เจ้าฟ้านิ่ม เจ้าฟ้าสังวาล ผู้เป็นที่มาของ นางกากี

สองสุขสองสังวาส
แสนสุดสวาทสองสู่สม
สองสนิทนิทรารมณ์
กลมเกลียวชู้สู่สมสอง
แย้มยิ้มพริ้มพักตรา
สาภิรมย์สมจิตปอง
แสนสนุกสุขสมพอง ในห้องแก้วแพรวพรรณราย
สมพลัดกลัดเมฆเกลื่อน
ฟ้าลั่นเลือนแลบแสงพราย
วลาหกตกโปรยปราย สายสินธุ์นองท้องธารา
เหราร่าเริงรื่น ว่ายเคล้าคลื่นหื่นหรรษา
สองสมกลมกรีฑา เป็นผาสุกทุกนิรันดร์

กาพย์พิศวาสบทนี้ เป็นเรื่อของชู้ ฝ่ายชายคือครุฑ ฝ่ายหญิงคือกากี สถานที่คือวิมานฉิมพลี เมื่อคบชู้กันแล้ว ก็มีผลดี คือมีความสุขสมรัก และไม่ต้องโทษทัณฑ์แต่ประการใดแต่นี่เป็นเรื่องแต่ง ผู้แต่งชี้ให้เห็นความแพศยาของผู้หญิงที่ชอบคบชู้ ทั้งผู้หญิงและชู้ต่างประสบความสำเร็จ ไม่ต้องรับกรรมแต่ประการใด เพราะเป็นเรื่องบนสวรรค์ บนวิมาน ครั้นเป็นเรื่องจริง เรื่องบนโลก การณ์หาได้เป็นไปอย่างนั้นไม่ เพราะฝ่ายชายและหญิงต่างรับกรรมกันทั้งคู่ จนถึงกับสิ้นชีวิต
เรื่องจริงนั้น เป็นเรื่องชู้เหมือนกัน ฝ่ายชายคือเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ผู้แต่กาพย์บทนี้ ฝ่ายหญิงคือเจ้าฟ้านิ่ม เจ้าฟ้าสังวาลย์ สถานที่คือบริเวณพระบรมมหาราชวังกรุงศรีอยุธยา เมื่อคบชู้กันแล้วกลับต้องรับทุกข์ ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายชายเป็นรัชทายาท กำลังจะได้ราชสมบัติ และฝ่ายหญิงกำลังเป็นที่โปรดปรานขององค์พระมหากษัตริย์ คือสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ
เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ (กุ้ง) เป็นกวี และเป็นกวีเอก ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาเลยที่เจ้าฟ้าพระองค์นี้จะเจ้าชู้เหมือนกวีโดยทั่วไป ทั้งนี้เห็นจะเป็นเพราะกวีเป็นคนช่างฝัน เมื่อฝันแล้วก็อยากจะทำให้สมฝัน โดยเฉพาะในเรื่องความพิศวาส เมื่อเป็นชู้กับพระสนมของพระราชบิดานั้น เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ไม่ใช่คนหนุ่ม แต่มีพระชายาแล้ว สำหรับพระอัครมเหสีนั้น ได้แก่เจ้าฟ้าอินทรสุดาวดีพระราชธิดา ซึ่งเป็นกนิษฐาภคินีร่วมพระชนนีกับเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ นอกจากทรงมีเจ้าฟ้าหญิงอินทสุดาวดี (กรมขุนพิสารเสนี) เป็นพระอัครมเหสีอยู่แล้ว ยังทรงมีพระชายและเจ้าจอมหม่อมห้ามอีกหลายองค์และหลายคน เช่น
เจ้าหญิงเส มีพระธิดาทรงนามว่าเจ้าฟ้าศรี
หม่อมพัน มีพระโอรสทรงนามว่าพระองค์เจ้าอาทิตย์ (กรมหมื่นพิทักษ์ภูเบศ)
หม่อนเหม หรือเหญก มีพระโอรสทรงนามว่า พระองค์เจ้าฉาย หรือฉัตร หรือเกิด
หม่อมเจ้าหญิงสวย มีพระธิดา 3 องค์ คือพระองค์เจ้าหญิงมิตร พระองค์เจ้าหญิงทับ และพระองค์เจ้าหญิงชื่น
