการให้ท่านมีความสุขความเจริญ ไม่ต้องการที่จะให้ท่านเป็นทุกข์ และต้องการให้ท่านมีความปลอดภัยในการใช้ชีวิต ทรัพย์สิน ท่านไม่ชอบหรือ ถ้าท่านต้องเดือดร้อนแล้วมีที่พึ่งทางใจไหม...ไม่มีเลยนะ ถ้าท่านไม่ตั้งใจท่านจะหมดโอกาสอันดีงามของท่านไป ท่านอย่าประมาทนะ คิดว่าเรามาสร้างบุญกุศล ขอให้เอาจริงๆ ทุกสิ่งก็จะได้ผล
อานิสงค์การแผ่เมตตา
๑.นอนหลับเป็นสุข

๒.ตื่นนอนเป็นสุข

๓.ไม่ฝันเห็นสิ่งเลวร้าย

๔.เป็นที่รักของคนทั่วไป

๕.เป็นที่รักของเทวดา

๖.เทวดาคุ้มครองรักษา

๘.จิตเป็นสมาธิเร็ว

๙.ผิวพรรณผุดผ่องใส

๑๐. ไม่ลืมหลงสติเมื่อใกล้ตาย

๑๑. ตายแล้วไปเกิดพรหมโลก

ทำดีให้ได้ดี

คนทำดีจะทำให้ได้ดีทางวัตถุต้องประกอบด้วยหลัก ๔ ประการ คือ

๑.ทำดีต้องให้ถุกสถานที่

๒.ทำดีต้องให้ถุกตัวบุคคล

๓.ทำดีต้องให้ถุกกาลเวลา

๔.ทำดีต้องทำให้ติดต่อกัน

.....เสมอต้นเสมอปลาย สร้างความดีต้องมีอุปสรรค ท่านทั้งหลายอย่าน้อยเนื้อต่ำใจนะ

สร้างความดีมากเท่าไหร.....่ อุปสรรคมาขัดขวางมากเท่านั้น

ความรู้ประดับจิต ธรรมะประดับใจ


ความอดทน

" อด " และ " ทน " ผู้หวังความเจริญก้าวหน้า ความเพิ่มพูนทั้งความอดและความทน

เริ่มต้นด้วยอดใจ...โดยไม่ปล่อยให้เป็นทาสของความยาก

ขันติ...ความอดทนที่สำคัญที่สุด เปรียบเสมือนเสาบ้านทีเดียว บ้านเรือนถ้าขาดเสา...ก็จะกลายเป็นไม้เราดี นี่เอง

ถ้าขาดความอดทน ความดีอื่นก็ไม่เจริญ

" อด...คือ อด...ต่อสิ่งที่ชอบ

ทน...คือ ทน...ต่อสิ่งที่ชัง "

ความเสียสละ

จาคะ แปลว่า ความเสียสละ หมายถึง ความตัดใจหรือตัดกรรมสิทธิ์ของตน ตัดความยึดถือเสีย

ความเสียสละในคำว่า " จาคะ " นี้ มี ๒ นัยคือ สละวัตถุ และสละอารมณ์

คุณของความมีจาคะ เช่น

๑.สร้างความปลอดภัยให้แก่ตนเอง

๒.ทำความมั่งคงแก่สังคม ประเทศชาติ

๓.เป็นที่นับหน้าถือหน้าของคนอื่น

๔.ทำความสงบสุขแก่ครอบครัว

๕.จิตใจเป็นสุข

สามัคคีธรรมนำสันติสุข

สามัคคีธรรมนำสันติสุข สร้างความสุขไว้ในชีวิตของตน...ไม่เดือดร้อนใคร

การเดือดร้อนนี้ไม่ใช่หมายความว่า เขาทำให้เราเดือดร้อน เราเดือดร้อนเอง...เราร้อนรุ่มกลุ้มใจเอง

เหมือนทำให้สนิมในใจเกิดขึ้นเป็นสนิมขุม คือ ผูกพยาบาท

มันกลัดกลุ้มอยู่ในหัวใจตลอดรายการ หาความสุขสบายใจไม่ได้เลย


พระเทพสิงหบุราจารย์(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี)
รวบรวมโดย พุทธิพงษ์ พรพัชรวัชร์


โง่เป็นคุณฉลาดเป็นภัย

บันฑิตท่านกล่าวไ้ว้ว่า...

" รู้แล้วคิด...พิชิตศัตรู รู้แล้วเงียบ...ได้เปรียบศัตรู รู้แล้วปฏิบัติ...ขจัดศัตรู รู้แล้วหยิ่ง...จะยิ่งด้วยศัตรู "

พูดเท่านี้บางคนไม่รู้ ไม่เข้าใจ โง่เป็นคุณฉลาดเป็นภัย...เสนียดจัญไรสำหรับคนฉลาด ไม่เอาการเอางาน

รู้มากไม่ปฏิบัติธรรม ไม่มีกิจกรรมเป็นประโยชน์ต่อชีวิตอย่างใด

ตัวละครของโลก

โลกนี้เหมือนโรงละครโรงใหญ่ ทุกคนคือตัวละครของโลก มีหน้าที่แสดงต่างๆ กัน สุดแต่ผู้กำกับการแสดงคือกรรมจะบัญชา ใครแสดงดีก็มีชื่อเสียง ใครแสดงไม่ดี ก็ได้รับแต่ชื่อเสีย ฉะนั้นในฐานะที่เราเป็นคนของโลก ควรซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ จงจำสั้นๆ ว่า

“ เกิดมาเป็นคนอย่าให้จนความดี เกิดมาทั้งทีต้องมีดีติดตนไป ”

อุปสรรคของความสำเร็จ

ในการทำงานนั้น ย่อมมีอุปสรรคอยู่หลายอย่าง ก็เป็นธรรมดา

แต่ที่สำคัญชั้นแนวหน้า ก็คือ ความเบื่อหน่าย มันเบื่อหน่ายง่าย

ไม่ว่าเราจะทำอะไร ถ้าเกิดความเบื่อหน่ายขึ้นมาแล้ว

จิตจะเสียกำลัง ไม่มีแก่ใจที่จะทำ กำลังใจตก เบื่อหน่าย

มีอาการท้อแท้ เฉื่อยชา อ่อนเพลีย มีอันให้เป็นไปต่างๆ

นี่...อาตมาขอฝากไว้

หนทางแห่งความก้าวหน้า
หนทางแห่งความก้าวหน้ามี ๙ ข้อ ดังต่อไปนี้


๑.ขยันเอาการ

๒.งานสะอาด

๓.ฉลาดรอบคอบ

๔.ชอบระวัง

๕.ตั้งใจตรง

๖.ทรงศีลธรรม

๗.ต้องนำทางให้ถูก

๘.ต้องปลูกสติ

๙.ดำริชอบทุกประการ

พระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี)

รวบรวมโดยพุทธิพงษ์ พรพัชรวัชร์





ขอบคุณบทความจาก พลังจิต

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์