ธรรมะจากพระโอษฐ์..แค่การนำดอกไม้ไปไหว้พระ..ก็มองเป็นธรรมะได้..


ธรรมะจากพระโอษฐ์..แค่การนำดอกไม้ไปไหว้พระ..ก็มองเป็นธรรมะได้..

พระราชาผู้มีธรรมะครองใจ พระราชาผู้ปฎิบัติธรรม จึงนำพาความร่มเย็นสู่ผืนแผ่นดินไทย ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้มีภูมิธรรมสูง

เห็นได้ดังพระราชดำรัสเนื่องในโอกาสที่พระครูใบฎีกาเล็ก ญานุตตะโร วัดหลวงปรีชากูล อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี และคณะ เฝ้าฯ ถวายเงินเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยและต้นเทียนพรรษา วันจันทร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘

"...อันนี้ก็ได้เคยพูดกันไปแล้ว พูดถึงว่า แต่ละคนที่ได้บูชา ด้วยการเอาดอกไม้ไปประดับที่พระพุทธรูป เป็นต้น .. นั้น มีอานิสงส์อย่างไร

คือ ข้อที่บางคนก็เห็นว่า เราเห็นคนเข้าไป คลานเข้าไปที่พระพุทธรูป แล้วก็เอาดอกไม้ไปประดับในแจกัน ก็มี

บางทีก็มีพวงมาลัยไปประดับอย่างสวยงาม จะมีประโยชน์อะไร

คนบางคนเขาไม่เห็นประโยชน์ เพราะว่าเสียเวลา เสียเงินทอง ทำไม เดี๋ยวดอกไม้ก็เหี่ยว ไม่เข้าใจ

ผู้ที่เห็นอย่างนั้นบอกว่าเสียเวลา ไปวางแล้วดอกไม้เดี๋ยวก็เหี่ยว ไม่มีประโยชน์อะไร

อย่างนี้ผู้นั้นไม่เกิดปัญญา ไม่เกิดความรู้ ไม่เกิดความเข้าใจ



แต่ว่า ผู้ที่เห็นแล้วก็ไปวางดอกไม้ แล้วเดี๋ยวก็เหี่ยวนั้น ถ้าพิจารณาก็เป็นการปฏิบัติธรรม เรียกว่า ถึง ขั้นหนึ่งของกรรมฐาน หรือ วิปัสสนา

ซึ่งเราต้องการปฏิบัติวิปัสสนากัน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ข้อนี้ก็เป็นวิปัสสนานั่นเอง

คือเป็นการดูว่า ดอกไม้นั้นเราเก็บมา มาวางไว้ห่างจากต้น หรือแม้แต่อยู่บนต้นไม้ไม่กี่วันก็เหี่ยว เหี่ยวแล้วก็แห้ง แล้วก็ร่วง

ถ้าเราเก็บเอาไว้ โดนอะไรหน่อยก็เป็นผุยผง เพราะว่าดอกไม้ไม่ใช่ดอกไม้ แล้วก็เป็นผง

อันนี้เป็นการพิจารณาว่าอะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย เป็นการเห็นความธรรมดาของสิ่งของ

นี่เป็นหลักของศาสนาที่จะเห็นว่า ถ้าเราเห็นข้อนี้ในทุกสิ่งในทุกอย่างก็จะทำให้เรียกว่าได้ผล ได้ปัญญา


ธรรมะจากพระโอษฐ์..แค่การนำดอกไม้ไปไหว้พระ..ก็มองเป็นธรรมะได้..

ถึงบอกว่า การบูชาด้วยดอกไม้ไปประดับนั้น ก็คือ เป็นทางไปสู่ความดี หรือความอดทนอีกทางหนึ่ง

การเอาดอกไม้ไปประดับประดาตามพระพุทธรูปในโบสถ์หรือที่หิ้งบูชา การนำไปประดับให้สวยงามนั้น

จะได้ความหลุดพ้นไปได้ อีกทางหนึ่ง

ซึ่งก็นับว่าคล้ายกัน หมายความว่า จะได้วิมุตติเหมือนกัน คือหลุดพ้น

เพราะว่า ถ้าเรานำไปประดับประดาสวยงาม เราก็มีความปลื้ม เพราะมันสวย เรามีความสบายใจ มีปีติ

ปีติ นี่คือความปลื้มใจ ความภูมิใจ มีความรู้สึกว่า เบา เป็นความปลื้มใจที่ไม่เสียหาย เป็นปีติที่เกิดความเบาใจ ความสบาย

ความสบายนั้นถ้านำมาในทางที่ดีที่ชอบ ความสบายใจแบบนี้ ปีติแบบนี้ ก็จะนำไปสู่ความสงบสุข อยู่อย่างมีความสุข

มี ความสุข แล้วก็มี ความสงบ ไปสู่ความว่างได้ คือ เป็นอุเบกขา

ความปีตินั้นนำไปสู่อุเบกขา อุเบกขานั้นหมายความว่า เราไม่ยินดี ไม่ยินร้าย แต่แท้จริง คือว่า เห็นอะไร ก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ว่าไม่ยินดียินร้าย ไม่มีความยินดี ดีใจ ถูกใจ..."

"เทิดราชเทียมธรรม"


ธรรมะจากพระโอษฐ์..แค่การนำดอกไม้ไปไหว้พระ..ก็มองเป็นธรรมะได้..


ธรรมะจากพระโอษฐ์..แค่การนำดอกไม้ไปไหว้พระ..ก็มองเป็นธรรมะได้..

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือ "ธรรมะจากพระโอษฐ์" เรียบเรียงโดย "ณัฐวุฒิ แจ๊ดสูงเนิน" สำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ

ที่มา : สำนักข่าวเจ้าพระยา


ธรรมะจากพระโอษฐ์..แค่การนำดอกไม้ไปไหว้พระ..ก็มองเป็นธรรมะได้..

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์