หม่อมวัน มีพระโอรส คือพระองค์เจ้าศรีสังข์
หม่อมสรวยหรือสร้อย มีพระธิดา คือพระองค์เจ้าหญิงดาราหรือตา
หม่อมทองแดง มีพระโอรส คือพระองค์เจ้าชายแม้น
หม่อมสุ่น มีพระธิดา คือพระองค์เจ้าหญิงชี และพระองค์เจ้าหญิงชาติ
หม่อมต่วน มีพระโอรส คือพระองค์เจ้าชายมิ่ง
อย่างไรก็ตาม การที่เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ทรงเป็นชู้กับเจ้าฟ้านิ่ม เจ้าฟ้าสังวาลย์นั้นยังเอาแน่ไม่ได้นัก หรือจะกล่าวอีกอย่างหนึ่ง ถ้าพระองค์ไม่มีศัตรู เรื่องก็คงไม่รุนแรงถึงขั้นนี้ เรื่องการสร้างศัตรูนั้น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวร และประชวรโรคสำหรับบุรุษกลายไปเป็นพระโรคคธราช มีพระบัณฑูรให้ตำรวจมาเอาตัวเจ้ากรม ปลัดกรม นายเวร ปลัดเวร ในกรมหมื่นจิตรสุนทร กรมหมื่นสุนทรเทพ และกรมหมื่นเสพภักดี มาถามว่า เจ้ากรมเป็นแต่หมื่นตั้งกันในกรมขึ้นเป็นขุน ทำสูงกว่าศักดิ์ ให้ลงพระราชอาญาโบยหลังคนละ 15 ทีบ้าง 20 ทีบ้าง กรมหมื่นทั้งสามพระองค์นั้น ก็เป็นพระโอรสของสมเด็จพระเจ้าบรมโกศเหมือนกัน แต่ต่างพระชนนีกับเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ คงจะเป็นเหตุนี้เองจึงก่อให้เกิดการอาฆาตขึ้น กรมหมื่นสุนทรเทพ ได้แอบกระซิบสมเด็จพระเจ้าบรมโกศว่า กรมพระราชวังบวรฯ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ลอบเสด็จเข้าไปเป็นชู้กับเจ้าฟ้านิ่ม เจ้าฟ้าสังวาลย์ ถึงในพระราชวัง เป็นหลายครั้ง
ประวัติย่อ ๆ ของพระเจ้าฟ้าสังวาลย์นั้นมีว่า เป็นพระธิดาของพระองค์เจ้าแก้วลูกเธอในสมเด็จพระเพทราชา และเจ้าฟ้าเทพ ลูกเธอในสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ เมื่อได้เป็นพระมเหสีของพระเจ้าบรมโกศแล้ว มีโอรสธิดารวม 4 พระองค์ คือ
เจ้าฟ้ากุณฑล (ผู้นิพนธ์ดาหลัง-อิเหนาใหญ่)
เจ้าฟ้ามงกุฎ (ผู้นิพนธ์อิเหนาเล็ก)
เจ้าฟ้าสังคีต
เจ้าฟ้าอาภรณ์
เมื่อได้ทราบเรื่องการคบชู้สู่สาวเช่นนั้น สมเด็จพระเจ้าบรมโกศจึงโปรดให้ชำระ เจ้าฟ้านิ่ม เจ้าฟังสังวาลย์ก็ทรงรับเป็นสัตย์เมื่อเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์มาถึง ก็ทรงดำรัสสั่งพระมหาเทพ ให้ลงพระราชอาชญาจำห้าประการ และให้มีกระทู้ซักถามตามคำฟ้อง เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ก็ทรงรับเป็นสัตย์ตลอดข้อมหา
