สติเป็นที่พึ่งอันประเสริฐสุด

'สติ'เป็นที่พึ่งอันประเสริฐสุด


ในมหาปรินิพพานสูตร สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ว่า...
'ตสฺมาติหานนฺท อตฺตทีปา วิหรถ อตฺตสรณา อนญฺญสรณา ธมฺมทีปา
ธมฺมสรณา อนญฺญสรณา'

"ดูกรอานนท์ เพราะฉะนั้น พวกเธอจงมีตนเป็นที่พึ่ง มีตนเป็นที่
ระลึก อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง เป็นที่ระลึกอยู่เถิด พวกเธอจงมีธรรม
เป็นที่พึ่ง มีธรรมเป็นที่ระลึก อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็น
ที่ระลึกอยู่เถิด"

ดูกรอานนท์...ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมมีปกติพิจารณาเห็นกายใน
กายอยู่ เป็นผู้มีความเพี่ยร มีสัมปชัญญะ มีสติ จึงจะละความโลภ
ความโกรธ ความหลง ในอัตตภาพนี้ได้ ดังนี้

'ผู้มีสติ' คือ..ผู้ไม่อยู่ปราศจากสติ ได้แก่...ผู้เจริญสติปัฏฐาน 4
ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาทอย่างแท้จริง และชื่อว่า ได้เป็นผู้ปฏิบัติถูก
ต้องตามพระไตรปิฎก ทั้ง 3 ปิฎกด้วย คงมีหลักฐานรับรองไว้
ซึ่งปรากฏอยู่ใน..'อัปปมทวรรค' แห่งพระธรรมบทว่า...

'โส ปเนส อตฺถโต สติยา อวีปฺปวาโส นาม'
ก็ความไม่ประมาทนั้น โดยใจความ ได้แก่การไม่อยู่ปราศจากสติ

'สกลํปิ หิ เตปิฏกํ พุทธวจนํ อาหริตฺวา กถิยมานํ อปฺปมาทเมว
โอตรติ'
จริงอยู่ คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 ปิฎกแม้ทั้งสิ้น ที่พระธรรม
กถึกนำมาแสดงอยู่นั้น ย่อมรวมลงสู่ความไม่ประมาทอย่างเดียว
เท่านั้น

'เอวเมว โข ภิกฺขเว เยเกจิ กุสลา ธมฺมา,สพฺเพ เต อปฺปมาทมูลกา
อปฺปมาทสโมสรณา, อุปฺปมาโทเตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติ'
(สํ. มหาวาร. ๑๙/๖๕)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย...กุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง กุศลธรรมเหล่า
นั้นทั้งมวล ล้วนมีความไม่ประมาทเป็นมูลประชุมลงสู่ความไม่ประ-
มาท ความไม่ประมาทเรากล่าวว่า เป็นยอดแห่งธรรมเหล่านั้น
เหมือนรอยเท้าช้างเป็นใหญ่กว่ารอยเท้าของสัตว์ทั้งมวลฉะนั้น...ฯ

~พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์