สงครามแย่งชิงพระศพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช

สงครามแย่งชิงพระศพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และความแตกแยกแห่งจักรวรรดิ์มาซิโดเนีย


หลังจากที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชได้ทรงหมายพระทัยจะบุกไปโจมตียึดแคว้นมคธ แต่ผลปรากฏว่า เหล่าทหารที่ได้ติดตามสู้รบเคียงข้างพระองค์มาตลอด 15 ปี ได้ขอยอมแพ้และไม่ขอเดินทางต่อไป และต่างก็ได้ร้องวิงวอนร้องขอให้กษัตริย์ของพวกเขาได้โปรดทรงยกเลิกการเดินทัพและตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่ไม่ได้กลับมาเป็นเวลาถึง 15 ปีแล้ว

คำวิงวอนของเหล่าทหารทำให้พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ถึงกับทรงพิโรธถึง 3 ครั้ง แต่ทว่าในครั้งที่ 3 พระองค์ก็ทรงยอมเสด็จกลับ ก่อนที่พระองค์นั้นจะได้ทรงเสด็จกลับไป พระองค์ทรงสร้างเทวรูปเพื่อบูชาเหล่าทวยเทพ เพื่อจะเป็นการขอบพระทัยที่เหล่าทวยเทพได้อวยพรให้พระองค์ทรงพิชิตดินแดนอันกว้างใหญ่นี้ได้ พร้อมๆกันนั้นพระองค์นั้นก็ได้ทรงสร้างเมืองขึ้นเพื่อที่จะเป็นการอุทิศให้กับบูเซฟาลัส อาชาคู่พระทัยของพระองค์ที่ได้เสียชีวิตลงในคราวที่พระองค์ได้ทรงทำสงครามกับราชาเปาวระ (บูเซฟาลัสเป็นชื่อของม้าคู่พระทัยที่ติดตามพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มาตั้งแต่พระองค์ยังทรงพระเยาว์) ชื่อว่า "บูเซฟาลา" และพระองค์ก็ทรงได้แบ่งทัพออกเป็นสองทางคือทางบกและก็ทางนํ้า พระองค์ทรงเสด็จนิวัติกลับทางนํ้าผ่านแม่นํ้าสินธุอย่างผู้พิชิต ก่อนที่จะออกไปทางมหาสมุทรกลับสู่กรุงบาบิโลน โดยพระองค์ก็ยังได้ทรงคิดว่าจุดปลายสิ้นสุดแผ่นดินของโลกนั้นอยู่ที่อินเดีย

พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช องค์พระจักรพรรดิ์แห่งจักรวรรดิ์มาซิโดเนีย พระองค์ทรงได้เสด็จสิ้นพระชนม์ ที่กรุงบาบิโลน ในปีที่ 323 ก่อนคริสตกาล ด้วยสาเหตุที่พระองค์นั้นทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมากในการจากไปของแฮฟาอีสเตียน สหายรักผู้ซึ่งเป็นดั่งเงาของพระองค์เอง พระองค์ทรงมิทำการราชกิจอันใดเลย เอาแต่เสวยนํ้าจัณฑ์เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุของกรุงบาบิโลน เป็นเหตุทำให้ทรงพระประชวรนานถึง 10 วัน ก่อนที่พระองค์จะเสด็จสวรรคตในวันที่ 10 มิถุนายน ในปีที่ 323 ก่อนคริสตกาล

หลังจากที่พระองค์ทรงเสด็จสวรรคต เหล่าแม่ทัพที่ได้ติดตามพระเจ้าอเล็กซานก็ได้ถกเถียงกันว่าใครจะขึ้นครองแผ่นดินแทน แต่ทว่าไม่มีใครยอมรับซึ่งกันและกัน เชื้อสายของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ถูกประหารแทบสิ้นโคตรวงศ์ เหล่าแม่ทัพทำสงครามกันเพื่อที่จะแย่งชิงบัลลังก์ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มาเป็นของตน จึงได้ทำให้จักรวรรดิ์ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์นั้นต้องแตกแยกเป็นอาณาจักรและนครรัฐต่างๆ ในปี 275 ก่อนคริสตกาล

และก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เหล่าแม่ทัพต่างแย่งชิงก็คือ พระศพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชผู้ล่วงลับนั้นเอง

เป็นที่รู้กันดีว่าหากใครที่ได้มีพระศพของผู้พิชิตโลกก็คือพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ประดิษฐานอยู่ที่เมืองของแม่ทัพคนไหน ก็ถือว่าแม่ทัพผู้นั้นเป็นผู้สืบทอดของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์

