อย.ฟันธงกาเฟอีนในเครื่องดื่มชูกำลังไม่ใช่ยาเสพติด

รองเลขาฯ อย.ฟันธงเครื่องดื่มผสมกาเฟอีนไม่ใช่สารเสพติด จัดเป็นอาหารควบคุมผสมได้ 50 มิลลิกรัมต่อหน่วยบรรจุ ต้องแสดงฉลาก-คำเตือน มีข้อกำหนดเรื่องการโฆษณาห้ามใช้นักกีฬาและผู้ใช้แรงงาน

นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ให้สัมภาษณ์ว่า กาเฟอีนเป็นสารที่พบได้ในผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น ชา กาแฟ และกาเฟอีนสังเคราะห์ ซึ่งทั้ง 2 ลักษณะไม่ถือว่าเป็นยาเสพติด แต่หากนำกาเฟอีนสังเคราะห์มาผสมในอาหารหรือเครื่องดื่ม จัดเป็นอาหารควบคุม ต้องแสดงฉลากให้ผู้บริโภคทราบถึงปริมาณของกาเฟอีนในผลิตภัณฑ์นั้น ซึ่งเครื่องดื่มผสมกาเฟอีนหรือที่เรียกันติดปากว่า “เครื่องดื่มชูกำลัง” เป็นกาเฟอีนสังเคราะห์

อย.ฟันธงกาเฟอีนในเครื่องดื่มชูกำลังไม่ใช่ยาเสพติด


ตามระเบียบ อย.ให้ผสมกาเฟอีนได้ 50 มิลลิกรัมต่อหน่วยบรรจุ

และต้องแสดงฉลากคำเตือน “ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 ขวด เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่ม” ต้องไม่ทำให้เข้าใจว่า ดื่มแล้วเพิ่มพลังงาน มีพลัง ทำงานได้มากขึ้น ไม่รู้จักเหนื่อย ตื่นทันที ไม่ง่วงนอน ตื่นตลอดเวลาหรือทำให้ประสบความสำเร็จทางเพศ ต้องไม่ใช้นักกีฬาหรือผู้ใช้แรงงานเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ไม่ชักจูงหรือโน้มน้าวให้ซื้อเพื่อสาธารณกุศล

นพ.นิพนธ์ กล่าวว่า สารกาเฟอีนทั้งจากธรรมชาติและสังเคราะห์จัดเป็นสารประเภทอัลคาลอยด์ มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง

ระบบการไหลเวียนโลหิต หัวใจบีบตัวเร็วและแรงขึ้น กระตุ้นกล้ามเนื้อให้อยู่ในลักษณะพร้อมทำงาน จึงทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง “คำเตือนต้องจำกัดปริมาณดื่มไม่เกินวันละ 100 มิลลิกรัมต่อวันหรือไม่เกินวันละ 2 ขวด ถ้าเป็นกาแฟ ไม่เกินวันละ 2 แก้ว การได้รับกาเฟอีนทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตื่นตัว ไม่ง่วง แต่ถ้าได้รับสารนี้จำนวนมากและต่อเนื่องจะทำให้ร่างกายปรับตัวได้ และต้องการมากขึ้น ถ้าหยุดทันที จะทำให้ปวดศีรษะ กระวนกระวาย เป็นไมเกรน”นพ.นิพนธ์ กล่าว และว่าการได้กาเฟอีนปริมาณสูง ยังทำให้ใจสั่น ขาดสมาธิ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์