ย้อนอดีตนางโลมญี่ปุ่น! ชีวิตที่เลือกไม่ได้ของหญิงที่เกิดมาปรนเปรอชาย


ย้อนอดีตนางโลมญี่ปุ่น! ชีวิตที่เลือกไม่ได้ของหญิงที่เกิดมาปรนเปรอชาย

           ว่ากันว่าอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์นั้นคือการ "ขายบริการทางเพศ" ซึ่งในประวัติศาสตร์นั้นก็จะมีเรื่องเล่าเอาไว้มากมายเกี่ยวกับ "ซ่อง" ในอาณาจักรต่างๆ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์ด้านเทาๆ ของโสเภณีญี่ปุ่น ที่ถือว่ามีความเป็นมาที่ยาวนานและดูขลังเป็นระเบียบแบบแผนตามฉบับญี่ปุ่น ลึกซึ้งจนคาดไม่ถึง

คนปกติทั่วไปมักจะคิดว่า "เกอิชา" นั้นคือหญิงขายบริการ แต่ความเป็นจริงแล้วเกอิชานั้นไม่ใช่กลุ่มหญิงที่ขายบริการแต่จะเป็น "ยูโจ" ต่างหาก ซึ่งคำว่า "ยูโจ" นั้นมีความหมายว่า "หญิงสาวผู้มอบความสุข" และก็จะแยกไปอีกตามลำดับชั้นซึ่งจะมีการแบ่งลำดับออกไปตามความนิยม ความสวย ฝีมือในการบริการลูกค้า

"ยูโจ" นั้นจะแยกประเภทใหญ่ๆ เป็นแบบหญิงนางโลมแบบมีสังกัดและไม่มีสังกัด ในกลุ่มหญิงที่ไม่มีสังกัดนั้นจะถูกเรียกว่า "จิโกะคุโกะ" ซึ่งมีความหมายว่า "สาวนรก" ซึ่งนางโลมที่ไม่มีสังกัดนั้นจะมีราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดเป็นเพราะว่าหน้าตาไม่ค่อยสะสวย ที่สำคัญนั้นยังถูกรังเกียจจากนางโลมด้วยกัน เพราะถือว่าจิโกะคุโกะนั้นเป็นนางโลมที่ไม่มีระดับ ถ้าจะเปรียบเหมือนซามูไรก็คงจะเป็นเหล่าโรนินนั่นเอง

การที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเข้ามาเป็นยูโจได้นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเด็กหญิงที่ถูกพ่อแม่ขายให้กับเจ้าของหอนางโลมด้วยความยากจน หรืออาจจะเป็นเหล่าเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ตายในภัยสงครามและเจ้าของหอนางโลมได้นำมาชุบเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ซึ่งเมื่อรู้ความอายุได้ประมาณ 5-6 ขวบ ก็จะถูกนำไปรับใช้ยูโจคนอื่นๆ ต่อไปในตำแหน่ง "คามุโระ" คอยทำหน้าที่ส่งสาส์น ดูแล วิ่งซื้อของให้ยูโจในสังกัด ซึ่งยูโจแต่ละคนนั้นสามารถที่จะมีคามุโระกี่คนก็ได้ตามชื่อเสียงของตนเอง หากเป็นยูโจที่เป็นดาวก็จะมีคามุโระคอยรับใช้มากมายการเป็นคามุโระของเด็กผู้หญิงนั้นจะสิ้นสุดลงเมื่ออายุ 9 ขวบ พวกเธอจะถูกเลื่อนขั้นให้เป็น "ชินโซ" ซึ่งในระหว่างที่อยู่ในลำดับชินโซก็จะทำหน้าที่เหมือนเดิมคือการรับใช้ยูโจ แต่จะเพิ่มเติมการเรียนศิลปะร่ายรำ อ่านเขียนเพิ่มเข้ามา ซึ่งนั่นก็อยู่ที่ความอนุเคราะห์ของเจ้าของหอนางโลมด้วย บางคนก็ถูกสนับสนุนให้เรียนเพราะว่ามีหน้าตาสะสวยมีแววที่จะได้เป็นดาว เด็กหญิงจะอยู่ในตำแหน่งชินโซไปจนกว่าจะมีอายุพร้อมที่จะรับแขกคนแรก ซึ่งการรับแขกคนแรกนั้นจะถูกเรียกว่า "พิธีมาซุอาเงะ" พิธีนี้จะให้แขกเข้ามาประมูลว่าใครจะได้เป็นคนแรกของชินโซที่จะก้าวขึ้นไปเป็นยูโจ ราคาก็แล้วแต่ความงามของแต่ละคน

