หลงสภาวะ

หลงสภาวะ


หลงสภาวะ



"...ทุกสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น เกิดจากดิน น้ำ ลม ไฟ เกิดขึ้นเป็นธรรมดา ตั้งอยู่ได้ชั่วขณะเป็นธรรมดา แล้วก็ต้องดับไปในที่สุดเป็นของธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นสภาวะสุข สภาวะทุกข์ สภาวะนิ่งเฉย เกิดมาแล้วก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา ยึดอะไรไว้ไม่ได้เช่นกัน แม้แต่ตัวไตรลักษณ์ มันก็เป็นไตรลักษณ์ในตัวมันเอง เป็นสมมติบัญญัติ ไตรลักษณ์เองก็เป็นอนัตตา สมมติทั้งหลายก็เป็นอนัตตา ไม่มีตัวมีตน ไม่มีอะไรเลยเช่นกัน แล้วเราจะไปยึดอะไร ไปเชื่ออะไร มีอะไรที่ยิ่งกว่านี้ สภาวะทั้งหมดทั้งปวงเป็นอนัตตาเป็นสมมติทั้งสิ้น แล้วเราจะเอาอะไรให้ยิ่งกว่านี้....

....พระนิพพานจึงไม่มีสภาวะ ไม่มีสภาวะสุข ไม่มีสภาวะทุกข์ ไม่มีสภาวะว่าง นิ่งเฉย แต่มันก็มีอยู่ มีอยู่ในแดนที่มันไม่มีสุข ทุกข์ นิ่งเฉย หรือปล่อยวาง คือไม่เอาอะไรทั้งสิ้น

....ทุกอย่างลงไตรลักษณ์หมด ลงสู่ความไม่เที่ยง ลงสู่ความเป็นทุกข์ ลงสู่ความไม่ใช่ตัวตน ลงสู่ความไม่น่ายึดมั่นถือมั่น แล้วจะมีอะไรให้เห็นยิ่งกว่านี้ นี่คือธรรมของพระอริยะ พระอริยเจ้าท่านก็รู้ลงตรงนี้ อริยสัจ 4 ท่านก็กล่าวไว้ตรงนี้ ยอมรับความจริงแล้วจะเข้าสู่ผล นี่เป็นความจริง เมื่อจิตยอมรับความจริงเมื่อไหร่ ก็ลงสู่ความเป็นผล คือเข้าใจในไตรลักษณ์ของขันธ์ 5 ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน ไม่น่ายึดมั่นดังนี้ มันจึงหมดลงตรงนี้ ...ตรงที่จิตใจนี่......."


(หลวงพ่อชานนท์ วัดป่าเจริญธรรม จ.ชลบุรี)

ผู้ที่ปฏิบัติย่อมรู้ ผู้ที่เข้าไปรู้ความเป็นจริง ย่อมค้านความจริงไม่ได้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์