ไมเคิล แจ็คสัน จ้าวตำนาน ราชาเพลงป็อป

ช๊อคโลก! "ไมเคิล แจ็คสัน" เสียชีวิตแล้ว ไมเคิล แจ็คสัน ฉายา ราชาเพลงป็อป อายุ 50 ปี ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลาประมาณเที่ยงของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หรือ เช้ามืดของวันศุกร์ที่ 26 มิย. ตามเวลาในประเทศไทย ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ที่บ้านพักของตัวเองใน Holmby Hills เมื่อช่วงบ่าย ก่อนที่ทีมแพทย์จะมาถึง หลังจากนั้นถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินที่ศูนย์การแพทย์ ยูซีแอลเอ (UCLA Medical Center) ลอสเองเจลลิส สหรัฐอเมริกา แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ทนายแฉ"แจ็คสัน"กินยาก่อนเสียชีวิต (26มิ.ย.) ไบรอัน ออกซ์แมน ทนายความและโฆษกของไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป็อปชื่อดัง เปิดเผยเมื่อวานว่า ก่อนการเสียชีวิตอย่างกระทันของแจ็คสันเมื่อวานนี้ เขาได้รับประทานยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อเปิดคอนเสิร์ตที่กรุงลอนดอนของอังกฤษในเดือนหน้า นายออกซ์แมนยังบอกด้วยว่าเขาเป็นห่วงมานานแล้วเกี่ยวกับการที่แจ็คสันรับประทานหลายขนานตลอดการทำงานในอาชีพนักร้อง เพื่อรักษารูปร่างหน้าตา และได้เปรียบเทียบกรณีของแจ็คสันว่าอาจคล้ายกับกรณีของแอนนา นิโคล สมิธ นางแบบนิตยสารเพลย์บอย ที่เสียชีวิตเนื่องจากรับประทานยาเกินขนาด นอกจากนี้ไมเคิล เลอวีน อดีตโฆษกส่วนตัวของเขา ได้ระบุในอีเมล์ว่า ขอสารภาพว่า เขาไม่รู้สึกแปลกใจกับข่าวการเสียชีวิตของแจ็คสัน เพราะแจ็คสันได้ใช้ชีวิตที่ทำร้ายตัวเองมาตลอดหลายปี ความสามารถของเขาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสงสัย แต่เขาก็อึดอัดมากกับการอยู่ในสายตาของคนทั่วโลกและคนธรรมดาคนหนึ่งไม่อาจทนรับความเครียดอย่างยาวนานได้ นอกจากนี้เจอร์เมน แจ็คสัน พี่ชายและโฆษกของครอบครัว บอกว่า แจ็คสันถูกส่งถึงศูนย์การแพทย์โรนัลด์ เรแกน ยูซีแอลเอ เมื่อเวลา 13.14 น.ตามเวลาท้องถิ่น และแพทย์ได้พยายามปั๊มหัวใจนานกว่าหนึ่งชั่วโมง แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเขาไว้ได้ ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าเขามีอาการหัวใจวาย ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดยังไม่อาจรู้ได้จนกว่าจะทราบผลการชันสูตรศพ ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า การชันสูตรศพอาจจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่น ร้อยตำรวจโทเฟรด คอร์รัล โฆษกสำนักงานนิติเวชวิทยาเขตลอส แอลเจลีส แถลงยืนยันกับสำนักข่าว CNN เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ไมเคิล แจ๊คสัน อดีตราชาเพลงป็อปวัย 50 ปี เสียชีวิตเพราะหัวใจหยุดเต้นเมื่อเวลา 14.26 น.วันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หรือ04.26 น. เช้ามืดวันนี้ตามเวลาในไทย ขณะที่แฟนเพลงจำนวนมากเริ่มหลั่งไหลไปที่ศูนย์การแพทย์ยูซีแอลเอที่ซึ่งเขาถูกส่งตัวไปก่อนมีข่าวการเสียชีวิตของเขา ก่อนหน้านี้ เว๊ปไซต์บันเทิง" TMZ.com "และ"เดอะ ลอส แองเจลีส ไทมส์" รายงานว่าแจ๊คสัน"เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณหลังเที่ยงวันเล็กน้อยของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นจากอาการหัวใจวาย โดยเจ้าหน้าที่การแพทย์ไม่สามารถช่วยกู้ชีพได้ ขณะที่โจ แจ๊คสัน บิดาของแจ๊คสัน บอกกับ" อี! ออนไลน์" (E! Online ) ว่า เขาอยู่ที่ลาสเวกัส และได้รับแจ้งจากคนที่อยู่กับแจ๊คสันที่ลอส แองเจลีสว่า แจ๊คสันอยู่ในโรงพยาบาล เขายังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกำลังรอข่าวเพิ่มเติมอยู่ ส่วน CNN บอกว่าไม่อาจยืนยันได้ว่าเขาเสียชีวิตแล้ว ทราบแต่ว่ามีอาการโคม่า ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานข่าวนี้ โดยอ้างโฆษกสำนักงานดับเพลิงนครลอสแองเจลีสที่ไม่ได้ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือแจ๊คสัน แต่กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้ไปที่บ้านพักของแจ๊คสันที่"โฮล์มบี้ ฮิลล์"เมื่อเวลาเที่ยงวัน 21 นาที ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรง02.21 น.เช้ามืดวันนี้ตามเวลาในไทย และได้นำบุคคลคนหนึ่งส่งศูนย์การแพทย์ UCLA . การเสียชีวิตมีขึ้นในขณะที่เขากำลังเตรียมจะแสดงคอนเสิร์ตกลับสู่วงการในกรุงลอนดอนซึ่งจะเป็นการแสดงชุดแรกของเขาในรอบกว่า 10 ปีและเป็นการแสดงครั้งแรกนับจากเขาพ้นผิดในข้อล่วงละเมิดเด็กชายเมื่อปี 2548 แต่การแสดงคอนเสิร์ตซึ่งถูกเรียกว่า"เป็นการปิดม่านครั้งสุดท้าย" ถูกเลื่อนจากกำหนดเปิดเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งนายแรนดี้ ฟิบิปส์ ประธาน AEG Live ผู้จัดงาน อ้างว่าการเลื่อนไม่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของแจ๊คสัน ผู้ซึ่งเขายืนยันว่ามีสุขภาพเป็นเลิศจนเขาอยากจะแลกร่างด้วย
ลือแซด "ไมเคิล" อาจหัวใจวายเพราะติดยาแก้ปวด ขณะที่ผลการชันสูตรศพอย่างเป็นทางการของ "ไมเคิล แจ็กสัน" จะมีขึ้นในพรุ่งนี้ แต่สื่อหลายฝ่ายได้ออกมาคาดการว่า สาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของราชาเพลงป็อปอาจจะเกิดจากพฤติกรรมติดยาแก้ปวดจนเป็นนิสัยของเขา จนเกิดอาการโอเวอร์โดสทำให้หัวใจวายจนเสียชีวิต มีการเปิดเผยจากหลายแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับทาง ไมเคิล แจ็กสัน นักร้องดังวัย 50 