เรื่องความตาย - โดย..สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ

เรื่องความตาย - โดย..สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ

เรื่องความตาย-โดย..สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ


เรื่องความตาย ...
โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
...........................

แทบทุกคนเคยได้รับรู้ความหมายของข้อความข้างต้นนี้อยู่แล้ว แทบทุกคน เคยพูดออกปากจากของตนเองมาแล้ว
แม้จะไม่ตรงเป็นคำๆ แต่ก็มีความหมายตรงกันกับข้อความข้างต้นนี้ ทั้งยังเป็นการพูดชนิดที่เรียกว่า ติดปากอีกด้วย คือพูดอยู่เสมอ ได้รู้ได้เห็นการตายของผู้ใดทีไรก็มักจะอุทาน เป็นการปลงด้วยความหมายดังกล่าวแทบทั้งนั้น


นี่เป็นเพราะทุกคน มีความรู้อยู่แก่ใจว่า
ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย ไม่มีใสักคนเดียวที่จะหนีความตายพ้น
นับว่าทุกคนมีความได้เปรียบอยู่ประการหนึ่ง ที่มีความรู้นี้ติดตัวติดใจอยู่ประการหนึ่ง ที่ไม่เห็นค่า ไม่เห็นประโยชน์ของความรู้นี้
จึงไม่ใส่ใจเท่าที่ควร ปล่อยปละละเลย รู้จึงเหมือนไม่รู้ สิ่งที่เป็นคุณ เป็นประโยชน์จึงเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่มีค่า



ควรหัดตายก่อนตายไว้เสมอ...
ความรู้ว่า ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย เป็นสิ่งที่เป็นคุณเป็น

ประโยชน์ยิ่งใหญ่ แม้ใสใจในความรู้นี้ให้เท่าที่ควร ก็จะสามารถนำให้เกิดคุณเกิดประโยชน์แก่ตนเองได้มหาศาล ไม่มีคุณ ไม่มีประโยชน์ใดอาจเปรียบปานได้ เพื่อเสริมส่งความรู้นี้ให้บังเกิดคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ตนเอง
และแก่ส่วนรวม ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาทั้งหลาย ท่านจึงสอนให้หัดตายเสี่ยก่อน
ก่อนถึงเวลาตายจริง ท่านสอนให้หัดตายไว้เสมอ อย่างน้อยก็ควรวันละหนึ่งครั้ง ครั้งละ 5 นาที 10 นาทีอย่างน้อย

พิจารณาความกลัวตายช่วยให้จิตเกิดเมตตา
การหัดตายนั้น บางคนบางพวกน่าจะเริ่มด้วยหัดคิดถึงสภาพเมื่อตนกำลังจะถูกประหัตประหารให้ถึงตายคิดให้ลึกซึ้งถึงความกลัวตายของตนในขณะนั้น แล้วก็คิดจนถึงเมื่อต้องถูกประหัตประหารถึงตายจนได้

แม้จะกลัวแสนกลัว แม้จะพยายามกระเสือกกระสนช่วยตนเองให้รอดพ้นอย่างไร
ก็หารอดพ้นไม่ ต้องตายด้วยความทรมานทั้งกายทั้งใจ
การหัดตาย ด้วยเริ่มตั้งแต่ความกลัวตายแบบทารุณโหดร้ายเช่นนี้
มีคุณเป็นพิเศษแก่จิตใจ จักสามารถอบรมบ่มนิสัยที่แม้เหี้ยมโหด
อำมหิตปราศจากเมตตากรุณาต่อชีวิตร่างกายผู้อื่น ให้เปลี่ยนแปลงได้
ความคิดที่จะประหัตประหารเขาเพื่อผลได้ของตน จักเกิดได้ยาก หรือจักเกิดไม่ได้เลย

เพราะการพยายามหัดให้รู้สึกหวาดกลัว การถูกประหัตประหารผลาญชีวิตนั้น
เมื่อทำเสมอๆ ก็จะมีผลเป็นความเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้อื่นที่จะต้องหวาดกลัว
เช่นเดียวกัน ความเมตตาปรานีชีวิตผู้อื่น สัตว์อื่นจะเกิดได้ แม้จะไม่เคยเกิดมาก่อน
ซึ่งก็เป็นการเมตตาปรานีชีวิตตนเองไปพร้อมกันด้วยอย่างแน่นอน
ผู้ประหัตประหารเขา แม้จะได้สิ่งที่มุ่ง แต่ผลที่แท้จริงอันจะเกิดจากกรรม
คือการประหัตประหารที่ได้ประกอบกระทำลงไปนั้นจักเป็นทุกข์โทษแก่ผู้กระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อเหมือนผลของยาพิษร้าย กรรมนั้น
เมื่อทำแล้วก้เหมือนดื่มยาพิษร้ายแรง เข้าไปแล้ว จักไม่เกิดผลแก่ชีวิตและร่างกายก็ย่อมไม่มี ย่อมเป็นไปไมได้ ถ้าเป็นกรรมดีก็จักให้ผลดี



ถ้าเป็นกรรมชั่วก็จักให้ผลชั่ว เราเป็นพุทธศาสนิกชน นับถือพระพุทธศาสนา พึงมีปัญญาเชื่อจริงจังถูกต้องในเรื่องกรรม
และการให้ผลของกรรมเถิด จักเป็นสิริมงคล เป็นความสวัสดีแก่ตนเอง
....................................................


เรื่องความตาย - โดย..สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์