บาปนั้นยิ่งทำก็ยิ่งมืดมน


บาปนั้นยิ่งทำก็ยิ่งมืดมน : หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

สภาพจิตของผู้ใคร่ในธรรม อะไรจะพิจารณาเป็นธรรมไปหมด 
การเป็นธรรมของจิตอยู่ที่ตรงไหน อยู่ตรงที่เราจะปลงอยู่ตรงที่ 
"กมฺมสฺสกา มาณว สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา" 
สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล 
มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติดตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย 
ชีวิตทุกดวง "ดี-ชั่ว" เป็นไปตามผลของกรรม 

คนทำชั่วมากๆแสดงว่าเขาทำกรรมชั่ว กรรมชั่วอันนั้นมันเป็น "บาปสังขาร" 
คอยปรุงแต่งจิตให้ทำชั่วอยู่เรื่อยๆ ยิ่งทำก็ยิ่งมืดมนอนธกาล 
ยิ่งทำก็ยิ่งมองไม่เห็นบาปบุญคุณโทษ ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ 
อย่างดีก็มุ่งเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวและความสุขส่วนตัวเพียงถ่ายเดียว 
โดยไม่นึกถึงอกเขาอกเรา จิตมันก็ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นกลาง ไม่เที่ยงธรรม 
ทำแต่บาปแต่กรรม ไม่รู้จักบุญไม่รู้จักกุศล ไม่รู้จักทำดี มีแต่ทำชั่วร่ำไป ร่ำไป 
มีใครไปพูดเรื่องบาปบุญคุณโทษให้ฟัง ...เหลวไหล! 
ใครพูดเรื่องนรกเรื่องสวรรค์เรื่องนิพพานให้ฟัง ...เหลวไหล ! 
เพราะอะไร..เพราะ "บาปกรรม" มันปิดบัง 

เช่นเดียวกันกับ "ท่านมาลัย" ไปโปรดสัตว์นรก 
ไปโปรดสัตว์นรก สัตว์นรกผู้ที่มีอุปนิสัยบางๆ พอเห็นพระเถระเจ้าไปก็ยกมือสลอน 
สาธุ พระคุณเจ้ามาดีแล้ว พวกข้าพเจ้าเป็นสัตว์นรกทำบาปทำกรรม 
จึงได้มาทรมานอยู่อย่างนี้ ขอให้ไปบอกญาติพี่น้อง 
ทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งมาให้ด้วย อันนี้สำหรับผู้ที่มี..มี "ปุญญาภิสังขาร" 
คอยปรุงแต่งจิตให้นึกถึงคุณงามความดี 

ส่วนสัตว์นรกบางตนบางตัวก็ได้แต่นอนคว่ำหน้า ไม่มองดูพระเถระเจ้าเลย 
ใครจะว่าไงก็ช่างใคร ฉันเฉยอยู่ เพราะบาปกรรมมันปิดบัง 
บาปกรรมตัวที่ปิดบังนั้นแหละคือ "อปุญญาภิสังขาร" สังขาร คือ บาป 
มันคอยปรุงแต่งจิตให้มีแนวโน้มไปทางบาป 

เพราะฉะนั้นเรามาเจริญสมาธิวิปัสสนานี้ถึงแม้ว่าไม่บรรลุมรรคผลนิพพานใดๆ 
ก็เพียงแต่ว่า จะอบรมจิตใจของเราให้มีแนวโน้มไปในทางบุญทางกุศล 
จนกลายเป็นความคล่องตัว ไม่สามารถที่จะทำบาปทั้งในที่ลับและในที่แจ้งได้ 
มีหิริโอตตัปปะ สะดุ้งกลัวต่อบาป อายต่อบาปอยู่เสมอ 
เอากันแต่เพียงแค่นี้ ก็ยังนับว่าดี

 บาปนั้นยิ่งทำก็ยิ่งมืดมน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์