การที่กษัตริย์ไม่ใช่เป็นแค่ยอดนักการเมือง แต่ยังเป็นตัวแทนทางจิตใจของคนทั้งชาติ และสมควรได้รับการเทิดทูนบูชา ก็ย่อมควรค่ากับการค้นหาความเป็นมาของคำ ๆ นี้
ศัพท์ภาษาแองโกล-แซกซันคำว่า cyning ซึ่งมาจากคำว่า cyn หรือ kin และคำต่อท้าย -ing ที่แปลว่า “บุตรของ” (son of) ทำให้นึกย้อนไปถึงสมัยที่คนอังกฤษยังอยู่กันเป็นชนเผ่า ในยุคนั้นแต่ละเผ่าจะเลือกลูกชายคนโปรดที่เปล่งรัศมีความเป็นผู้นำ ให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าของตน ศัพท์คล้าย ๆ กันนี้ยังปรากฏให้เห็นในภาษาอื่น ๆ ทุกภาษาในกลุ่มภาษาเยอรมัน และมีความหมายทำนองเดียวกับคำว่า rex ในภาษาละติน
คำว่า Rex มาจากรากศัพท์เดียวกับภาษาในกลุ่มภาษายุโรปเกือบทั้งหมด คือมีความหมายทำนองว่า “ทำให้ตรง” ก่อนจะค่อย ๆ วิวัฒนาการมาเป็น “การปกครอง” (governing) คำว่ากษัตริย์ (king) นอกจากจะแปลว่าหัวหน้าที่เป็นชายแล้ว ยังบ่งบอกถึงการมีอำนาจบารมีอย่างแท้จริงอีกด้วย อย่างเช่น มหากษัตริย์แห่งเปอร์เชีย ซึ่งชาวกรีกในยุคนั้นเรียกว่า “กษัตริย์”
ในทางศาสนาคำว่ากษัตริย์ (king) ก็มีความสำคัญไม่น้อย โบราณเชื่อกันว่ากษัตริย์จะต้องสละพระชนม์ชีพเพื่อความอยู่ดีกินดีของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ในหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับปฏิหารย์และศาสนา ชื่อ The Golden Bough (คาคบทองคำ) เจมส์ เฟรเซอร์เขียนไว้ว่า “กษัตริย์จะต้องถูกปลงพระชนม์ในทันทีหากเริ่มมีเค้าลางว่าอำนาจของพระองค์เริ่มเสื่อม”
คงไม่มีใครอีกแล้วที่ได้ค้นหาความหมายของคำว่า “กษัตราธิราช” อย่างชนิดเอาให้มั่นคั้นให้ตายเท่ากับวิลเลียม เชกสเปียร์ เจ้าของบทละครเรื่อง “พระเจ้าริชาร์ดที่สาม” เชกสเปียร์ยังเขียนถึงอำนาจของกษัตริย์ในบทละครอีกหลายเรื่อง เช่น สะท้อนถึงอารมณ์ขันและความองอาจกล้าหาญในเรื่องพระเจ้าเฮนรีที่ห้า สะท้อนความเจ้าเล่ห์และเหี้ยมโหดในเรื่องคลอเดียส สะท้อนเรื่องอำนาจกับความอ่อนแอของมนุษย์ในเรื่องแมคเบธแอนด์คิงเลียร์
แต่สำหรับพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 เชกสเปียร์ประพันธ์ให้พระองค์ให้ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ด้วยความหวาดกลัวและถูกหลอกหลอนจากบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปด้วยพระหัตถ์ของพระองค์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
