ศีลเป็นเสมือนรั้วกันความชั่ว

ศีลเป็นเสมือนรั้วกันความชั่ว



การักษาศีลเป็นที่รู้สึกกันโดยมากว่า
เหมือนเป็นการสร้างรั้วล้อมตนเอง
ศีลยิ่งมากข้อ ก็ยิ่งเหมือนรั้วที่แน่นหนาแข็งแรง
และยิ่งมีวงแคบ จะทำอะไรจะไปไหนก็ล้วนแต่มีข้อห้ามทั้งนั้น
เมื่อรู้สึกดังนี้จึงไม่พอใจจะรักษาศีล
ปรารถนาที่จะทำอะไรไปข้างไหนตามความพอใจ
มีเรื่องเล่าในอรรถกถาธรรมบทว่า

ภิกษุรูปหนึ่งรู้สึกว่าวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้มีเป็นอันมาก
ไม่อาจที่จะรักษาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้
มีความเบื่อหน่ายหมดกำลังใจ
พระพุทธเจ้าได้ทรงเรียกภิกษุนั้นไปตรัสถาม
ว่าสามารถจะรักษาเพียงข้อหนึ่งได้หรือไม่
ภิกษุนั้นก็กราบทูลว่า ถ้าเพียงข้อเดียวก็สามารถ
พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า
ถ้าอย่างนั้นก็ให้รักษาจิตของตน
เมื่อสามารถรักษาจิตของตนได้เพียงข้อเดียว
ก็สามารถรักษาข้ออื่นๆได้ทั้งหมด
ภิกษุนั้นได้ปฏิบัติตามพระพุทธโอวาท
ก็สิ้นความอึดอัดรำคาญ
สามารถรักษาพระวินัยให้บริสุทธิ์บริบูรณ์

อันที่จริงจะเปรียบศีลเหมือนอย่างรั้วล้อมก็ได้
แต่หมายความว่าล้อมมิให้ความชั่วเข้ามา
เหมือนอย่างรั้วล้อมบ้านป้องกันโจรผู้ร้าย
และรั้วบ้านนั้นก็มีประตูสำหรับเข้าออก
แม้ตัวบ้านเองก็มีประตูหน้าต่าง
คนโดยปกติก็เข้าออกทางประตู
ถ้าปีนรั้วหรือปีนหน้าต่างเข้าหรือออก
ก็เป็นการผิดปกติ
ศีลก็เช่นเดียวกัน
แม้เป็นข้อห้ามดังศีล ๕ เหมือนอย่างรั้วกั้น
แต่นอกจากที่ห้ามไว้นั้นก็อาจทำได้
เท่ากับมีประตูสำหรับเข้าออกอยู่ด้วยบริบูรณ์
เพราะข้อที่พึงทำมีมาก
จะแสดงไว้ก็คงไม่หมด
จึงได้แสดงไว้แต่ข้อห้ามที่มีเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อเข้าใจดังนี้ ก็เข้าใจต่อไปได้ว่า

ผู้ที่เว้นจากข้อห้าม
ทำในข้อที่ท่านไม่ห้าม
เรียกได้ว่าเป็นคนปกติ
เหมือนอย่างเข้าออกทางประตูโดยปกติ
เป็นอันเข้าใจความหมายของศีลโดยตรง


คัดลอกจาก...ชุดความร่วมรู้เรื่องพระพุทธศาสนา
ศีลในพระพุทธศาสนา
พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์