ปี ที่เสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอาการหัวใจวายเมื่อบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า อาจจะมีสาเหตุมาจากการติดยาแก้ปวดขั้นรุนแรงอย่าง Demerol ที่ออกฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน ที่คาดว่าไมเคิลอาจจะฉีดเข้าไปในร่างกายของเขาจนเกินขนาด ทำให้เกิดอาการโอเวอร์โดส และเป็นที่มาของการหัวใจวายในที่สุด ซึ่งสาเหตุของการกลับมาใช้ยาอย่างหนักนี้ อาจจะเกิดจากความเครียดที่มีต่อคอนเสิร์ตคืนวงการที่ประเทศอังกฤษที่จะมีขึ้นในเดือน ก.ค.ที่จะถึงนี้ หลังจากตั๋วจำหน่ายหมดไปอย่างรวดเร็ว แหล่งข่าวที่เป็นสมาชิกในครอบครัวของไมเคิลยืนยันถึงประวัติอันยาวนานที่เขามีต่อการใช้ยาแก้ปวดว่า "เขาไม่สามารถอยู่โดยขาดยาแก้ปวดเหล่านั้นได้เลย" "เขามีอาการเจ็บหลัง นั้นคือเหตุผลที่เขาต้องใช้ยาแก้ปวด แต่มันชัดเจนว่าสุดท้ายยาแก้ปวดพวกนั้นเป็นตัวพรากชีวิตของเขาไป ครอบครัวของเขาเคยบอกให้เขาเลิกใช้ยาและตั้งหน้าตั้งตากับการทัวร์ที่จะมาถึงแทน" แหล่งข่าวที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อชี้แจง แต่นอกจากไมเคิลจะไม่สามารถเลิกใช้ยาได้แล้ว เขายังหันมาใช้ยาที่ส่วนผสมของฝิ่นอย่าง Dilaudid ซึ่งการใช้ในปริมาณที่เกินขนาดจะนำไปสู่การหัวใจวายเช่นกัน แหล่งข่าวของครอบครัวเผยว่า ไมเคิลมีปัญหาเรื่องการใช้ยามาตั้งแต่สมัยต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในคดีกระทำชำเราเยาวชนเมื่อปี 2005 ขณะที่หลายแหล่งข่าวเผยว่าไมเคิลเริ่มใช้ยาตั้งแต่เหตุการณ์อุบัติเหตุในการถ่ายทำโฆษณาให้กับ Pepsi เมื่อปี 1984 ที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้ระดับสองที่ศีรษะของเขา ขณะที่อุบัติเหตุในคอนเสิร์ตปี 1993 ทำให้เขาได้รู้จักกับยาแก้ปวดอย่าง Demerol และใช้มันมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประวัติการใช้ยาแรงๆ อย่าง Valium, Xanax และ Ativan จนเขาต้องเข้ารับการบำบัด แต่หลายฝ่ายก็ไม่เชื่อว่าเขาจะเลิกพึ่งพายาเหล่านั้นได้อย่างเด็ดขาด หลังจากปัญหาที่รบกวนจิตใจเขามานานอย่างคดีกระทำชำเราเยาวชนของเขาสิ้นสุดลง กลายเป็นว่าปัญหาทางกายของเขากลับเล่นงานหลังจากนั้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปีที่แล้วที่มีคนเห็นเขาต้องออกมาชอปปิ้งในสภาพอยู่บนรถเข็น ขณะที่การผ่าตัดซ่อมจมูกหลายครั้งของเขาทำให้เขาหายใจอย่างลำบาก และเขายังมีนิสัยไม่ชอบทานอาหารกลางวันและมีปัญหาด้านการกิน ซึ่งยิ่งทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอและซูบผอมในช่วงที่ผ่านมา จนเป็นที่กังวลของหลายฝ่ายว่าเขาจะมีแรงพอสำหรับการแสดงคอนเสิร์ต 50 รอบที่จะมีขึ้นในประเทศอังกฤษในเดือน ก.