อาหารใจคือสงบ

'อาหารใจคือสงบ' พระมานะ อตุโล

"หลวงปู่ศรี มหาวีโร” พระสายกรรมฐานในวัย 94 ปีแห่งวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ศิษย์หลวงปู่มั่นอีกท่าน ถือเป็นศิษย์รุ่นน้องหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หลวงตาบัวมุ่งให้คนศรัทธาในพุทธศาสนา เรื่องศีล สมาธิ ปัญญา และช่วยเหลือแผ่นดินด้วยการรับบริจาคทองคำช่วยชาติอันเป็นผลงานของพระสายปฏิปทาน่าสรรเสริญ ไม่ต่างจากหลวงปู่ศรี แม้ในวัยนี้ท่านจะอยู่ในวัยชรามากแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นท่านมุ่งนำแก่นของศาสนาสู่ผู้คนเฉกเช่นหลวงตาบัว หากแต่การมุ่งแทนคุณแผ่นดินของท่านคือการสร้างป่า และอนุรักษ์ป่าพร้อม ๆ กับถ่ายทอดแนวคิดสู่พระลูกศิษย์ของท่านเอง

พระอาจารย์ มานะ อตุโล ลูกศิษย์หลวงปู่ศรี ผู้ยึดแนวทางของหลวงปู่ศรี ท่านเดินทางนำธรรมะไปให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไม่เฉพาะคนไทยในผืนแผ่นดินไทย แม้แต่คนไทยต่างแผ่นดิน ท่านเผยแผ่ธรรมะอยู่ในฮ่องกง 8 ปี พร้อมกับสร้างวัดตามคำสั่งของหลวงปู่ศรี

“ตอนนั้นมีคนบอกว่าจะถวายวัดให้หลวงปู่ศรีที่ฮ่องกง จึงนิมนต์ท่านไปดู ท่านก็พิจารณาของท่าน ท่านก็มาหาอาตมาบอกว่าจะพาไปดูวัด พอวันกลับก็สั่งให้ทุกคนเก็บของ อาตมาก็เตรียมเอากระโถนของหลวงปู่ไปล้าง ท่านก็บอกหยุด ให้เราอยู่ที่นี่ เราก็แปลกใจเพราะภาษาอะไรก็ไม่ได้ กฎหมายก็ไม่รู้ ท่านบอกให้อยู่สร้างวัดเพราะญาติโยมคนไทยเยอะมาก วัดที่อยู่ในฮ่องกงเป็นบ้านเช่าอยู่บนเขา ท่านก็ไม่พูดอะไรมาก บอกให้อยู่เลย เงินที่ญาติโยมทอดผ้าป่า มี 40,000 ท่านให้อาตมา บอกว่าให้สร้างวัด”

พระอาจารย์มานะเล่าว่า เงิน 40,000 ที่มีอยู่น้อยมากหากคิดว่าจะซื้อที่สร้างวัดที่ฮ่องกง

โดยพยายามหาวัดอยู่ 4 ปี ดำรงชีวิตอยู่อย่างประหยัดที่สุดเงินที่หลวงปู่ศรีให้ไว้ไม่เคยนำออกมาใช้ แม้กระทั่งนำไปซื้ออาหาร หากไม่มีคนมาใส่บาตรให้ ก็ไม่ฉัน คิดว่าตอนสมัยธุดงค์ไม่ฉัน 15 วันก็ไม่ตาย เรื่องหาวัด ได้รับความช่วยเหลือจากท่าน รัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูตไทย จนมาได้เจอวัดร้าง เป็นวัดเต๋าปล่อยทิ้งไว้ 20 ปี ได้กลุ่มแม่บ้านไทยที่ไปทำงาน ที่นั่นมาช่วยบูรณะทำความสะอาด จึงเป็นวัดขึ้นมา ชื่อว่า “วัดพุทธธรรมาราม” หลวงปู่ศรีท่านเป็นคนตั้งให้ ตอนนี้มีอายุ 10 ปีแล้วในฮ่องกง

