ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004

สายการบิน Lauda Air(เลาดา แอร์) เป็นสายการบินสัญชาติออสเตรีย(ไม่ใช่ออสเตรเลีย) ก่อตั้งในปี 1979 ผู้ก่อตั้งสายการบินนี้คือ นิกิ เลาดา เขาเป็นทั้งนักธุรกิจ นักบิน และที่สำคัญคือเป็นนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงมากๆๆ

ย้อนไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 1991 เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004 บินจากฮ่องกงสู่ออสเตรีย ได้จอดแวะรับ-ส่งผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ (ตอนนั้นยังไม่มีสุวรรณภูมิ) ในเที่ยวบินนั้นมีผู้โดยสารทั้งหมด 213 ราย และ ลูกเรือ 10 ราย โดยผู้โดยสารส่วนมากเป็นชาวออสเตรียน ฮ่องกง และไทย

เครื่องบินขึ้นในเวลา 23.02 น. แต่หลังจากขึ้นบินได้เพียง 10 นาที กลับเกิดความผิดปกติกับเที่ยวบินนี้ ซึ่งกำลังจะคร่าชีวิตผู้โดยสารทั้งลำในอีกไม่กี่หน้าทีข้างหน้า....

มีสัญญาณเตือนขึ้นในห้องโดยสารว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นที่จะทำให้ Thrust Reverser ทำงานกลางอากาศในขณะกำลังบิน!!

Thrust Reverser คืออะไร? มันคือ ตัวกลับแรงดันไอพ่น ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชิ้นส่วนของเครื่องบินที่มีหน้าที่ชะลอความเร็วเมื่อเครื่องบินร่อนลงจอด และ 'มันจะทำงานเมื่อเครื่องลงเท่านั้น"
ในสภาพการทำงานปกติ เครื่องยนต์จะดูดอากาศจากด้านหน้า แล้วก็พ่นออกทางด้านหลังเพื่อขับเคลื่อนเครื่องบินให้เครื่องบินบินไปข้างหน้า แต่ Thrust Reverser หรือตัวกลับแรงดันไอพ่น จะทำหน้าที่ตรงข้าม โดยมันจะทำให้แรงขับอากาศที่จะพ่นออกจากด้านหลังนั้น ย้อนกลับไปข้างหน้าแทน เพื่อชะลอความเร็วของเครื่องยนต์ขณะลงจอด

แต่นี่ Thrust Reverser ข้างซ้าย มันกำลังจะทำงานกลางอากาศ!!
นักบินทั้งสองคนเปิดคู่มือการบินอ่าน แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จึงนิ่งนอนใจ
จนเวลา 23:17 น. เกิดเสียงดังขึ้น!

Thrust Reverser ข้างซ้ายที่ทำงานกลางอากาศมันทำให้เครื่องบินเริ่มร่วงหล่น ลองคิดดูสิว่า ในขณะที่ข้างหนึ่งทำงานปกติ(ไม่ทำงานขณะบินบนฟ้า)กำลังพ่นอากาศออกด้านหลังให้เครื่องบินบินทะยานไปข้างหน้า แต่อีกข้างกลับทำงานไม่ปกติ(ทำงานขณะบินบนฟ้า)กำลังขับอากาศย้อนไปข้างหน้าเพื่อให้เครื่องยนต์ชะลอความเร็ว

ลองนึกภาพง่ายๆ เมื่อเครื่องยนต์สองข้างทำงานแบบไม่ประสานงานกัน ข้างนึงจะพุ่งหน้า ข้างนึงจะถอยหลัง อะไรจะเกิดขึ้น! มันทำให้เครื่องสูญเสียแรงการบังคับมากขึ้นเรื่อยๆ จนเครื่องรับไม่ไหว

