อุปนาหะ อุปกิเลสข้อ ๔ ท่านแปลว่า “ผูกโกรธไว้”


พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวรฯ ลงพิมพ์ในหนังสือแสงส่องใจ ๓ ตุลาคม ๒๕๒๙

อุปนาหะ อุปกิเลสข้อ ๔ ท่านแปลว่า “ผูกโกรธไว้”

มีความหมายตรงไปตรงมาว่า ไม่ยอมเลิกโกรธ เก็บความโกรธฝังไว้ในใจนานๆ กาลเวลาผ่านไปแล้วเหตุที่ทำให้คิดปรุงแต่งจนเกิดความโกรธก็ล่วงเลยไปแล้ว แต่ยังจดจำนำไปคิดปรุงแต่งให้กลับเกิดความโกรธในเรื่องเดิมสิ่งเดิมได้อีก ไม่รู้แล้ว

ให้ความร้อนแก่ตนเองไม่รู้สิ้นสุด ยังหมอกควันให้ปกปิดความประภัสสรแห่งจิตตนไว้ด้วยความเบาปัญญา จึงไม่รู้ว่าจิตอันประภัสสรของตนนั้นมีค่านัก หาควรสร้างความคิดปรุงแต่งใดๆ ให้เป็นหมอกมัวมาปกปิดเสียไม่

ไฟสุมขอนมีความร้อนกรุ่นอยู่ตลอดเวลาเป็นเช่นไร ความผูกโกรธไว้ก็เป็นเช่นนั้น เผารุมร้อนกรุ่นอยู่เช่นนั้น แตกต่างกันเพียงที่ไฟสุมขอนร้อนอยู่ที่ขอนไม้ แต่ความผูกโกรธร้อนอยู่ในหัวอก

การดับไฟสุมขอนต้องใช้น้ำราดรด ไฟดับสนิทแล้วขอนก็มอดไหม้ทิ้งความสกปรกเลอะเทอะหลงเหลืออยู่ แต่การดับความผูกโกรธใช้สติปัญญาดับความคิดปรุงแต่ง เพียงเท่านั้นความผูกโกรธก็จะดับ นอกจากจะไม่หลงเหลือความสกปรกอยู่หลังการดับความผูกโกรธ ยังจะมีความผ่องใสเยือกเย็นอีกด้วย

เพราะไม่ใช่ปัญญาคิด จึงไม่ได้ความรู้สึกถูกต้องว่า ความโกรธก็ตามความผูกโกรธก็ตามทำให้เร่าร้อน ปราศจากความสุขความเย็นไม่มีประโยชน์อะไรเลยในความโกรธหรือความผูกโกรธ ปัญญาก็เกิดไม่ได้ เพราะปัญญาคือแสงสว่าง

ความโกรธและความผูกโกรธ คือความมืด ความมืดมากเพียงไรแสงสว่างก็จะถูกกีดกั้นมากเพียงนั้น และแม้ว่าปัญญาน้อยเสียเท่านั้น ย่อมไม่เห็นว่าตนเป็นเจ้าของสมบติที่มีค่าพ้นพรรณา หาได้ใส่ใจที่จะทะนุถนอมสักน้อยหนึ่งไม่ สมบัตินั้นอันเป็นของเราทุกคน คือจิตที่บริสุทธิ์ประภัสสร


ที่มา
dhammajak

อุปนาหะ อุปกิเลสข้อ ๔ ท่านแปลว่า “ผูกโกรธไว้”

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์