ใน พ.ศ.2299 โปรดให้ผูกเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ แล้วให้ลงพระราชอาชญาเฆี่ยนได้ยี่สิบที เกิดลมจุกกรมหมื่นสุนทรเทพขึ้นไปทูลว่าจุกหนัก จะขอพระราชทานให้แก้เสีย จึงมีพระราชโองการสั่งให้ริบรุ่งขึ้นให้เฆี่ยนอีกสองยกเป็นหกสิบทีและให้นาบพระบาทด้วย และให้ต่อว่ากรมพระราชวังว่า อ้ายปิ่นกลาโหมคบหาทำชู้กับมารดา เจ้ามิตรเป็นแต่ทาสภรรยา ให้เฆี่ยนถึง 700 ตายกับคา ที่มาคบหาทำชู้กับสามีภรรยาทั้งสององค์ แล้วก็มีพระราชบุตรด้วยถึงสามสี่พระองค์ และ 700 นั้น โปรดให้แบ่งออกเป็นสามส่วนยกเสียสองส่วน จะให้เฆี่ยนส่วนหนึ่ง แต่สองร้อยสามสิบทีจะว่าประการใด เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ให้การว่า จะขอรับพระราชอาญา ตามแต่จะทรงกรุณาโปรด จึงดำรัสว่าเฆี่ยนได้เท่าไรแล้วกรมหมื่นเทพพิพิธกราบทูลว่า ลงพระราชอาญาได้ 60 ทีแล้ว จึงดำรัสสั่งว่าให้เฆี่ยนยกสามสิบทีไปกว่าจนครบสองร้อยสามสิบที แล้วให้ลูกขุนและเสนาบดีพิจารณาโทษ ซึ่งได้ความเป็นว่าให้ประหารชีวิตด้วยท่อนจันทน์ แต่ตรัสขอชีวิตไว้ และให้นาบพระนลาต ถอดเสียจากเจ้าเป็นไพร่ และเจ้าฟ้านิ่มเจ้าฟ้าสังวาลย์นั้นให้เฆี่ยนองค์ละยกสามสิบที ให้ถอดเป็นไพร่จำไว้จนกว่าจะตาย และเจ้าฟ้าสังวาลย์นั้นอยู่ได้สามวันก็สิ้นพระชนม์ แต่เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ถูกเฆี่ยนถึงสี่ยกเป็น 180 ที จึงดับสูญสิ้นพระชนม์
สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ จึงโปรดให้เอาพระศพเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ กับเจ้าฟ้าสังวาลย์ไปฝังไว้ด้วยกัน ณ วัดไชยวัฒนารามเมื่อมีชีวิตอยู่ร่วมผ้าห่มเดียวกัน เมื่อตายไปก็ร่วมหลุมศพเดียวกัน เป็นไปตามบทประพันธ์บทหนึ่งของหลินอยู่ถึง กวีจีนทีนี้ หันมาดูความรักที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งนี้ว่าผูกพันกันแค่ไหน เพียงใด มีเพลงยาวอยู่หลายบทซึ่งสันนิษฐานกันว่า เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์เขียนส่งไปให้เจ้าฟ้านิ่มเจ้าฟ้าสังวาลย์ภายในพระบรมมหาราชวัง ขอนำเสนอเพลงยาวบทหนึ่งในสามบทของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ซึ่งเขียนไปให้เจ้าฟ้านิ่มเจ้าฟ้าสังวาลย์บทนี้รู้สึกว่ามีความซาบซึ้งแพร่หลายและเป็นบรมครูของเพลงยาวทั้งมวลจึงขอนำมาเสนอไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ

ปางพี่มาดสมานสุมาลย์สมร
ดั่งหมายดวงหมายเดือนดารากร
อันลอยพื้นอัมพรโพยมพราย
แม้นพี่เหิรเดินได้ในอากาศ
ถึงจะมาดก็ไม่เสียซึ่งแรงหมาย
มิได้ชมก็ภอได้ดำเนิรชาย
เมียงหมายรัศมีพิมานทอง
นี่สุดหมายที่จะมาดสมาลสมาน
สุดหาญที่จะเหิรเวหาศห้อง
สุดคิดที่จะเข้าเคียงประคอง
สุดสนองใจสนิทเสน่ห์กัน
โอ้แต่นี้นับทวีแต่เทวศ
จะต้องนองชลเนตรกันแสงศัลย์
จะแลลับเหมือนหนึ่งดับเดือนตะวัน
เมื่อเลี้ยวเหลี่ยมสัตตภัณฑ์ยุคนธร
