สารต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ


       เราได้ยิน ได้เห็น คำว่า “สารต่อต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)” อยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นในห้องเรียน ในการสัมมนา หรือโฆษณาจากวิทยุ โทรทัศน์ สารต่อต้านอนุมูลอิสระถูกเติมลงในอาหารเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ และยังช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของอาหาร

      สารอนุมูลอิสระ คือ สารที่ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ (free radical)
        อนุมูลอิสระส่วนใหญ่เป็นสารประกอบออกซิเจนหรือสารชนิดอื่นๆ ที่ไม่เสถียร เกิดขึ้นเมื่อร่างกายเผชิญกับมลภาวะต่างๆ ทั้งจากสิ่งแวดล้อม อาหาร หรือแม้แต่ความเครียด เมื่ออนุมูลอิสระถูกสร้างขึ้นในร่างกาย จะเข้าไปเกาะที่เซลล์ต่างๆ และพยามเปลี่ยนองค์ประกอบของเซลล์ หรืออนุมูลอิสระบางชนิดยังสามารถเข้าไปทำลายดีเอ็นเอ ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งและโรคต่างๆ ตามมา
       ดังนั้น การมีสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายมีความสำคัญมาก เพื่อที่จะได้ไปจับกับอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันผลร้ายต่างๆ ตามมา สารต้านอนุมูลอิสระมีทั้งชนิดสังเคราะห์และจากธรรมชาติ แน่นอนว่าของที่มาจากธรรมชาติย่อมดีที่สุด จากข้อมูลของบริษัท Frust and Sullivan (San Antonio, Texas) ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายสารต้านอนุมูลอิสระ เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายของสารต้านอนุมูลอิสระชนิดจากธรรมชาติสูงกว่าชนิดสังเคราะห์มากในช่วงห้าปีหลัง

ตัวอย่างสารต้านอนุมูลอิสระจากสารสกัดธรรมชาติ



สารต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ


1) วิตามินอีจากธรรมชาติ
       วิตามินอีจากธรรมชาติอยู่ในรูป d-tocopherol หรือ d-alpha-tocopherol ส่วนวิตามินอีสังเคราะห์จะอยู่ในรูป dl-tocopherol หรือ dl-tocopherol จากงานวิจัย พบว่า วิตามินอีในรูป d-form ซึ่งได้จากธรรมชาติมีผลดีต่อร่างกายมนุษย์อย่างน้อยสองเท่าเมื่อเทียบกับวิตามินอีในรูป dl-form ซึ่งได้จากการสัเคราะห์ วิตามินอีมีความสามารถในการจับอนุมูลออกซิจนอิสระ ซึ่งช่วยป้องกันเซลล์ถูกทำลาย และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะ ในผู้สูงอายุ สำหรับปริมาณวิตามินอีธรรมชาติที่แนะนำให้บริโภค สำหรับผู้ใหญ่ คือ 400-800 IU/วัน

2) Green Tea Extract
      สำหรับในประเทศแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน หรือแม้แต่ไทย นิยมดื่มชากันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่สำหรับประเทศอเมริกาและยุโรปเพิ่งหันมาให้ความสนใจการดื่มชาเมื่อไม่นานมานี้เนื่องจากทราบถึงสรรพคุณต่างๆ ต่อร่างกาย ชาเขียวเป็นชาที่พบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด โดยสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในชาเขียว มีชื่อว่า ECCG (Epigallocatechin Gallate) ซึ่งเป็นสารประกอบพวกฟลาโวนอยด์ โดยได้พบว่า สารตัวนี้ช่วยป้องกันการทำลายของเซลล์และเนื้อเยื่อจากอนุมูลอิสระ ซึ่งมีผลในการป้องกันโรคหัวใจ โรคฟันและเหงือก รวมถึงช่วยควบคุม glucose metabolism ให้เป็นไปตามปกติ ตวามสามารถในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของ ECCG สูงกว่าวิตามินซีและอีถึง 25-1000 เท่า และนี่เป็นคำตอบว่าทำไมชาวญี่ปุ่นที่ดื่มชาเขียวกันมานาน ถึงมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน

3) Rosemary Extract
       คนไทยอาจจะไม่คุ้นกับโรสแมรีกันซักเท่าไหร่ โรสแมรีเป็นสมุนไพรที่มักใช้เพื่อให้กลิ่นและรสชาติในอาหารอเมริกันและยุโรป โรสแมรี (Rosmarinum officinalis L.) มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น rosmarinic acid, carnosol และ carnosic acid ซึ่งสารเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการชะลอและป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ ในอุตสาหกรรมอาหารมีการใช้สารสกัดโรสแมรีเป็นเวลานานแล้ว เพื่อช่วยยืดอายุการเก็บรักษา ลดการเกิดการหืนในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เมื่อเร็วๆ นี้ European Safety Authority (EFSA) ได้ยอมรับให้ผู้ผลิตอาหารสามารถใช้สารสกัดโรสแมรีเพื่อเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารชนิดต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ข้อดีของสารสกัดโรสแมรี คือ สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 240 ºซ จึงเหมาะสำหรับใช้เติมในน้ำมันทอดและขนมขบเคี้ยว

4) Pomegranate Extract
        การใช้สารสกัดจากทับทิมยังไม่ค่อยแพร่หลายนัก ทับทิมเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลที่สำคัญ คือ ellagic acid ซึ่งมีประสิทธิภาพในการจับอนุมูลอิสระสูงมาก จากงานวิจัย พบว่า สารสกัดทับทิมช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ โดยลดและป้องกันเซลล์ถูกทำลายจาก LDL oxidation, macrophage oxidative และ foam cell formation นอกจากนี้ สารสกัดทับทิมช่วยลดความดันโลหิตโดยยับยั้งการทำงานของ serum angiotension converting enzyme (ACE) ทำให้ตอนนี้นักวิจัยหันมาให้ความสนใจสารสกัดทับทิมเพิ่มขึ้นมาก

5) Grape Seed Extract
        สารสกัดองุ่นประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด สารที่สำคัญ คือ oligomeric procyanidins (OPCs) และ resveterol ซึ่งพบว่ามีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและอีถึงห้าสิบเท่า ดังนั้น สารสกัดองุ่นมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รักษาอาการต่างๆ ที่มีต้นเหตุมาจากอนุมูลอิสระ เช่น อาการปวด, ลดอาการอักเสบ, หลอดเลือดเปราะ, chronic venous insufficiency, varicose veins, macular degeneration และ diabetic retinopathy นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า OPCs ช่วยทำให้ผิวใส ระบบการหมุนเวียนเลือดเป็นปกติ ช่วยป้องกันคอลลาเจนถูกทำลายซึ่งเป็นสาเหตุของการเหี่ยวย่นเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น สารสกัดองุ่นจึงถูกนำมาใช้ในเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว

6) lycopene
       ไลโคปีนเป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบมากในมะเขือเทศและผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ นักวิจัยพบว่าไลโคปีนซึ่งมีสมบัติการต้านอนุมูลอิสระสูงมากสามารถลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ งานวิจัยล่าลุด นักวิจัยได้ทดลองในกลุ่มผู้ชายจำนวน 50,000 คน โดยให้รับประทานมะเขือเทศและผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศมากกว่า 10 ครั้งต่อหนึ่งสัปดาห์ ผลการทดลองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจอนว่าสามารถลดอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 34%

สารต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ



บทควาตชจากมุมวิทยาศาสตร์ดอทคอม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์