สติกับโยนิโสมนสิการ

สติกับโยนิโสมนสิการ


สติ...จะมีหน้าที่ควบคุมดูแลและรู้เท่าทันจิต เพื่อไม่ให้จิตแล่น
เตลิดไปตามใจชอบหรือชัง หรือตามกิเลสตัณหาที่เป็นอาสวะ
อนุสัย คือความเคยตัวเคยใจที่เป็นกิเลสสั่งสมมาจนเป็นนิสัย
และสันดาน

สติ...เปรียบเหมือนบิดามารดาที่คอยควบคุมดูแลและรู้เท่าทัน
บุตรของตน ที่อยากจะกระทำอะไรไปตามใจตัวเอง เช่น คอยแอบ
หนีเที่ยวหรือออกนอกลู่นอกทาง แล้วไม่ชอบเล่าเรียนเขียนอ่าน
เมื่อมีบิดามารดาคอยดูแลและรู้เท่าทันตลอดเวลา บุตรก็จะหนี
เที่ยวหรือออกนอกลู่นอกทางไม่ค่อยได้

โยนิโสมนสิการ....จะมีหน้าที่คอยอบรมสั่งสอนจิตให้รู้เห็นตาม
ความเป็นจริงของรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ...
เปรียบเหมือนบิดามารดาที่คอยอบรมสั่งสอนบุตรของตนให้รู้ว่า
อะไรดี อะไรชั่ว อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรทำแล้วจะมี
ประโยชน์ อะไรทำแล้วจะมีโทษ อะไรทำแล้วจะพ้นจากโทษทุกข์

บุตรที่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยมาดีตั้งแต่เด็กๆ ก็จะเป็นผู้มีปัญญา
รู้สึกผิดชอบชั่วดีด้วยตัวของเขาเอง และถ้ามีโยสิโสมนสิการ หรือ
มีบิดามารดามาคอยอบรมบ่มนิสัยอยู่ตลอดเวลา สติ...ซึ่งเปรียบ
เหมือนบิดามารดาที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลหรือรู้เท่าทันบุตร ก็ไม่ต้อง
เหน็ดเหนื่อยกับการที่ต้องคอยควบคุมดูแลหรือรู้เท่าทันกันอยู่ตลอด
เวลา...

ดังนั้น เมื่อมีทั้งสติและโยนิโสมนสิการอยู่ตลอดเวลา ก็เปรียบเหมือน
มีบิดามารดาที่คอยควบคุมดูแลรู้เท่าทันบุตรของตนไม่ให้ออกนอกลู่
นอกทาง พร้อมกับอบรมสั่งสอนไปด้วยตลอดเวลา บุตรก็จะเป็นคนดี
และมีปัญญา กรณีเป็นเช่นเดียวกัน เมื่อมีทั้งสติและโยนิโสมนสิการ
อยู่ตลอดเวลา จิตก็จะไม่ออกนอกลู่นอกทางไปตามกิเลสตัณหาหรือ
ตามใจอยาก

และในที่สุดจิตก็จะเป็นผู้มีปัญญา รู้แจ้งตามความเป็นจริงด้วยตัวของ
เขาเองว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ เป็นเพียงสิ่งใดสิ่ง
หนึ่งตามธรรมชาติที่มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แล้วสิ่งเหล่านั้นย่อมมี
ความดับไปเป็นธรรมดา ไม่ใข่เป็นเรา หรือเป็นตัวเรา หรือเป็นของเรา
หรือมิใช่เราเป็นสิ่งนั้น พร้อมกับปล่อยวางการหลงยึดถือเสียสิ้น ซึ่งเมื่อ
ไม่หลงยึดถือก็ไม่ทุกข์ หรือพ้นจากทุกข์นั่นเอง...ฯ

~ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์~

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์