เลยเป็นเหตุถกเถียงจนกลายเป็นศึกสงครามแย่งชิงพระศพ โดยผู้ที่ได้ออกความเห็นว่าควรประดิษฐานที่แห่งใดนั้นก็คือ แม่ทัพเซลิวคุส เขาต้องการให้พระศพประดิษฐานอยู่ที่กรุงบาบิโลน ซึ่งในขณะนั้นถือว่าเป็นศุนย์กลางของโลก และยังในอีกนัยหนึ่งก็คือทำให้ตัวของเขานั้นได้เป็นผู้สืบทอดของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์โดยดุษณี แต่ว่ทางแม่ทัพอันติโกนุสซึ่งได้เดินทางมาจากแคว้นมาซิโดเนีย ก็ได้คัดค้านความคิดของเซลิวคุส โดยเขาได้เสนอว่าพระศพนั้นควรประดิษฐานอยู่ที่แผ่นดินมาตภูมิคือแคว้นมาซิโดเนีย ที่พระนครหลวงเพลลา ส่วนอีกคนหนึ่งคือแม่ทัพปโตเลมี ซึ่งตัวของเขาเป็นแม่ทัพอีกคนหนึ่งที่ได้คอยติดตามพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มาตั้งแต่การออกศึกในครั้งแรก เขาก็ได้เสนอให้นำพระศพไปประดิษฐานที่พระนครที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์นั้นได้ทรงสร้างขึ้นก็คือ พระนครอเล็กซานเดรีย ที่แผ่นดินอียิปต์

ทั้งสามต่างได้ถกเถียงกันจนได้กลายเป็นศึกสงครามแย่งชิงพระศพ ต่างคนต่างก็ไม่ยอมกัน เพียงแค่เพื่อพระศพของผู้พิชิตโลก ก้เลยได้ทำให้คนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่ต้องมาฆ่าล้างผลาญกันเอง ซึ่งผลแห่งสงครามในครั้งนี้ก็ได้ปรากฏว่า พระศพของพระองค์นั้นก็ทรงได้ถูกนำไปประดิษฐานเอาไว้ยังที่พระนครอเล็กซานเดรียของแม่ทัพปโตเลมี สุสานของพระองค์นั้นได้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เหล่าผู้คนต้องได้มาเยี่ยมชมและเข้ามาสักการะพระศพที่ได้ทำเอาไว้ตามรูปแบบชาวอียิปต์โบราณ จนกระทั่งพระศพได้หายสาปสูญไปตามกาลเวลา


ส่วนแผ่นดินที่แตกแยกก็ได้แบ่งออกเป็นหลายอาณาจักรหลายนครรัฐ เช่น

- อาณาจักรมาซิโดเนีย - กรีซ ของราชวงศ์อันติโกนิด ที่นำโดยแม่ทัพอันติโกนุส อาณาจักรแห่งนี้ก็ได้ล่มสลายเสียแผ่นดินให้กับอาณาจักรโรมัน ในปีที่ 168 ก่อนคริสตกาล

- อียิปต์ของแม่ทัพปโตเลมี ก็ได้ถูกจักรวรรดิโรมันเข้ามาพิชิตได้ในปีที่ 51 ก่อนคริสตกาล รัชสมัยของพระนางคลีโอพัตราที่ 7

- แผ่นดินของชายฝั่งเอเชียน้อย แผ่นดินเปอร์เซีย แผ่นดินยูเดีย ไปกระทั่งจนถึงอินเดีย เป็นของราชวงศ์เซลิวซิด ของแม่ทัพเซลิวคุส จักรวรรดิโรมันได้พิชิตดินแดนเหล่านี้ ในปีที่ 64 ก่อนคริสตกาล

- อาณาจักเพอร์กามีน อยู่ภายใต้การปกครองของยูเมเนส เจ้านครเพอร์กามัม อาณาจักรนี้อยู่ทางเอเชียน้อยฝั่งตะวันตก

- อาณาจักรแบกเตรีย อยู่ที่ตรุกีและอัฟกานิสถาน เป็นการปกครองแบบระบบอราชาธิปไตยกรีก

- อินเดีย มีการสร้างอาณาจักรชาวกรีกขึ้นมาหลายเมือง ซึ่งได้มีเมืองหนึ่งปรากฏในเรื่องมิลินทปัญหาของศาสนาพุทธ ชื่อ สาคละนคร ของพระเจ้ามิลินท์ หรือว่าภาษากรีกคือ พระเจ้าเมนานเดอร์ เป็นต้น

ขอบคุณ >>

ประวัติศาสตร์ตามTimeline

สงครามแย่งชิงพระศพของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์