กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
ฉีด เจ้าโลก อันตราย?!?
มีผู้ชายหลายคนที่ไม่พอใจกับขนาดอวัยวะเพศของตัวเอง พยายามสรรหาสารพัดวิธีเพื่อทำให้มันใหญ่ขึ้น ทั้งบีบ นวด ฉีด โดยไม่สนใจผลแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นตามมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวการฉีดอวัยวะเพศจนเน่า ใช้การไม่ได้ แถมหมอก็ออกมาเตือนอยู่บ่อย ๆ แต่หลายคนก็ไม่ฟัง จนท้ายที่สุดต้องมานั่งเสียใจกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ดนัยพันธ์ อัครสกุล หัวหน้างานศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่า ความนิยมในการฉีดอวัยวะเพศชาย มีอยู่เรื่อย ๆ เห็นได้จากผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษายังมีอย่างต่อเนื่อง อย่างโรงพยาบาลราชวิถีก็มีผู้เข้ามารับการรักษาหลายรายต่อปี ดังนั้นเชื่อว่าในโรงพยาบาลรอบ นอก หรือในต่างจังหวัด น่าจะมีผู้ชายที่ฉีดอวัยวะเพศเข้าไปรักษาพอสมควร
เหตุผลในการฉีดอวัยวะเพศ ทราบจากผู้ป่วยว่า เพื่อต้องการให้อวัยวะเพศดูใหญ่ขึ้นและแข็งตัวดี บางคนก็บอกว่าเพื่อนชวน หรือเมาแล้วเพื่อนฉีดให้ บางคนก็ให้เหตุผลว่า เป็นความต้องการของฝ่ายหญิง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการฉีดถือว่าแพงพอสมควร ถึงขั้นหลักหมื่นก็มี
ของเหลวที่นำมาฉีดมีหลายชนิด ได้แก่ พาราฟิน ขี้ผึ้งเหลว น้ำมันมะกอก น้ำมันมวย แต่ที่นิยมกัน คือ น้ำมันมะกอก โดยจะฉีดเข้าไปบริเวณหนังหุ้มองคชาต การฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปบริเวณดังกล่าว ถือว่าอันตรายมาก เพราะเมื่อร่างกายไม่ต้องการ จะเกิดกระบวนการต่อต้าน ขับสิ่งแปลกปลอมออก ผลตามมา คือ จะทำให้เกิดอาการอักเสบ บวม แดง เป็นแผลติดเชื้อ จนเกิดเป็นเนื้อตาย ในบางรายอาจถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพศทิ้ง นอกจากนี้สารแปลกปลอมที่ฉีดเข้าไป อาจไหลลงไปบริเวณหัวหน่าว หรือ ลูกอัณฑะ จนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา
จากประสบการณ์ในการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยที่ฉีดอวัยวะเพศ พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมาด้วยอาการที่รุนแรงแล้ว ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น เป็นการผ่าตัดเลาะเอาเนื้อตาย และสารแปลกปลอมออก
รวมทั้งเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต โดยจะพยายามผ่าตัดตกแต่งใหม่ให้คงสภาพเดิมมากที่สุด ภายหลังการผ่าตัดรูปร่างของอวัยวะเพศอาจจะไม่เหมือนเดิม เพราะมีร่องรอยของการผ่าตัด ในผู้ป่วยบางรายอาจจะใช้งานได้ไม่เหมือนเดิม สำหรับขั้นตอนในการผ่าตัด เริ่มจากดมยาสลบ จากนั้นจะค่อย ๆ เลาะเอาหนังหุ้มองคชาต ที่เป็นเนื้อตาย หนังแข็ง เลือดไปเลี้ยงไม่ได้แล้วออกให้หมด แล้วนำหนังใหม่ ซึ่งได้จากถุงอัณฑะมาเย็บปิดแทน หรืออาจจะใช้หนังบริเวณหน้าขา มาเย็บปิดแทนก็ได้ โดยกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2 ชม. แต่กว่าแผลจะหายสนิท และใช้งานได้ตามปกติก็กินเวลาเป็นเดือน
ผลกระทบจากความอยากใหญ่ นอกจากผู้ป่วยจะต้องเจ็บตัว และหวิดที่จะสูญเสียกล่องดวงใจแล้ว นพ.ดนัยพันธ์ บอกว่า ผู้ป่วยจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษาเองทั้งหมด เนื่องจากระบบหลักประกันสุขภาพ ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ ไม่ครอบคลุม เพราะถือเป็นโรคที่เกิดจากการกระทำของผู้ป่วยที่อยากใหญ่เอง
ท้ายนี้ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะฉีดอวัยวะเพศ ว่า จงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญเสมอไป ขึ้นอยู่กับลีลามากกว่า อย่างผู้ป่วยหลายคนที่มารักษา ขนาดก็ดูปกติดี ไม่ได้เล็กจนเกินไป ก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมต้องไปฉีด ผู้ชายไทยไม่ควรนำขนาดของตัวเองไปเปรียบเทียบกับขนาดของฝรั่งที่มีโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่กว่า สิ่งสำคัญ คือ คนรัก คู่นอน หรือภรรยา ควรให้กำลังใจฝ่ายชายด้วย มิใช่ ไปพูดให้เป็นปมด้อย จนทำให้ฝ่ายชายตัด สินใจหาทางออกด้วยการไปฉีดเพิ่มขนาดให้ตัวเอง.
