รู้ทันใจ (หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ วัดสังฆทาน)

รู้ทันใจ (หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ วัดสังฆทาน)

"รู้ทันใจ" (หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ วัดสังฆทาน)


บางคนเพียงคนอื่นทำให้ไม่ถูกใจแค่ครั้งเดียวก็โกรธ จำเอามาคิดมานึกเกินกว่าเหตุจนเกิดความพยาบาทก็มี
ความคิดอย่างนี้ก็คือการไม่รู้จักแยกแยะความคิด และไม่รู้จักการให้อภัย ความโกรธอยู่กับใครแล้วทำให้มีปัญหา
ทำให้ไม่มีความสุข ไม่มีความสุขตรงที่ว่าเขาทำใจไม่ได้ ให้อภัยไม่ได้

เรารู้ว่าโกรธ รู้ว่ารัก รู้ว่าโลภ รู้ว่าหลง รู้เท่านี้ยังไม่พอ เราต้องไปรู้จักตัวเจตสิก ตัวสังขารที่ปรุงแต่งว่าโกรธ
มันกำลังปรุงแต่งว่าโกรธอย่างไร มีอาการฟ้องมาทางใจอย่างไร....
พอโกรธแล้ว มันอยากจะว่ามันอยากจะแช่ง...มันอยากจะตบตืหรือมันอยากจะทำร้าย

ถ้าสติและปัญญาเข้าไปทัน เราก็จะหายโกรธ แล้วเราก็จะรู้ว่าสิ่งที่ทำให้คนเราเข้ากันไม่ได้มีความทุกข์อยู่ร่ำไป
มีความไม่สงบอยู่ร่ำไปนี้ ก็คือการที่เราไม่รู้ทันตัวปรุงแต่งของใจเรานี่เอง
ไม่ว่าจะเป็นโกรธก็ดี โลภก็ดี รักก็ดี ชังก็ดี นี่เขาเรียกว่าเรียนธรรมะ คือมาเรียนรู้ทันอารมณ์ตัวเอง

กรรมฐานก็เรียนอย่างนี้แหละ ครูบาอาจารย์ท่านก็เรียนกันอย่างนี้
หลวงพ่อสังวาลย์ท่านอยู่ป่าช้า ๖ ปีท่านก็สำเร็จเรื่องอย่างนี้
ท่านได้ธรรมะเรื่องจิต ท่านดับได้ก็เยือกเย็น ดับได้ก็มีเหตุผล มีปัญญา และก็รู้จริง

การมาเรียนที่วัดก็คือมาเรียนรู้ตัวเอง มาเรียนการกระทบ
มาเรียนการนอนเนื่องในสันดานของตัวเอง พูดง่ายๆ มาคุ้ยสันดานตัวเอง

เวลาดูคนอื่นให้ดูเรื่องดีๆ ดูเขาเดินสงบ ดูเขานั่งสงบ ดูเขานอนสงบ
แต่ดูตัวเองนี่ให้ดูเรื่องไม่ดี ขุดคุ้ยด้วยสติ ด้วยปัญญา
คนเราถ้าเห็นตัวเองได้เรียกว่า เข้าใจธรรมะ เห็นกายภายนอก เห็นกายภายใน

เห็นจิตภายนอก เห็นจิตภายในก็คือเห็นการกระทำการปรุงแต่งของจิต
ไม่ใช่นั่งหลับตาเฉยๆ แต่มันมีความเข้าใจสภาพความจริงของการปรุงแต่งจิตที่เกิดขึ้น

เราต้องเห็นกิเลสตัวเองก่อน ไม่ใช่เห็นสวรรค์ก่อน เราต้องเห็นตัวเองโง่ก่อน
ถ้าคนไหนนั่งแล้วฉลาดเลย คนนั้นหลง...นั่นฉันก็รู้ นี่ฉันก็รู้ ฉันรู้หมด นั่นเขาเรียกว่า หลงธรรมะ

แต่ถ้านั่งแล้ว...เอ้อ!ตรงนี้เราก็เคยทำไม่ดี ตรงนี้เราก็เคยพูดไม่ดี ตรงนี้เราก็เคยคิดไม่ดี
ตรงนี้เราก็เคยคิดร้ายกับคนโน้นคนนี้ นั่นแหละเขาเรียกว่าลำดับญาณ อนุโลมปฏิโลมญาณ หรือเรียกว่าอดีตเป็นอย่างไร
ปัจจุบันก็เป็นอย่างนั้น ปัจจุบันเป็นอย่างไร อนาคตก็เป็นอย่างนั้น เมื่อรู้ว่าอดีตไม่ดีก็แก้ปัจจุบันให้ดีอนาคตก็จะดี

การรู้ธรรมเห็นธรรม คือ การเข้าใจจิตของตัวเอง เข้าใจสภาพตัวเองว่าสงบหรือไม่สงบเป็นอย่างไร
อ่านนิสัยตัวเองออก เหมือนกับพ่อแม่เลี้ยงลูกก็รู้จักนิสัยลูกว่าเป็นอย่างไร...หยาบละเอียด...โง่ฉลาด...ดื้อไม่ดื้อ....
เป็นคนกตัญญูไม่กตัญญู...เป็นคนขยันหรือขี้เกียจ ก็จะรู้จักลูกตัวเองหมด

ถือว่าพ่อแม่ฉลาดนะที่สามารถรู้จักนิสัยของลูก แต่ยังขาดคุณธรรมคือ พ่อแม่ไม่รู้จักตัวเอง
พอไม่รู้จักตัวเองก็คือการไม่ได้แก้ตัวเองให้เข้ากับลูกหรือให้เข้ากับสังคมได้
นี่คือธรรมชาติที่เรียนรู้ และเข้าใจกันได้ ลูกบาง คนก็สามารถเรียนรู้ว่าพ่อแม่เป็นคนอย่างนั้นเป็นคนอย่างนี้
รู้ทันพ่อแม่หมด แต่กลับไม่รู้จักตัวเองว่าตัวนั้นกำลังทำหน้าที่อะไร บกพร่องต่อหน้าที่ในความเป็นลูกอย่างไร

เขารู้จักพ่อแม่ แต่กลับไม่รู้จักตัวเองจึงแก้ไขตัวเองไม่ได้ เข้ากับพ่อแม่ไม่ได้
กลายเป็นลูกเถียงพ่อแม่ เป็นลูกดื้อดึง เป็นลูกอกตัญญู โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองทำผิด

ธรรมะนี่รู้เขารู้เรา รู้เรื่องข้างนอกแล้วก็ต้องย้อนมาดูข้างใน เหมือนการพิจารณาพรไตรลักษณ์ญาณ
พิจารณาว่าทุกคนตกอยู่ในพระไตรลักษณ์หมดแล้วสังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง
ทุกคนที่เกิดมาต้องเป็นทุกข์ และในที่สุดทุกคนก็ต้องดับไป

เมื่อน้อมมาพิจารณาตนเองแล้วจิตก็ปลงตก เกิดการปล่อยวางคลายความยึดมั่นถือมั่นทั้งหลาย



ขอบคุณบทความจาก : aranyawasee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์