"คนมรดก" เรื่องของสาวชาววังเมื่อเจ้านายที่รับใช้อยู่สิ้นพระชมน์

เรื่องราวของคุณหญิง นิ่ง บุนนาค

ชาววังทั้งปวง ซึ่งอุปการะโดยเจ้านายจะหมดที่พึ่งพิงก็ต่อเมื่อเจ้านายผู้อุปถัมภ์ของตนสิ้นพระชนม์ลง ทว่าชาววังก็มีธรรมเนียม โดบที่เจ้านายพระองค์อื่นมารับช่วงอุปถัมภ์กันต่อไป ผู้ที่ถูกเปลี่ยนเจ้านายจะถูกเรียกว่า "คนมรดก"

เมื่อเจ้าจอมมารดาชุ่มถึงแก่อนิจกรรม คุณหญิงนิ่งจึงเป็น "คนมรดก" ตกทอดมาถึงพระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าสุจิตราภรณ์ หรือเสด็จพระองค์เล็ก

เสด็จพระองค์เล็ก ทรงมีพระเมตตากับเด็กชาววังที่ทรงอุปถัมภ์ทุก ๆคน ทรงใช้เวลาว่างสนุกสนานกับเด็กๆ ที่ทรงเลี้ยงไว้ มักโปรดให้เด็กแต่งตัวสวยๆ แล้วเปิดเพลงฝรั่งให้เด็กๆ ได้เต้นรำกันโดยจับมือ แล้วหมุนตัว กระโดดและเต้นรำแบบฝรั่ง จนบางครั้งเด็กก็สับสนชุลมุน ขัดขากันจนหกล้ม ร้องไห้กันกระจองงอแง

ในบางโอกาสเสด็จพระองค์เล็ก ก็โปรดให้ทำไอศกรีมประทานแก่เด็กๆ ในพระตำหนักได้รับประทานกันถ้วนหน้า ทำให้เด็กๆ ดีใจ ทุกครั้งที่ได้ไอศกรีมประทาน
พอถึงวัยเรียน เสด็จพระองค์เล็ก ทรงจัดส่งเด็กชาววังให้เข้าเรียนที่โรงเรียนราชินี ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ คุณหญิงนิ่งได้นั่งรถม้าหลวงไปโรงเรียน ทุกเย็นวันศุกร์รถม้าหลวงก็จะไปรับกลับ พอถึงพระตำหนักคุณหญิงนิ่ง จะรีบอาบน้ำแล้วขึ้นเฝ้าเสด็จพระองค์เล็กทันที เฝ้าอยู่จนถึงเวลาเข้านอน จึงกลับเข้าห้องพัก พอเช้าวันจันทร์คุณหญิงนิ่งก็ต้องขึ้นเฝ้าเพื่อทูลลากลับเข้าโรงเรียน เสด็จพระองค์เล็กทรงเตรียมของไว้ประทานทุกครั้ง มีเสื้อผ้าขนุกขนมโดยทรงเตรียมของสำหรับไว้กินใช้ที่โรงเรียนด้วยพระองค์เองทั้งยังประทานเงินอีกหนึ่งสลึงไว้ใช้สอยส่วนตัวอีกด้วย

ชีวิตวัยเด็กขิงคุณหญิงนิ่ง หรูหรามีความสุขตามแบบฉบับชาววัง ทว่าความสุขสบายมักอยู่ไม่นาน เป็นสัจธรรมโดยแท้ คุณหญิงนิ่งอายุได้ 9 ขวบ ก็ต้องพบกับความสูญเสียอีกครั้งในชีวิต เสด็จพระองค์เล็กสิ้นพระชนม์ลงอย่างกะทันหันด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ตรงกับวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2461 ในห้วงขณะนั้นไข้หวัดใหญ่ระบาดไปทั่วพระนครมีผู้คนล้มตายจำนวนมาก แม้แต่ในรั้วในวังก็ไม่เว้น เจ้านายหลายพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ด้วยโรคนี้ ชาววังเรียกโรคร้ายนี้ทับศัพท์อังกฤษว่า "อินฟลูเอนซ่า"