ค.นี้หรือเปล่า โดยเมื่อเดือนที่แล้วมีรายงานว่า ไมเคิลขาดซ้อมกับทีมงานบ่อยมาก โดยไปปรากฏตัวให้เห็นเพียงแค่ 2 ครั้ง จากการซ้อมทั้งหมด 45 ครั้ง อย่างไรก็ดี มีรายงานเผยว่าไมเคิลเพิ่งจะไปเข้าซ้อมกับลูกทีมที่สนาม Staples Center ที่ลอสแองเจลิส เมื่อคืนที่ผ่านมานี้เอง โดยแหล่งข่าวที่อยู่ในสนามไม่เห็นวี่แววของความเจ็บป่วยใดๆ นอกจากการมาซ้อมสายและไม่ค่อยกระตือรือร้นของเจ้าตัว ทีมงานเผยว่า ไมเคิลควรจะมาถึงที่ซ้อมตอนเวลาทุ่มตรงแต่กว่าเขาจะมาถึงก็สี่ทุ่มไปแล้ว และดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเท่าไหร่ แต่ตามการเปิดเผยของทีมงานปกติเขาก็มาสายและไม่ค่อยกระตือรือร้นอยู่แล้ว ซึ่งไมเคิลยังร้องเพลงและเต้นรำกับแดนเซอร์และวงดนตรีเหมือนที่เคย
ประวัึติ
ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสัน เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1958 ที่เมืองแกรี รัฐอินดีแอนา (ย่านอุตสาหกรรมชานเมืองของชิคาโก) ในครอบครัวชั้นแรงงาน เป็นบุตรชายครอบครัวชาวแอฟริกัน-อเมริกัน บิดาชื่อโจเซฟ วอลเตอร์ "โจ" แจ็กสัน และมารดาชื่อแคเทอรีน เอสเตอร์ (สกุลเดิม สคริวส์) เป็นบุตรคนที่ 7 ในจำนวน 9 คน โดยมีพี่น้องคือ รีบี แจ็กกี ติโต เจอร์เมน ลา โทยา มาร์ลอน แรนดี และเจเน็ต พ่อของพวกเขาโจเซฟเป็นลูกจ้างโรงงานเหล็กที่แสดงในวงอาร์แอนด์บีที่ชื่อ "เดอะฟอลคอนส์" กับพี่ชายเขา ลูเธอร์ แจ็กสันโตมากับความเชื่อ "พยานพระยะโฮวา" จากแม่ของเขา
ต้นปี พ.ศ. 2537 ไมเคิลได้สร้างประหลาดใจให้แก่แฟน ๆ เมื่อจู่ ๆ ประกาศหมั้นและแต่งงานกับ ลิซ่า มารี เพรสลีย์ บุตรสาวของเอลวิส เพรสลีย์อย่างกระทันหัน โดยทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตเช่นสามี ภรรยา ก่อนจะเลิกรากันไปในปี พ.ศ. 2539 โดยไม่มีบุตรด้วยกัน ภายหลังไมเคิลมีบุตร 2 คนจากการผสมเทียมกับเด็บบี้ โรวว์ พยาบาลสาวใหญ่ และมีเพิ่มอีก 1 คนจากสาวผู้ไม่เปิดเผยนาม ด้วยการผสมเทียมเช่นเดียวกัน
ในช่วงท้ายของชีวิต แจ๊กสันยังตกเป็นข่าวเรื่องหนี้สินเงินๆ ทองๆ ที่ถูกฟ้องร้องจากมหาเศรษฐีอาหรับ ทั้งยังต้องขายทิ้งเนเวอร์แลนด์ ไร่และคฤหาสน์ส่วนตัวในสหรัฐ การจากไปของแจ๊กสัน ทิ้งทายาทไว้ 2 คน คือ พรินซ์ ไมเคิล อายุ 12 ปี ปารีส อายุ 11 ปี และพรินซ์ ไมเคิลที่ 2 อายุ 7 ขวบ ซึ่งทั้งสามเพิ่งเผยโฉมในที่สาธารณะโดยไม่มีผ้าปกคลุม

ไมเคิล แจ็คสัน จ้าวตำนาน ราชาเพลงป็อป


ไมเคิล แจ็คสัน จ้าวตำนาน ราชาเพลงป็อป


ไมเคิล แจ็คสัน จ้าวตำนาน ราชาเพลงป็อป


ไมเคิล แจ็คสัน จ้าวตำนาน ราชาเพลงป็อป


ไมเคิล แจ็คสัน จ้าวตำนาน ราชาเพลงป็อป


ไมเคิล แจ็คสัน จ้าวตำนาน ราชาเพลงป็อป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์