จุลินทรีย์

ดังนั้นเขาจึงใช้ลนส์ส่องดูอย่างอื่นด้วย เพียงเพื่ออยาดเห็นว่าพวกมันมีลักษณะอย่างไรถ้าดูใกล้ๆ วันหนึ่งเขาลองใช้ส่องมองหยดน้ำฝน เขาถึงกับตลึงเมื่อพบว่ามีสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เป็นล้านๆ ตัวกำลังพุ่งไปมา เขาเอาเลนส์ออกแล้วมองดูด้วยตาเปล่า ไม่มีอะไรเป็นแค่หยดน้ำธรรมดาแล้วมองผ่านเลนส์อีกเขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตเหมือนเดิม กำลังดิ้นรน บิดตัว เลื้อยไปมาไม่อยู่นิ่ง

เขาตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ว่า จุลินทรีย์ นั้นเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ได้เห็นจุลินทรีย์ ลีเวนฮุคเริ่ขัดเลนส์เพื่อที่จะมองได้ชัดขึ้น เขาติดตั้งเลนบนขาตั้ง และนั้นคือการทำกล้องจุลทรรศน์สำหรับตัวเขาเองเขาส่องดูของเหลวที่ขูดออกจากปากของเขา ผิงหนัง เปลือกไม้ ใบไม้ รูของฟันผุ ในทุกๆที่เขาพบสัตว์โลกตัวเล็กๆ ที่ขยันขันแข็งเหล่านี้ ซึ่งจะมองไม่เห็นตลอดไปจนกว่าเขวจะเปิดเผยตัวมันออกมา
ด้วยเลนส์ของเขา เขาเขียนจดหมายแสดงความดีใจไปบอกนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ในประเทศอังกฤษ โรเบิร์ต ฮุคทำให้คนขนลุกขนพองด้วยการตีพิมพ์หนังสือเล่มหนึ่งในปีค.ศ. 1645หนังสือเล่มนี้บรรยายอย่างชัดเจนถึงสิ่งมีชีวิตเล็กมากที่เคยเห็น เขาเฝ้าดูหมัดดูดเลือดจากมือของเขาเอง และเขียนว่า ผมสามารถมองเห็นเลือดไหลตามเส้นเลือดเล็กๆจากปากของมันไหลลงสู่ท้อง

บรรดาแพทย์ในทศวรรษที่ 19 กลายเป็นนักล่าจุลินทรีย์อย่างจริงจัง ในทันทีที่ หลุยส์ปาสเตอร์ในฝรั่งเศษค้นพบว่าเชื่อโรคและการเน่าเปื่อยมีสาเหตุมาจากจุลินทรีย์ บรรดานายแพทย์ต่างใช้กล้องจุลทรรศน์ดูจุลินทรีย์ที่เป็นต้นเหตุของโรคสามัญต่างๆ

นายแพทย์เรียนรู้วิธีการควบคุมและทำลายมันพวกเขาไม่สามารถพบจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรคเหล่านี้: ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคหัด โรคคางทูม อีสุกอีใส และไข้ทรพิษ แม้พวกเขาจะมั่นใจว่าพวกมันมีตัวตนอยู่

พวกเขาไม่พบคำตอบในความลึกลับนี้จนกระทั่งในทศวรรษ 1930 เมื่อมีการผลิตกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนออกมากล้องชนิดนี้ใช้อณูเล็กๆ มากมายที่ชื่อว่าอิเล็กตรอนแทนการใช้แสงธรรมดา

และนั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถมองเห็สิ่งที่มัวกว่าสิ่งที่ตามองเห็นได้ถึงล้านเท่า นั้นเองจึงได้พบเจ้าตัวร้ายที่เป็นต้นเหตุของโรคที่อธิบายไม่ได้-พวกมันเป็นจุลินทรีย์ที่เล็กกว่าที่พวกเขาเคยคิดว่ามันมีอยู่ พวกมันมีชื่อว่า ไวรัส

ข้อมูลที่มีคุณภาพจากหนังสือ 108 สิ่งประดษฐ์
ผู้แต่ง อัญชลี วิเศษสังข์ เรียบเรียง
สำนักพิมพ์ สมิต