“ท่านกงสุลก็พยายามประสานรัฐบาลฮ่องกงให้หาที่สร้างวัดให้ เพื่อจะเป็นศูนย์รวมใจ เพราะเราเห็นชีวิตคนไทยที่โน่นแล้วสลดใจ โยมคนไทยส่วนมากไปทำงานเป็นแม่บ้าน แต่พอวันหยุด เขาจะไปรวมตัวกันที่สะพาน บนสะพานมีคนไทยรวมกันอยู่เป็นหมื่น ทั้งเล่นไฮโล เล่นการพนัน เพราะไม่มีที่ไป วันอาทิตย์เป็นวันที่เจ้านายอยู่บ้าน คนไทยที่ไปทำงานก็ต้องออกจากบ้านด้วย รัฐก็หาที่ให้อยู่บนตึก แต่เราบอกว่าไม่ได้เพราะคนมาทำบุญเยอะตึกรับไม่ไหว หามา 4 ปี บอกบุญไปเรื่อย ๆ จนมาเจอวัดร้าง” พระอาจารย์มานะย้อนถึงประสบการณ์การสร้างวัด

อาหารใจคือสงบ


เมื่อวัดไทยในฮ่องกง สำเร็จ พระอาจารย์มานะได้เดินทางไปมาระหว่างฮ่องกงกับ จ.เชียงราย มาสร้างวัดป่า ใน อ.แม่จัน ราว 300 ไร่ ใน จ.ขอนแก่น ก็เช่นกัน
 
ได้สร้างวัดป่ามหาลัย หรือวัดป่าโนนม่วง ซึ่งติดกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่เดิมเป็นไร่มันสำปะหลัง ต้องเข้าเป็นแนวร่วมเชิญชวนชาวบ้านมาช่วยปลูก ใช้เวลา 4 ปี พื้นที่นั้นเริ่มเขียว เต็มไปด้วยไม้มะค่า ไม้ประดู่ ซึ่งแต่ละที่เป็นคำสั่งของหลวงปู่ศรี เมื่อเห็นว่าพื้นที่อยู่ตัวแล้ว จะเรียกพระที่เป็นนักบุกเบิกพื้นที่กลับ แล้วให้พระท่านอื่นไปรักษาการแทน ปัจจุบันพระลูกศิษย์สายหลวงปู่ศรีมีนับ 1,000 รูป

“วัดสายหลวงปู่ศรี มีสาขาประมาณ 150 วัด วิธีการสร้างป่าเอาชาวบ้านมาปลูกป่ามารับผิดชอบร่วมกัน เมื่อรักษาแล้วลูกหลานเห็นเขาจะภูมิใจว่านี่คือผลงานที่รุ่นพ่อแม่สร้างไว้ ญาติโยมเขามากันเองเราไม่มีค่าจ้างให้ มาด้วยศรัทธาทำด้วยใจ วัดสร้างป่าได้ พระกับผีเท่านั้นที่จะรักษาป่า ที่ไหนผีดุคนไม่กล้าตัดต้นไม้ พระก็ช่วยปลูกฝังให้คนเข้าช่วยกันปลูกต้นไม้ เมื่อปลูกแล้วเขาก็จะรักษา เงินที่ญาติโยมถวายมา เราก็นำไปปลูกต้นไม้หมด” พระอาจารย์มานะบอกถึงวิธีการสร้างป่า

ปัจจุบัน พระอาจารย์มานะได้มาบุกเบิกพื้นที่สวนมะขามร้างกว่า 312 ไร่ในบ้านสวนปอ ต.แก่งศรีภูมิ อ.ภูหลวง จ.เลย ให้เป็นวัดป่าอีกแห่งมาตั้งแต่เดือน ก.พ.ในปี 2553 หลังจากผู้มีจิตศรัทธาชาวฮ่องกงบริจาคเงินซื้อที่ดินถวาย แม้ยังไม่ประกาศเป็นวัดอย่างเป็นทางการ แต่ชาวบ้านก็ขึ้นชื่อป้ายให้ว่า “วัดป่าศรีภูหอ” ขณะนี้ก่อสร้างอาคารที่พักสงฆ์ และศาลาปฏิบัติธรรมต่าง ๆ เสร็จสิ้นหมดแล้ว รวมทั้งการปลูกต้นไม้บนพื้นที่กว่า 312 ไร่เดินหน้าไป 100 กว่าไร่ โดยมีญาติโยมจากที่อื่น ๆ มาร่วมปลูก นำต้นไม้มาถวาย ซึ่งคาดว่าภายใน 3 ปี พื้นที่สวนมะขามร้างจะแน่นขนัดไปด้วยต้นไม้

