เห็นธรรมด้วยปัญญา

เห็นธรรมด้วยปัญญา



        เมื่อพระอริยสาวกถามพระพุทธองค์ว่า การเห็นความจริง เห็นไตรลักษณ์ เห็นอริยสัจสี่นั้น เห็นด้วยอะไร พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า ให้เห็นด้วยปัญญาจักษุ

       หมายถึงว่า มีความเห็นตรงตามความเป็นจริงของโลกและชีวิตว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบเป็นโลกและจักรวาลนั้น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป มีความแปรปรวนอยู่ตอลดเวลา ไม่สามารถคงอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอด บังคับบัญชาไม่ได้ เพราะเกิดจากเหตุจากปัจจัยมาประชุมรวมตัวกันชั่วคราว พร้อมด้วยเหตุปัจจัยที่ต้องแยกแตกสลายก็ต้องแตกสลาย เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนั้นจึงเกิด เพราะสิ่งนั้นดับ สิ่งนี้จึงดับ หรือสรุปเป็นคำๆ เดียวว่า ไม่เที่ยง

รูปก็ดี นามก็ดี ไม่เที่ยง ทั้งหลายทั้งปวง คือ สิ่งที่มากระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ไม่เที่ยง ตัวเราก็ไม่เที่ยง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีอะไรรอดจากความจริงของโลกและชีวิตนี้

ทุกข์ในโลก แบ่งเป็นสอง คือ

ทุกข์ที่ธรรมชาติสร้าง
ได้แก่ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย และทุกข์ที่เราสร้างขึ้นมา คือ ความโศกเศร้า รำพึงรำพัน การโหยหา ความไม่สบายใจ ความลำบากใจ (โดยย่อ อุปทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์)

การดับทุกข์ที่เราสร้างขึ้นมาได้ ก็ดับทุกข์ที่เกิดตามธรรมชาติได้ เพราะการเกิดแก่เจ็บตาย หรือการเกิดชาติภพ มาจากการที่คนเรายังมีทุกข์ หรือมีบาป หลงเหลืออยู่ในจิตใจ

เมื่อเกิดความคิดเห็นแบบนี้ คือมีดวงตาเห็นธรรม คือผู้เห็นธรรมแล้วด้วยปัญญาจักษุ ไม่ได้หมายถึงต้องมองเห็นด้วยตา ไม่ว่าจะเป็นตานอก หรือตาใน

พระสารีบุตรได้ยินคำของพระอัสสชิกล่าวว่า "ธรรมใดเกิดแต่เหตุ" ก็เกิดมีดวงตาเห็นธรรม คือ ถึงบางอ้อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากเหตุจากปัจจัยไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ

พระพุทธองค์ใช้วิธีการนั่งสมาธิ ประกอบด้วยวิปัสสนา ที่บอกว่าไม่เหินห่างจากฌาน นั้นเป็นวิธีการหาความจริง ไม่ใช่วิธีการดับทุกข์ (วิธีการวิจัย ไม่ใช่ผลการวิจัย) พระพุทธองค์จะบอกเรื่องนี้กับพวกพราหมณ์ เพราะพวกพราหมณชอบถามว่าท่านตรัสรู้ด้วยตนเองได้อย่างไร เพราะพระพุทธองค์สั่งสมบุญบารมีมาว่า ๔ อสงไขย์แสนกัปล์ จึงพบปัญญาที่จะนำมาดับทุกข์ได้ด้วยตนเอง หรือพูดง่ายๆ ว่า การนั่งสมาธิจนพบวิธีการดับทุกข์นั้นเกิดขึ้นได้เฉพาะผู้ที่สามารถบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าได้เท่านั้น

         เปรียบเหมือนการค้นพบยาปฏิชีวนะ หากเราป่วยจะรักษาตน ก็คือเอายามากิน ไม่ใช่ไปเดินย้อนรอยวิธีการค้นพบยา หรือเอาวิธีการที่พระพุทธองค์ค้นพบมาปฏิบัติ คือการเจริญความเห็นเพื่อสร้างปัญญาที่ดับทุกข์ได้




ขอบคุณธรรมจักร

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์