ยิ่งคนึงยิ่งนานจะเหนภักตร ฉวยฉุดรักแล้วจะทอดฤไทยถอน
ไม่เหนกำม์ว่าจะนำให้ไกลกร
ไม่เหนรักว่าจะรอนให้แรมโรย
อกเอ๋ยเมื่อได้เคยประโลมเล่น ครั้นห่างเหนแล้วก็ตั้งแต่เตือนโหย
ยามดำเนินเดินดินอาดูรโดย ก่นแต่โกยกอบทุกข์มาทับกาย
จะผ่อนผันฉันใดก็ใช่ที่ อันนับปีแต่จะเริศจะร้างหาย
จะอาดูรแต่ผู้เดียวอยู่เปลี่ยวกาย มิไดวายความถวิลที่จินตนา
แสนเทวศสุดทวีครั้งนี้เอ๋ย ไม่เหนเลยว่าจะน้อยวาสนา
แต่ปางไกลแสนอาไลยทุกเวลา ครั้นคิดมาไม่เห็นหน้าแล้วอาวรณ์
แสนรักจะร่วมเรือนเหมือนบุหรง ที่พิศวงภานุมาศประภัศษร
เมื่อเลี้ยวลับศีขรินลงรอนรอน สุดอาวรณ์ที่นกยูงจะหมายปอง
แสนวิตกเหมือนกระต่ายที่ใฝ่ฝัน แสงพระจันทร์งามจรเวหาศห้อง
พระจันทร์อยู่สำราญวิมานทอง ฤาจะปองใจหมายกระต่ายดง
สงสารอกกระต่ายป่าพฤกษชาติ จะวายชีวาตม์ดับจิตด้วยพิศวง
แสนคนึงถึงเสน่ห์ที่จำนง ก็เหมือนอกกระต่ายดงที่หลงเดือน
โอ้สุดคิดสุดฤทธิ์เหนสุดรัก เพราะต่ำภักตรไม่มีศักดิ์เสมอเหมือน
ใครจะช่วยบำรุงรักช่วยตักเตือน โอนับเดือนก็จะหลับไปนับวัน
จึงจำจากเพราะวิบากให้วิบัติ ขอกอดสัตย์ไปจนสิ้นชีวาสัญ
ไม่ตั้งใจมิตรจิตรคิดผูกพันธ์ ขอหมายหมั้นกว่าจะม้วยชนมาน
ถ้าดับชีวิตไปสวรรค์ชั้นใดไฉน ขอตามไปร่วมทิพย์พิมานสมาน
ทุกมหันต์มหรรณพเอนกนาน จนสู่สถานที่สถิตย์นิพพานเมือง
โอ้ชาตินี้เหนน้องแล้วความสุข จะแสนทุกข์สุดโทมนัสเนื่อง
สุดปลุกใจปล้ำใจให้โศกเปลือง ยิ่งครุ่นคิดแล้วก็เครื่องทวีควาญ
เมื่อเวรามาบำราศให้ขาดรัก สงวนศักดิ์ไว้ให้งามเถิดทรามสงวน
คิดเสงี่ยมเจียมภักตรแต่พอควร ใครสงวนไม่เท่านวลสงวนกาย
เหนสุดถวิลสุดสิ้นบุพเพนิวาศ ที่มุ่งมาดมิได้สมอารมณ์หมาย
เจบจิตรคิดจะวางชีวาวาย ก็เสียดายด้วยอาไลยมิได้ลา
เชิญสำราญเถิดแม่อย่าหมองภักตร จงคงศักดิ์คงสถิตในยสถา
ต่อเมื่อไรวันกำหนดมรณา
ขอเหนหน้าเสียสักหน่อยภอชื่นใจ
อย่าเสียแรงที่มุ่งบำรุงรัก
มาดสมัครหมายสมานพิศไสม
ได้เห็นหน้าแล้วจะลาชีวาไลย
จะอวยโอษฐให้อโหสิกรรมกัน
ถึงอยู่ใกล้ก็เหมือนไกลเพราะใช่คู่
มิได้ชูชมโฉมประโลมขวัญ
เหนสิ้นบุญแล้วในเบื้องประจุบัน
ขอหมายมั่นบุญเบื้องบุรพา
แม้นกุศลเราสองเคยร่วมสร้าง
ขอร่วมห้องอย่าได้ห่างเสน่หา
เสียงผลที่ได้เพิ่มบำเพ็ญมา
ขอร่วมชีวาร่วมวางชีวาวาย
เกิดไหนขอให้ได้ถนอมภักตร
ความรักอย่าได้ร้างอารมณ์สลาย
รักนุชอย่าได้สุดเสน่ห์คลาย
ขอสมหมายที่ข้ามาดสมาทาน
อันสาราบำราศบำรุงคิด จาฤกไว้โดยสุจริตสาร
พยายามตามสัตย์ปัติญาณ พอแจ้งการที่กำม์ในกายเอย ฯ

เจ้าฟ้านิ่ม เจ้าฟ้าสังวาล ผู้เป็นที่มาของ นางกากี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์