คุณหญิงนิ่ง รักเทิดทูนและบูชาเจ้านายพระองค์นี้มากที่สุด ในความทรงจำ เสด็จพระองค์เล็ก ประหนึ่งฮีโร่คนต้นแบบ คุณหญิงนิ่งชอบดูอากัปกริยา เสด็จพระองค์เล็กครั้งละนานๆ เสด็จทำอะไรๆ ก็รู้สึกว่างามไปหมดทุกประการ ครั้นฮีโร่ในดวงใจของเธอจากไปโดยปัจจุบันทันด่วน หัวใจน้อยๆ ของคุณหญิงนิ่งเจ็บปวดรวดร้าวสุดที่จะพรรณนา แม้วันนี้ (พ.ศ.2552) คุณหญิงนิ่งอายุครบ 100 ปีบริบูรณ์ ทว่าภาพในวัยเด็กไม่ได้เลือนไปจากความทรงจำแม้แต่น้อย

เสด็จพระองค์เล็กร่มโพธิ์ร่มไทรของคุณหญิงนิ่งถึงแก่อนิจกรรมแล้ว พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าอาภรทิพยนิภา ซึ่งชาววังเรียกขานท่านว่า "เสด็จพระองค์ใหญ่" ทรงสืบรับมรดกจาก "เสด็จพระองค์เล็ก" พร้อมทั้งทรงรับเอาข้าหลวงชาววังทั้งหมดมาอุปถัมภ์
ข้าหลวงที่เคยอยู่ในปกครองของเสด็จพระองค์เล็กจำเป็นต้องเข้าเฝ้าสวามิภักดิ์ต่อเจ้านายพระองค์ใหม่ "เสด็จพระองค์ใหญ่" ทรงรับสั่งถามคุณหญิงนิ่งว่า "จะอยู่กับฉันหรือจะกลับบ้าน" คุณหญิงนิ่งทูลตอบว่า "แล้วแต่คุณพ่อเพคะ" พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์) ทูลขอให้บุตรีอยู่กับเสด็จพระองค์ใหญ่ คุณหญิงนิ่งจึงตกเป็น "คนมรดก" อีกวาระหนึ่ง นับว่าคุณหญิงนิ่ง มีเจ้านายถึงสามท่าน กล่าวคือ เจ้าจอมมารดาชุ่ม เสด็จพระองค์เล็ก และเสด็จพระองค์ใหญ่
คุณหญิงนิ่งถวายตัวรับใช้อยู่กับเสด็จพระองค์ใหญ่ จนกระทั่งเข้าสู่วัยสาวแรกรุ่น เป็นที่โปรดทรงไว้วางพระทัยใช้สอยบนพระตำหนัก ประหนึ่งเป็นแม่บ้านใหญ่ที่มีความสำคัญ คุณหญิงนิ่งมีหน้าที่เป็นผู้เก็บรักษากุญแจและข้าวของส่วนพระองค์ทั้งหมด

เจ้าจอมอาบ ในรัชกาลที่ 5
พี่สาวต่างมารดาพระยาสุรพันธ์เสนี (อิ้น)


พ.ศ.2472 คุณหญิงนิ่ง อายุ 20 ปี เป็นปีที่สถานะข้าหลวงชาววังของเธอเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกับชาวบ้านทั่วไป เนื่องจากอกเรือน ธรรมเนียมชาววัง ว่ากันว่าต้องอยู่แต่ในวังไปตลอดจนสิ้นอายุขัย นอกจากถูกให้ออกหรือจำเป็นต้องออกได้แก่การออกเรือนมีครอบครัว คุณหญิงนิ่ง จำเป็นต้องทูลลาออกจากวัง เนื่องจากพระยาสุรพันธ์เสนี (อิ้น บุนนาค) ขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นสมุหเทศาภิบาล มณฑลราชบุรีมาสู่ขอ

