ถ้าคุณไม่เข้าใจในครั้งแรกไม่ต้องกังวล เป็นปกติของคนที่พยายามศึกษาทฤษฎีนี้ เป็นทฤษฎีที่ต้องการความเข้าใจมากอยู่พอสมควร ดูหลายๆครั้งแล้วจะเข้าใจเอง
เห็นคนรู้จักไอน์สไตน์นักฟิสิกส์ในตำนานและสมการชื่อดัง E=mc ยกกำลัง 2 แต่ไม่เข้าใจมันคืออะไร วันนี้คุณจะกระจ่างกับผลงานที่เขาได้สร้างไว้ให้ตระหนัก ทำให้เรารู้ความลับของดวงดาวและจักรวาลเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้รู้อีกว่ามวลอันน้อยนิดสามารถแปลงเป็นพลังงานได้มหาศาลถ้าทำถูกวิธี และที่สำคัญคือทฤษนี้ได้เปลี่ยนแปลงความหมายของเวลา เวลาไม่ใช่สิ่งสากล ทุกคนมีเวลาไม่เท่ากัน วัตถุใดมีความเร็วมากเวลาของมันก็จะเคลื่อนที่ช้าลง และความยาวของทุกสิ่งรอบตัวมันก็จะหดลงเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น แสง เป็นพลังงานที่มีความลึกลับพิศวงอยู่มาก ให้อธิบายวันนี้ว่ามันคืออะไรก็ไม่สามารถอธิบายหมดได้ แสงเคลื่อนที่เร็วที่สุดในจักรวาล ซึ่งจากทฤษฎีของไอน์สไตน์ ทำให้เราพบว่า เวลาของแสงจะช้าลง จนกระทั่งเวลาหยุดลงเลยทีเดียว และทำให้ระยะของทุกสิ่งรอบตัวมันหดลงจนเหลือ 0 เพราะฉะนั้น ในมุมมองของแสง แสงจะมองเห็นทุกสิ่งรอบตัวหยุดนิ่งเพราะเวลาได้หยุดลง และความยาวของจักรวาลคือ 0 ดังนั้นแสงจึงไม่สามารถรับรู้ได้ถึงเวลา อวกาศและจักรวาลเลย
เห็นคนรู้จักไอน์สไตน์นักฟิสิกส์ในตำนานและสมการชื่อดัง E=mc ยกกำลัง 2 แต่ไม่เข้าใจมันคืออะไร วันนี้คุณจะกระจ่างกับผลงานที่เขาได้สร้างไว้ให้ตระหนัก ทำให้เรารู้ความลับของดวงดาวและจักรวาลเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้รู้อีกว่ามวลอันน้อยนิดสามารถแปลงเป็นพลังงานได้มหาศาลถ้าทำถูกวิธี และที่สำคัญคือทฤษนี้ได้เปลี่ยนแปลงความหมายของเวลา เวลาไม่ใช่สิ่งสากล ทุกคนมีเวลาไม่เท่ากัน วัตถุใดมีความเร็วมากเวลาของมันก็จะเคลื่อนที่ช้าลง และความยาวของทุกสิ่งรอบตัวมันก็จะหดลงเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น แสง เป็นพลังงานที่มีความลึกลับพิศวงอยู่มาก ให้อธิบายวันนี้ว่ามันคืออะไรก็ไม่สามารถอธิบายหมดได้ แสงเคลื่อนที่เร็วที่สุดในจักรวาล ซึ่งจากทฤษฎีของไอน์สไตน์ ทำให้เราพบว่า เวลาของแสงจะช้าลง จนกระทั่งเวลาหยุดลงเลยทีเดียว และทำให้ระยะของทุกสิ่งรอบตัวมันหดลงจนเหลือ 0 เพราะฉะนั้น ในมุมมองของแสง แสงจะมองเห็นทุกสิ่งรอบตัวหยุดนิ่งเพราะเวลาได้หยุดลง และความยาวของจักรวาลคือ 0 ดังนั้นแสงจึงไม่สามารถรับรู้ได้ถึงเวลา อวกาศและจักรวาลเลย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
