เนื้อกายต้องบำรุงเพื่อใช้...เนื้อใจต้องรักษาเพื่อสุข...

เนื้อกายต้องบำรุงเพื่อใช้...เนื้อใจต้องรักษาเพื่อสุข...


"เนื้อกายต้องบำรุงเพื่อใช้...เนื้อใจต้องรักษาเพื่อสุข..."
(สุข...ในที่นี้คือ สุขแบบไม่รู้สึก ไม่มีคำอธิบาย ยิ้ม..ยิ้ม..)


ในความธรรมดา “เนื้อของกาย” ต้องอาศัยอาหารในการทานเข้าไปในกาย ซึ่งอาหาร
ของกายจับต้องได้ เห็นได้ด้วยตาเปล่า...ซึ่งแตกต่างจากอาหาร “เนื้อของใจ”
สำหรับ “เนื้อของใจ” อาหารประเภทนี้ไม่มีรูปทรง วงกลม สี่เหลี่ยม...
พูดแบบโวหารก็คือ “อาหารของใจ ไร้ซึ่งรูปทรงแต่สุข...เมื่อรับแล้ว”
เช่น ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า การทำบุญของเราเอง การซื้อสิ่งของให้บิดา มารดา
การจอดรถให้คนข้ามถนน การถามทุกข์-สุข เพื่อน ๆ ร่วมงาน (แบบจริงใจ)...
แม้แต่กระทั่งยิ้ม ๆ ให้กันกับเพื่อนร่วมงาน ร่วมเดินทาง...ล้วนแต่เป็น “อาหารของใจ”

วันพระ...วันมาฆบูชานี้ อยากสนทนากันเรื่อง การให้อาหารของใจ
เธอ...เธอ ทั้งหลายให้อาหารของใจอย่างง่าย คือ ๑. ทาน ๒. ศีล ๓. สมาธิ
ทาน คือ การให้ทั้งหลาย ทั้งปวง เช่น การทำบุญตักบาตร การให้อภัย…
ศึล คือ น้อมกาย วาจา ใจ ให้ปกติ เป็นกลาง ๆ เช่น ไม่ทุกข์ ไม่สุข เฉย ๆ
สมาธิ คือ สงบจากการปรุ่งแต่งทั้งหลาย ทั้งปวง

ฉะนั้น วันพระ และเป็นวันมาฆบูชานี้ขอให้เธอทั้งหลายให้ “อาหารของใจ”
ในวันพระนี้ หรือวันใด ๆ ตามแต่เธอสะดวก
ข้อปฏิบัติดังนี้
๑.อาหารไร้รูปทรงแต่สุข : ทำบุญตักบาตร ให้อภัย หรืออื่น ๆ ตามที่เธอสะดวก
๒.รักษาศีล : รักษากาย วาจา ใจ ให้เคร่งครัดไม่ให้เกิดสุข หรือทุกข์ใด ๆ
๓.สมาธิ : นั่งสมาธินิ่ง ๆ สักครู่ หรือเดินจงกลมอย่างมีสติ

นี่แหล่ะ “อาหารของใจ ไร้ซึ่งรูปทรงแต่สุข...”


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์