พระราชสาสน์สุดท้าย ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ส่งถึงพระเจ้ากรุงจีน

บทความในพระราชสาสน์สุดท้าย ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ส่งถึงพระเจ้ากรุงจีน ระบุว่า .....

"...เป็นธรรมเนียมกรุงเทพมหานคร ต้องไปจิ้มก้องสมเด็จพระเจ้าถ้องตี้ได้ราชสมบัติใหม่ก้อง ๑ เยี่ยมพระศพพระเจ้าฮำฮองก้อง ๑ จะต้องตอบแทน ที่หองเข้ามาให้ก้อง ๑ รวมทั้งค้าง ๕ ก้อง ถ้าจะแต่งทูตออกไปขอให้จีนเนี่ยวถิมเป็นท่องซือรองด้วย หนังสือลงวันเดือน ๓ แรม ๒ ค่ำ ปีระกา ตรีศก พระราชศาสน์มีมาคราวนี้ ได้ให้แต่พระยาโชฎึกราชเศรษฐีมีหนังสือตอบไปถึงจงต๊กหมูอี้ ผู้สำเร็จราชการเมืองกวางตุ้งฉบับ ๑ ว่ากรุงปักกิ่งกับกรุงพระมหานครศรีอยุธยา ก็เป็นทางพระราชไมตรีกันมาช้านาน บัดนี้จงต๊ก ได้ส่งพระราชศาสน์เข้ามา ณ กรุงพระมหานครศรีอยุธยาแล้ว ก็ได้ให้เจ้า พนักงานจัดกระบวนแห่พระราชศาสน์คำประกาศให้สมพระเกียรติยศประเทศใหญ่ เหมือนอย่างเคยทำมาแต่ก่อน จึงเจ้าพนักงานได้จัดกระบวนแห่พระราชศาสน์ทางน้ำทางบกโดยสมควร ได้เคารพแก่สมเด็จพระเจ้ากรุงปักกิ่งแล้วได้รับหนังสือจงต๊กตามอย่างธรรมเนียม ได้ให้ล่ามแปลพระราชศาสน์ และหนังสือของจงต๊กทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงบอกมาให้แจ้ง

หนังสือลงวันเดือน ๗ แรม ๑๓ ค่ำ ปีจอ จัตวาศกเข้าไปนั้น ครั้นจะนำความขึ้นกราบบังคมทูล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามทรงให้ทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทเล่า ก็เห็นว่าเป็นแต่หนังสือนายห้าง จึงได้ปรึกษาท่านเสนาบดีๆ ให้ตอบออกมาว่า กรุงพระมหานครศรีอยุธยากับกรุงปักกิ่ง ก็เป็นทางพระราชไมตรีกันมาช้านาน ก็คิดจะไปจิ้มก้องอยู่ทุกคราวก้อง มิให้เสียทางพระราชไมตรี 

ซึ่งมีมาแต่ก่อน แต่เห็นว่าเมื่อปีชวด จัตวาศก ที่กรุงพระมหานครศรีอยุธยาได้แต่งทูตานุทูตออกไปจิ้มก้องขอหองกรุงปักกิ่ง ครั้นทูตกลับไปถึงตำบลห้อหนำ แขวงเมืองเอียงเซียงกุ้ย มีโจรเข้าตีชิงเอาของทรงยินดีตอบแทนและของทูตไปสิ้น แล้วฆ่าจีนหงทองสื่อใหญ่ตายเสียคน ๑ จงต๊กมิได้ชำระเอาตัวโจรมาทำโทษให้ได้ ที่กรุงพระมหานครศรีอยุธยาก็ได้ความอัประยศไปครั้ง ๑ ครั้นจะแต่งทูตานุทูตออกมาตอบแทนหองก็เห็นว่าโจรผู้ร้ายยังกำเริบมากอยู่ จึงได้งดทูตไว้ ครั้นมาถึงมรสุมปีเถาะ สัปตศก กำหนดก้องก็ได้สืบทราบว่าพวกกบฏกำเริบมากขึ้นยิ่งกว่าแต่ก่อน จึงต้องวดก้องไว้ ครั้นมรสุม ปีมะแม เอกศก กำหนดก้องอีกครั้ง ๑ ก็ได้สืบทราบว่าเมืองกวางตุ้งเกิดรบขึ้นกับอังกฤษ จงต๊กก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองกวางตุ้ง จะแต่งทูตานุทูตออกมาก็ไม่มีผู้ใดจะรับรอง ครั้นมาถึงปีระกา ตรีศก ก็ได้สืบทราบว่า อังกฤษ ฝรั่งเศส ขึ้นไปรบกวนถึงกรุงปักกิ่งๆ มีการศึกใหญ่อยู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยาม มีพระราชวิตกถึงทางพระราชไมตรีสมเด็จพระเจ้ากรุงปักกิ่ง ให้เจ้าพนักงานสืบสวนข่าวราชการ ซึ่งเกิดในแผ่นดินจีน ก็ได้ความแต่งเรือลูกค้าเข้าออกเสมอทุกเดือนทุกปี 

ครั้นจะแต่งทูตานุทูตออกมาตามกำหนดก้อง และเยี่ยมพระศพสมเด็จพระเจ้าฮำฮอง และก้องสมเด็จพระเจ้าถ้องตี้แผ่นดินใหม่ ไม่ให้เสียอย่างธรรมเนียมแต่ก่อน เห็นว่าพวกกบฏและโจรผู้ร้ายยังกำเริบอยู่ ทูตจะขึ้นไปกรุงปักกิ่งก็จะได้ความลำบากเหมือนครั้งก่อน ถ้าท่านเสนาบดีกรุงปักกิ่งปราบปรามพวกกบฏและโจรผู้ร้ายเสร็จสิ้นแล้ว บ้านเมืองราบคาบเป็นแผ่นดินเดียวไม่มีเสี้ยนหนาม กรุงพระมหานครศรีอยุธยาก็จะได้แต่งทูตานุทูตออกมาเจริญทางพระราชไมตรี สมเด็จพระเจ้ากรุงปักกิ่งตามอย่างประเพณี ไม่ให้เสื่อมเสียทางพระราชไมตรี ขอให้นายห้างปุนกังแจ้งความแก่จงต๊ก บอกความขึ้นไปยังลีปูตาทั่งเสนาบดีกรุงปักกิ่งให้ทราบด้วย หนังสือลงวันเดือน ๗ แรม ๑๓ ค่ำ ปีจอ จัตวาศก....."


พระราชสาสน์สุดท้าย ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ส่งถึงพระเจ้ากรุงจีน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์