23:07:48 : กัปตันพูดกับนักบินผู้ช่วยเมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนปรากฏบนจอ EICAS (Electronic Indication and Cockpit Alertin System...จอประมวลผลการบินและแจ้งเตือนสภาพเครื่องบิน)
"That keeps that's come on [again]!!!" (ข้อความเตือนได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง)
23:08:52 : นักบินผู้ช่วย "So we past transition altitude - 1013" (เขาแจ้งกัปตันว่า ขณะนี้เครื่องบินได้ผ่านระยะสูงที่จะเปลี่ยนค่าความกดอากาศให้ เป็นมาตรฐาน (1013 มิลลิบาร์) แล้ว)
23:08:54 : กัปตัน "OK"
23:10:21 : กัปตัน "What's it say in there about that? Just ah..." (คาดว่านักบินผู้ช่วยกำลังเปิดคู่มือฉุกเฉินที่เรียกว่า Boeing 767 Quick Reference Handbook อยู่ประมาณ 1 นาทีเศษ จึงถามว่าได้ความอะไรหรือไม่)
23:10:27 : นักบินผู้ช่วยอ่านข้อความในคู่มือด้วยเสียงดัง "Additional system failures may cause in-flight deployment - expect normal reverse operation after landing" (ระบบนี้อาจจะทำงานผิดพลาดโดยจะทำงานในอากาศ - หวังว่าปกติจะทำการ Reverse หลังจากลงสนามบินแล้ว)
23:10:35 : กัปตัน "OK - just....ah let's see...." (กัปตันเอาคู่มือจากนักบินผู้ช่วยไปเปิดดูเอง)
23:11:00 : กัปตัน "OK" (ส่งคู่มือคืนกลับไป)
23:11:43 : นักบินผู้ช่วย (ยังกังวลกับข้อความที่ขึ้นบนจอ EICAS) "Shall I ask the ground staff?" (เขาถามกัปตันว่าเขาควรจะติดต่อสอบถามหน่วยภาคพื้นดินไหม)
23:11:46 : กัปตัน "What's that?" (ถามอะไรหรือ?)
23:11:47 : นักบินผู้ช่วย "Shall I ask the technical men?" (ผมจะถามเจ้าหน้าที่เทคนิคช่างดีไหม)
23:11:50 : กัปตัน (ด้วยความไม่แน่ใจ) "Ah... you can tell'em about it... it's just... Ah no... it's probably... ah water or moisture or something. Because it's just on... it's coming on and off." (เขาคาดเดาว่าบางทีอาจจะมีน้ำหรืออะไรซักอย่างเข้าไปกวนระบบ เพราะข้อความที่ปรากฏบน EICAS มันติดๆ ดับๆ) กรณีไฟเตือน Reverse Isolation Valves ที่ติดขึ้นบนแผงหน้าปัด หรือข้อความ L หรือ R REV ISLN VAL ปรากฏขึ้นบนจอ EICAS ที่นักบินทั้งคู่หารือกัน ปกติไฟเตือนฯ จะเตือนขณะบินก็ได้ ถ้าตัว Sensor จับสัญญาณการไหลของน้ำมันไฮดรอลิกด้านหลังของวาล์ว HIVได้ ซึ่งในคู่มือไม่ได้ระบุว่าต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง แค่บอกว่าเป็นไปได้ที่ Thrust Reverser อาจจะกางออกเองขณะบิน โดยไม่ได้ให้คำแนะนำว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป)
23:12:04 : กัปตัน "But... you know it's a ... it's doesn't really... it's just an advisory thing..." (แต่คุณก็รู้ว่ามันไม่จริง มันเป็นเพียงแค่คำแนะนำเท่านั้น)
23:12:19 : กัปตัน (ซึ่งในใจยังกังวลเกี่ยวกับข้อความที่บน EICAS) "Could be some moisture in there or something." (น่าจะมีความชื้นหรืออะไรบางอย่างน่ะ)
23:12:27 : นักบินผู้ช่วย "think you need a little bit of rudder trim to left, eh?" (เขาแนะนำกัปตันจำเป็นต้องปรับพื้นบังคับช่วยของหางเสือเลี้ยวไปทางซ้ายไปเล็กน้อย)
23:12:30 : กัปตัน "What's that?" (อะไรหรือ?)
23:12:32 : นักบินผู้ช่วย "You need a little bit of rudder trim to the left."
23:12:34 : กัปตัน "OK"
อาจเป็นไปได้ว่า เครื่องบินมีอาการเซไปทางขวาเล็กน้อย ซึ่งอาจต้องปรับพื้นบังคับช่วยหางเสือเลี้ยงไปทางซ้ายเล็กน้อย เป็นเรื่องปกติของการบิน และอาจไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ Thrust Reverser กางในอากาศ
23:13:14 : นักบินผู้ช่วยบวกเลขเป็นภาษาเยอรมันเสียงดังอย่างไม่มีความหมายเป็นเวลา 3 นาที 19 วินาที
23:17:01 : นักบินผู้ช่วย "Ah... Reverser's deployed!" (นักบินผู้ช่วยพูดในทันที)
23:17:02 : เสียงโครงสร้างเครื่องบินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
23:17:04 : เสียงโลหะฉีกขาด
23:17:05 : กัปตันส่งเสียงสบถ
23:17:06 : เสียงโลหะฉีกขาด
23:17:08 : เสียงสัญญาณแจ้งเตือนอันตราย 4 โทนเสียง
23:17:11 : เสียงไซเรนอันตรายดัง 1 วินาทีแล้วหยุด
23:17:16 : เสียงไซเรนอันตรายดังอีกครั้ง และดังไปจนสิ้นสุดเทป
23:17:17 : กัปตัน "Here - wait a minute!" (พูดน้ำเสียงท้อแท้สิ้นหวัง ท่ามกลางเสียงโลหะฉีกขาดดังต่อเนื่อง)
23:17:19 : เสียงโลหะฉีกขาด 2 โทนเสียง
23:17:22 : กัปตันสบถ
23:17:23 : เสียงลมรุนแรง และดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
23:17:25 : เสียงเทปสั่นระรัว ไม่สามารถได้ใจความ
23:17:27 : กัปตันส่งเสียงที่ไม่เข้าใจความหมาย
23:17:28 : เสียงดังหลายเสียงเกิดขึ้นจนสิ้นสุดเทป
23:17:30 : สิ้นสุดเทป

ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น เครื่องบินหมุนพลิกตัว ก่อนจะฉีกออกเป็นส่วนๆ กลางอากาศที่ระดับความสูง 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ระเบิดกลางอากาศ และตกลงเหนือพื้นที่ป่าและภูเขาบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันคืออุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี
ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่รายเดียวจากเหตุการณ์นี้

การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบากมาก เนื่องจากพื้นที่ตรงนั้นเป็นป่าทึบ การจะเข้าถึงต้องใช้เวลานานและเป็นไปอย่างยากลำบาก และเมื่อได้ยินข่าวร้ายนี้ นิกิ เลาดา เจ้าของสายการบินก็บินมาดูเหตุการณ์ด้วยตัวเอง


 ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004


 ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004




 ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004


 ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004


 ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004


 ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004


 ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004

ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004 ตกกลางป่าประเทศไทยพร้อม 223 ชีวิต
สิ่งหนึ่งที่ตามมาคือ "ความน่าอับอาย"

เจ้าหน้าที่และผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชาวบ้านละแวกนั้นเมื่อได้ยินข่าวว่ามีเครื่องบินตก ต่างเข้ามารื้อค้นหาทรัพย์สินจากร่างผู้เสียชีวิตหรือขโมยเอาเศษซากโลหะเครื่องบินไปขาย ว่ากันว่า ศพบางศพไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเป็นใคร เพราะนอกจากจะถูกไฟคลอกจนจำไม่ได้แล้ว ทรัพย์สินเครื่องประดับบนร่างกายที่น่าจะใช้ยืนยันตัวตนได้ เช่น แหวน สร้อย ก็หายไป เพราะถูกขโมยนั่นเอง...

นอกจากนี้ ในบรรดาผู้เสียชีวิตที่เป็นคนไทย ยังมีบุคคลสำคัญมากๆ อย่าง ดร.ไพรัตน์ เดชะรินทร์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนั้น ซึ่งเสียชีวิตพร้อมกับภริยา ว่ากันว่าท่านเป็นผู้ว่าราชการที่มีความสามารถและเป็นที่รักของผู้คนชาวเชียงใหม่อย่างมากเลยทีเดียว

หลังจากเหตุการณ์นี้ ก็มีการกำหนดเลยว่า ต้องสร้างให้ Thrust Reverser ทำงานขณะลงจอดเท่านั้น จะไม่สามารถทำงานกลางอากาศได้เด็ดขาด

และจนถึงวันนี้ เหตุการณ์อุบัติเหตุของสายการบินเลาดา แอร์ ยังคงเป็นอุบัติเหตุทางการบินที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในผืนแผ่นดินไทย


 ย้อนรอยอุบัติเหตุ เลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์