เจตนา กรรมมี...เจตนาไม่มี กรรมไม่มา

เจตนา กรรมมี...เจตนาไม่มี กรรมไม่มา



......กรรม......
ที่แท้จะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ 2 ปรการคือ...


หลักเกณฑ์ ข้อที่ 1. 'ผู้ทำมีเจตนา' มีหลักการที่พระพุทธเจ้า
ได้ตรัสไว้ในนิพเพธิกสูตร ฉักกนิบาต อังคุตตรนิกาย ว่า...
'เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ'...แปลว่า
ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาเป็นกรรม
...


......เจตนา......

ได้แก่ ความตั้งใจหรือความรับรู้ ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 อย่างคือ...
1. บุพเจตนา...เจตนาก่อนทำ
2. มุญจนเจตนา...เจตนาในเวลาทำ
3. อปราปรเจตนา...เจตนาเมื่อได้ทำไปแล้ว


การกระทำโดยมีเจตนา เกิดขึ้นในตอนใดตอนหนึ่ง ถือว่าเป็นกรรม
ทั้งสิ้น ส่วนการกระทำที่ไม่มีเจตนา คือใจไม่ได้สั่งให้ทำไม่จัดว่าเป็น
กรรม เช่น คนเจ็บซึ่งมีไข้สูง เกิดเพ้อคลั่ง แม้จะพูดคำหยาบออก
มา เอามือหรือเท้าไปถูกใครเข้าก็ไม่เป็นกรรม ในทางวินัยก็ยกเว้นให้
พระที่วิกลจริตซึ่งล่วงเกินสิกขาวินัย ไม่ต้องอาบัติ ทั้งนี้ก็โดยหลัก
ที่ว่าถ้าผู้ทำไม่มีเจตนา การกระทำนั้นก็ไม่เป็นกรรม...

ส่วนหลักเกณฑ์ข้อที่ 2 การกระทำนั้นจะต้องให้ผลเป็นบุญหรือบาป
ก็เพื่อแยก การกระทำของพระอรหันต์ออกจากการกระทำของปุถุชน
เนื่องจากพระอรหันต์ เป็นผู้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ ไม่มีความยึด
ถือในตัวตน การกระทำเรียกว่า อัพยากฤต ไม่นับว่าเป็นกรรมดีหรือ
กรรมชั่ว บุญและบาปไม่มี การกระทำของพระอรหันต์ จึงไม่เรียกว่า
กรรม...แต่เรียก กิริยา...

     ส่วนปุถุชน ยังมีความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนอยู่ จะทำอะไรก็ยังยึดถือ
ว่าตนเป็นผู้กระทำ 'การกระทำ' ของปุถุชน..จึงเป็นกรรม ย่อมจะก่อให้
เกิดวิบาก หรือผล..เสมอ....


'กรรมดี'...ก็ก่อให้เกิด...บุญ...
'กรรมชั่ว'...ก็ก่อให้เกิด...บาป...


พระธรรมสิงหบุราจารย์
หลวงพ่อจรัญ จิตธัมโม

เจตนา กรรมมี...เจตนาไม่มี กรรมไม่มา


ขอบคุณทำดีดอทเนต


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์