พระยาสุรพันธ์เสนี (อิ้น บุนนาค) เคยสมรสมาก่อนกับคุณหญิงเจียม บุนนาค มีบุตรด้วยกัน 5 คน ทว่าคุณหญิงเจียมอายุสั้นถึงแก่กรรมในปี พ.ศ.2470 พระยาสุรพันธ์เสนี (อิ้น บุนนาค) จึงตกเป็นพ่อหม้าย เมื่อได้มาพบกับคุณหญิงนิ่ง จึงเกิดความรักขึ้น

ความรักของพระยาสุรพันธ์เสนี (อิ้น บุนนาค)
กล่าวได้ว่าเป็นความรักที่เกิดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว โดยพระยาสุรพันธ์เสนีได้รู้จักกับคุณหญิงนิ่ง ผ่านทาง เจ้าจอมอาบ พระสนมในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นบุตรีของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ (เทศ) กับท่านผู้หญิงอู่ ตระกูลบุนนาค สายเพชรบุรี หนึ่งใน "เจ้าจอมก๊กออ" ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สาวต่างมารดากับพระยาสุรพันธ์เสนี เจ้าจอมอาบมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับเสด็จพระองค์ใหญ่เป็นที่สุด ความจริงแล้วเจ้าจอมอาบมีตำหนักส่วนพระองค์อยู่ในวังสวนสุนันทาด้วยเช่นกัน เพราะความใกล้ชิดสนิทกันมาก จึงได้ย้ายมาอยู่กับเสด็จพระองค์ใหญ่ที่ตำหนักทิพย์ในฐานะที่เจ้าจอมอาบมีศักดิ์เป็นพี่สาว จึงเป็นสะพานความรักให้กับน้องชาย

คุณหญิงนิ่ง รำลึกความหลังให้ฟังว่า "ไม่ได้รักกับเจ้าคุณมาก่อน ท่านไปสู่ขอกับผู้ใหญ่ จึงต้องออกเรือนมา"

พระยาสุรพันธ์เสนี (อิ้น บุนนาค) กราบทูลให้สมเด็จพระเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ชาววังเรียกท่านว่า "ทูลกระหม่อมชาย" ซึ่งเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพระยาสุรพันธ์เสนี ให้สู่ขอคุณหญิงนิ่งกับเสด็จพระองค์ใหญ่ "ทูลกระหม่อมชาย" ทรงยินดีโดยทรงพระอักษรถึงเสด็จพระองค์ใหญ่ ด้วยถ้อยคำอันงดงาม เสด็จพระองค์ใหญ่ทรงพระอักษรตอบว่า "ยินดีถวายสาว "นิ่ง" ให้แก่พระยาสุรพันธ์เสนี"
ในพิธีมงคลสมรสพระราชทานของคุณหญิงนิ่ง เป็นงานที่ใหญ่โตหรูหราโดย "ทูลกระหม่อมชาย" ทรงเป็นเจ้าภาพ จัดงานประทานให้ที่วังบางขุนพรหม วังของพระองค์เอง ทว่าภายในงานฉลองสมรสระหว่างสาวชาววังกับพ่อหม้าย สมุหเทศาภิบาลมณฑลราชบุรี เสด็จพระองค์ใหญ่มิได้เสด็จไปทรงร่วมด้วย

เพราะไม่มีธรรมเนียมที่เจ้านายฝ่ายในจะเสด็จออกนอกวังในยามค่ำคืน งานฉลองมงคลสมรสครั้งนี้แตกต่างจากงานสมรสโดยทั่วไป กล่าวคือไม่มีการส่งตัวเจ้าสาวเจ้าบ่าวเข้าห้องหอแต่อย่างใด เพราะธรรมเนียมชาววัง เจ้าสาวต้องกลับมานอนค้างคืนในวังสวนสุนันทาอีกเป็นคืนสุดท้าย กระทั่งรุ่งเช้าเจ้าบ่าวจึงมารับตัวเจ้าสาวออกจากวัง

\"คนมรดก\" เรื่องของสาวชาววังเมื่อเจ้านายที่รับใช้อยู่สิ้นพระชมน์


\"คนมรดก\" เรื่องของสาวชาววังเมื่อเจ้านายที่รับใช้อยู่สิ้นพระชมน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์