พระอาจารย์มานะบอกว่า พระสายกรรมฐานจะต้องใช้พื้นที่ป่า หลวงปู่ศรีท่านก็บอกว่าพระพุทธเจ้าท่านก็ประสูติอยู่ในป่า บวชอยู่ในป่า ปรินิพพานอยู่ในป่า เพราะอะไร เพราะป่าเป็นสถานที่สงบ
 
มีบัญญัติไว้เป็นข้อ 1. ภิกษุที่อุปสมบทแล้วอยู่ในป่าต้องอาศัยบิณฑบาต 2. ถือผ้าจีวร ผ้าบังสุกุลที่เขาห่อคนตาย เอามาตัดย้อมต้องตัดเอง เย็บเอง 3. ภิกษุทั้งหลายอาศัยอยู่ในป่าไม้เป็นวัด อาศัยเรือนร้าง ไม่ต้องสวยงาม เน้นให้ความสงบ ห่างจากหมู่บ้าน พระพูดอะไร ๆ ไม่ให้ชาวบ้านได้ยิน ชาวบ้านพูดอะไรไม่ให้พระได้ยิน คือทางที่ถูก ยิ่งห่างจากหมู่บ้านยิ่งดี วัดนี้อยู่ห่างจากหมู่บ้าน 5 กิโล

ตลอดการจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าแห่งนี้ สิ่งที่พระอาจารย์มานะพยายามสอนให้ชาวบ้านเห็นธรรมะแล้วนำไปปรับใช้ในวิถีชีวิตด้วย นั่นเพราะบ่อยครั้งที่ปรากฏภาพงานบุญแต่เน้นหนักเรื่องมหรสพ เน้นเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ มากกว่าที่จะทำจิตใจให้สงบ

พระอาจารย์มานะบอกว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าถ้าจะทำบุญต้องเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการกินเหล้า แค่ละศีล 5 ได้ก็เป็นบุญแล้ว
 
เพราะเรื่องพิธีรีตองที่สืบต่อกันมาไม่ใช่บุญและไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า แต่น่าเสียดายพระสงฆ์ ไม่ว่าจะอยู่เมืองนอกหรือประเทศไทย ติดอยู่ที่ประเพณีมากเกินไป นำหน้าทุกที่ เป็นเรื่องแก้ยาก เพราะทำกันมาแต่บรรพบุรุษแนวทางการทำบุญจริง ๆ คือการทำสมาธิ จะได้บุญทันตาเห็น ต่อให้ทานสัก 100 ครั้ง 1,000 ครั้งก็ไม่เท่ากับรักษาศีล 5 ได้ รักษาศีล 5 สัก 100 ครั้ง 1,000 ครั้ง ก็ไม่เท่าจิตสงบ สงบคือการวางจากความคิดปรุงแต่งทั้งหมด เท่านี้ก็ได้บุญมหาศาลแล้ว บุญมันจะเกิดขึ้นในใจของเราคือความปีติ และความสุขที่มันจะเกิดขึ้นเมื่อเราสงบ นี่แหละเรียกว่าอาหารใจ เมื่อใจมีอาหารก็มีพลัง มีความคิด มีปัญญาดี ช่วงนี้จะเกิดสติมา สติเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันควบคุมดูแลหัวใจของเรา เหล่านี้คือ “อาหารใจ” ของทุกคนทำได้ ไม่ว่าผู้หญิง ผู้ชาย

“ธรรมดาใจของเราต้องการอาหารชนิดหนึ่งแต่ส่วนใหญ่คนมองแค่อาหารของร่างกาย ก็วิ่งเต้นเพื่ออาหารร่างกายอย่างเดียว แต่ไม่นึกถึงอาหารใจ อาหารใจคือความสงบ ถ้าใจสงบเท่ากับมีอาหารที่ดีของใจ ถ้าเราทำใจให้สงบได้สักนิดก็มีค่ามหาศาล ใจสงบแค่ดูลมหายใจเข้าออก หยุดความคิด ไม่ต้องคิดว่าจะเป็นอย่างนั้นจะเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรทั้งนั้น มีหน้าที่ดูลมอย่างเดียว คือจิตมันจะอยู่ตรงนั้นที่ดี” พระอาจารย์มานะบอกถึงวิธีให้อาหารใจ อันเป็นวิธีเดียวในการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะการดูลมหายใจเป็นหลัก.





พลังจิตดอทคอม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์