ตายเพราะน้ำอัดลม !!!

ตายเพราะน้ำอัดลม !!! ตายเพราะน้ำอัดลม !!!

ตายเพราะน้ำอัดลม !!!
อันตรายจากน้ำอัดลม !!!

คุณแม่ยังสาวคนหนึ่งเสียชิวิตเนื่องจากไตวายทั้งสองข้าง เธอได้รับการรักษาที่รพ.เพอร์ทามิน่าเป็นเวลาหนึ่งเดือน โดยได้รับอนุญาตให้กินได้แค่นํ้า 1 แก้วในหนึ่งวันเท่านั้น หมอให้การรักษาเธอ แต่ดูเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว เธอเล่าว่าเธอดื่มนํ้าอัดลมตอนทานอาหารกลางวันทุกวัน แต่แม้ว่าเธอจะดื่มนํ้าอัดลมเพียงวันละ 1 แก้ว มันก็สามารถทำลายอวัยวะภายในของเธอได้ ท้ายที่สุดเธอเสียชีวิตลงเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว โดยทิ้งบุตรชายวัย 1 ขวบไว้ นํ้าอัดลมอันตราย!!!

หัวข้อนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ " น้ำอัดลม " ซึ่งน่าสนใจมาก สำหรับผู้ที่ชอบดื่มน้ำอัดลม ซึ่งคิดว่าคุณรู้เรื่องเกี่ยวกับนํ้าอัดลมดีแล้ว
นํ้าอัดลมสามารถ....

ทำความสะอาดห้องนํ้าโดยการรินโค้กลงในโถชักโครก ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงแล้วจึงกดชักโครก กรดซิติกในโค้กจะขจัดคราบสกปรกได้อย่างดี
ใช้ขัดจุดสนิมบนกันชนรถโดยการขัดกันชนด้วยแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ขยําเป็นชิ้นเล็ก ๆและจุ่มโค้ก ใช้ทำความสะอาดรอยกัดกร่อนบนสายแบตเตอรี่รถโดยการรินโค้กให้ทั่วสายแบต ฟองที่เกิดขึ้นจะช่วยขจัดรอยดังกล่าวได้ ช่วยทำให้รอยสนิมบนผ้าจางลงโดยการจุ่มผ้าในโค้กประมาณ 2-3 นาที
ช่วยอบแฮมที่ชื้นได้ โดยการเทโค้ก 1 กระป๋องลงในกระทะซึ่งตั้งไฟไว้แล้วใส่แฮมที่ห่อด้วย อลูมิเนียมฟอยล์ลงไป แกะฟอยล์ออก 30 นาทีก่อนแฮมสุก และผสมแฮมกับโค้กจะได้นํ้าเกรวี่สีนํ้าตาล ช่วยขจัดรอยฝังแน่นจากผ้าโดยการเทโค้ก 1 กระป๋องลงบนผ้าสกปรก เติมนํ้ายาซักผ้าและซักตามปกติ โค้กจะช่วยทำให้คราบฝังแน่นจางลง
และยังช่วยทำความสะอาดรอยนํ้าซึ่งกระเด็นจากถนนบนกระจกรถได้อีกด้วย แล้วเราก็ดื่มสิ่งนี้ลงไป!!! ข้อมูลเกี่ยวกับโค้กและเป๊ปซี่ นํ้าอัดลม เช่น โค้ก หรือ เป๊ปซี่มีค่ากรดด่างเท่ากับ 3.4 โดยประมาณซึ่งค่าความเป็นกรดนี้สามารถกัดกร่อนฟันและกระดูกได้
้ร่างกายคนเราจะหยุดสร้างกระดูก เมื่อเรามีอายุประมาณ 30 ปี หลังจากนั้นกระดูกจะกร่อนลงประมาณ 8-18% ในแต่ละปี โดยขึ้นอยู่กับความเป็นกรดของอาหารซึ่งบริโภคเข้าไป (ค่าความเป็นกรดไม่ได้ขึ้นกับรสชาติของอาหาร แต่ขึ้นกับค่าของธาตุโปแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เช่นฟอสฟอรัส เป็นต้น) และจะถูกขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ ส่วนประกอบของแคลเซียมซึ่งมีศักยภาพในการกัดกร่อนกระดูกจะไหลเวียนอยู่ในเส้น เลือดฝอย เส้นเลือดใหญ่เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของตับ ไต ลำไส้ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไตเสื่อมก่อนวัย และ มะเร็งไส้
นํ้าอัดลมไม่มีคุณค่าทางโภชนาการแต่อย่างใด (ในแง่ของวิตามิน และแร่ธาตุ) แต่จะมีส่วนผสมของนํ้าตาล มีกรดสูงมาก และมีสารปรุงแต่งจำพวก วัตถุกันเสียและสีมากกว่า บางคนชอบดื่มนํ้าอัดลมเย็นๆหลังทานอาหารแต่ละมื้อ ลองเดาสิว่าคนเหล่านั้นได้รับผลกระทบอะไรบ้าง

ร่างกายของคนเราขณะย่อยอาหารจะมีอุณหภูมิ 37 องศา แต่นํ้าอัดลมเย็นๆ ที่ดื่มเข้าไปมีอุณหภูมิตํ่ากว่า 37 องศามาก และมีอุณหภูมิเกือบจะ 0 องศาในบางครั้ง กรณีเช่นนี้ทำให้ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารของร่างกาย ตํ่าลง การย่อยอาหารทำได้ยากขึ้นและย่อยอาหารได้น้อยลง ในความเป็นจริงแล้ว อาหารในร่างกายจะเสียและส่งแก๊สซึ่งมีกลิ่นเหม็นออกมา อาหารจะเน่าเปื่อย และทำให้เกิดสารพิษซึ่งจะถูกดูดซึมในลำไส้และจะไหลเวียนในระบบเลือดไปทั่วร่างกาย สารพิษซึ่งแพร่ออกไปทั่วร่างกายนี้จะส่งผลให้เชื้อโรคต่างๆเจริญเติบโตได้ดีขึ้น คิดให้ดีก่อนที่คุณจะดื่มนํ้าอัดลม
คุณเคยคิดเวลาคุณดื่มนํ้าอัดลมหรือไม่ว่าคุณดื่มอะไรเข้าไป คุณกำลังกลืนสารคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่ไม่มีใครในโลกจะแนะนำให้คุณดื่ม สองเดือนต่อมา D2 มีการแข่งขันในมหาวิทยาลัย เดลีว่า “ใครดื่มน้ำอัดลมได้มากที่สุดเป็นผุ้ชนะ ” ผู้ชนะดื่มน้ำอัดลมเข้าไป 8 ขวด และเสียชีวิตทันทีเพราะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด มากเกินไป และมีก๊าซออกซิเจนในเลือดไม่เพียงพอ
หลังจากนั้น ผู้อำนวยการจึงสั่งห้ามขายนํ้าอัดลมในห้องอาหารของมหาวิทยาลัยอีก มีคนใส่ฟันซึ่งหลุดแล้วลงไปในขวดเป๊ปซี่ และมันถูกกัดกร่อนในเวลา 10 วัน ฟันและกระดูกเป็นอวัยวะในร่างกายเพียงอย่างเดียวซึ่งสามารถคงอยู่ได้ อีกหลายปีหลังจากที่มนุษย์เสียชีวิตลง ลองคิดดูสิว่านํ้าอัดลมจะมีผลอย่างไรต่อลำไส้อ่อนๆ และกระเพาะอาหารของเรา


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย
http://www.forest.ku.ac.th/webboard/showQAnswer.asp?qNo=555
__________________

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์