เมื่อเด็กหญิงผ่านพิธีมาซุอาเงะและเธอก็จะกลายเป็นยูโจโดยสมบูรณ์ ซึ่งก็จะมีการไต่เต้าลำดับขึ้นไปอีกโดยวัดจากความนิยม ซึ่งการรับแขกแต่ละครั้งของยูโจนั้นไม่ใช่เพียงการทอดกายให้แขกเสพสมเพียงเท่านั้น ยังมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราว รวมไปถึงการแสดงศิลปะต่างๆ เช่นการร่ายรำ เขียนหนังสือ ชงชา ยิ่งถ้าใครเก่งมากเท่าไหร่โอกาสที่จะได้เป็นดาวก็มีมากเท่านั้น

ยูโจในญี่ปุ่นนั้นถูกจัดให้เป็นหมวดหมู่ในสมัยเคโซ (ประมาณทศวรรษ 1600) โดยการจัดระเบียบหญิงขายบริการที่มีกระจัดกระจายทั่วญี่ปุ่นให้มารวมอยู่ในที่เดียวกันแบบถูกกฎหมาย ซึ่งก็จะมีกฎต่างๆ ขึ้นมา เช่น การห้ามยูโจออกไปนอกเขตที่กำหนดไว้และห้ามผู้หญิงเข้ามาด้วยเช่นกัน การใส่เสื้อผ้าของยูโจนั้นจะไม่อนุญาตให้ใส่ชุดที่ใช้ด้ายเงินและด้ายทองเป็นอันขาด เพื่อแสดงว่าหญิงคนนั้นคือยูโจ และอีกอย่างหนึ่งก็คือพวกเธอจะไม่มีใครใส่ถุงเท้าเลยสักคนแม้ในฤดูหนาว เพราะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของยูโจที่ต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา

การเป็นยูโจของหญิงญี่ปุ่นนั้นมีอยู่ 2 ทางที่จะหลุดออกไปจากวงจรนี้ก็คือการที่มีคนนำเงินมาไถ่ตัวกับเจ้าของหอนางโลม หรือไม่ก็เสียชีวิตหากใครไม่มีคนมาไถ่ตัวก็จะต้องอยู่ข้างในไปจนตาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วยูโจนั้นไม่ค่อยมีใครที่อายุยืนสักเท่าไหร่เพราะเสียชีวิตด้วยโรคทางเพศสัมพันธ์อย่างซิฟิลิส หากใครโชคดีอายุยืนก็จะเปลี่ยนสถานะมาเป็นแม่เล้าแทน แต่สำหรับเหล่ายูโจที่เสียชีวิตไปนั้น ร่างที่ไร้วิญญาณของพวกเธอจะถูกห่อใส่เสื่อนำไปที่วัดใกล้กับย่านนางโลมฝังโดยที่ไม่ระบุชื่อ เพราะการทำหลุมศพนั้นถือว่ามีค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งและเจ้าของหอนางโลมนั้นไม่ยินดีที่จะจ่าย เรียกได้ว่าชีวิตของพวกเธอนั้นถูกใช้งานเพื่อผลประโยชน์อย่างหมดจดเลยทีเดียว

Cr::SpokeDark.TV


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์