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ดนัยพันธ์ อัครสกุล หัวหน้างานศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่า ความนิยมในการฉีดอวัยวะเพศชาย มีอยู่เรื่อย ๆ เห็นได้จากผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษายังมีอย่างต่อเนื่อง อย่างโรงพยาบาลราชวิถีก็มีผู้เข้ามารับการรักษาหลายรายต่อปี ดังนั้นเชื่อว่าในโรงพยาบาลรอบ นอก หรือในต่างจังหวัด น่าจะมีผู้ชายที่ฉีดอวัยวะเพศเข้าไปรักษาพอสมควร
เหตุผลในการฉีดอวัยวะเพศ ทราบจากผู้ป่วยว่า เพื่อต้องการให้อวัยวะเพศดูใหญ่ขึ้นและแข็งตัวดี บางคนก็บอกว่าเพื่อนชวน หรือเมาแล้วเพื่อนฉีดให้ บางคนก็ให้เหตุผลว่า เป็นความต้องการของฝ่ายหญิง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการฉีดถือว่าแพงพอสมควร ถึงขั้นหลักหมื่นก็มี
ของเหลวที่นำมาฉีดมีหลายชนิด ได้แก่ พาราฟิน ขี้ผึ้งเหลว น้ำมันมะกอก น้ำมันมวย แต่ที่นิยมกัน คือ น้ำมันมะกอก โดยจะฉีดเข้าไปบริเวณหนังหุ้มองคชาต การฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปบริเวณดังกล่าว ถือว่าอันตรายมาก เพราะเมื่อร่างกายไม่ต้องการ จะเกิดกระบวนการต่อต้าน ขับสิ่งแปลกปลอมออก ผลตามมา คือ จะทำให้เกิดอาการอักเสบ บวม แดง เป็นแผลติดเชื้อ จนเกิดเป็นเนื้อตาย ในบางรายอาจถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพศทิ้ง นอกจากนี้สารแปลกปลอมที่ฉีดเข้าไป อาจไหลลงไปบริเวณหัวหน่าว หรือ ลูกอัณฑะ จนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา
จากประสบการณ์ในการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยที่ฉีดอวัยวะเพศ พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมาด้วยอาการที่รุนแรงแล้ว ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น เป็นการผ่าตัดเลาะเอาเนื้อตาย และสารแปลกปลอมออก
รวมทั้งเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต โดยจะพยายามผ่าตัดตกแต่งใหม่ให้คงสภาพเดิมมากที่สุด ภายหลังการผ่าตัดรูปร่างของอวัยวะเพศอาจจะไม่เหมือนเดิม เพราะมีร่องรอยของการผ่าตัด ในผู้ป่วยบางรายอาจจะใช้งานได้ไม่เหมือนเดิม สำหรับขั้นตอนในการผ่าตัด เริ่มจากดมยาสลบ จากนั้นจะค่อย ๆ เลาะเอาหนังหุ้มองคชาต ที่เป็นเนื้อตาย หนังแข็ง เลือดไปเลี้ยงไม่ได้แล้วออกให้หมด แล้วนำหนังใหม่ ซึ่งได้จากถุงอัณฑะมาเย็บปิดแทน หรืออาจจะใช้หนังบริเวณหน้าขา มาเย็บปิดแทนก็ได้ โดยกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2 ชม. แต่กว่าแผลจะหายสนิท และใช้งานได้ตามปกติก็กินเวลาเป็นเดือน
ผลกระทบจากความอยากใหญ่ นอกจากผู้ป่วยจะต้องเจ็บตัว และหวิดที่จะสูญเสียกล่องดวงใจแล้ว นพ.ดนัยพันธ์ บอกว่า ผู้ป่วยจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษาเองทั้งหมด เนื่องจากระบบหลักประกันสุขภาพ ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ ไม่ครอบคลุม เพราะถือเป็นโรคที่เกิดจากการกระทำของผู้ป่วยที่อยากใหญ่เอง
ท้ายนี้ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะฉีดอวัยวะเพศ ว่า จงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญเสมอไป ขึ้นอยู่กับลีลามากกว่า อย่างผู้ป่วยหลายคนที่มารักษา ขนาดก็ดูปกติดี ไม่ได้เล็กจนเกินไป ก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมต้องไปฉีด ผู้ชายไทยไม่ควรนำขนาดของตัวเองไปเปรียบเทียบกับขนาดของฝรั่งที่มีโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่กว่า สิ่งสำคัญ คือ คนรัก คู่นอน หรือภรรยา ควรให้กำลังใจฝ่ายชายด้วย มิใช่ ไปพูดให้เป็นปมด้อย จนทำให้ฝ่ายชายตัด สินใจหาทางออกด้วยการไปฉีดเพิ่มขนาดให้ตัวเอง.
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
