ตุลาฯอาลัย..!!รำลึก ๓ เหตุการณ์น้ำตาไทยหลั่งไหลเป็นสาย…


ตุลาฯอาลัย..!!รำลึก ๓ เหตุการณ์น้ำตาไทยหลั่งไหลเป็นสาย…

นับย้อนหลังเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ไทยในรอบ ๑๕๐ ปีที่ผ่านมา พสกนิกรชาวไทยได้สูญเสียดวงใจผู้เป็นที่รักยิ่งเหนือสิ่งใดด้วยความโทมนัสในช่วงเดือนตุลาคม จากเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ของ ๓ พระมหากษัตริย์ ทั้ง ๓ พระองค์ ทรงเสด็จสวรรคตสู่สวรรคาลัย ในเดือนตุลาคม ทั้งนี้จะขอนำทุกคนไปดูทั้ง ๓ พระองค์ ทรงเสด็จสวรรคตสู่สวรรคาลัย ในเดือนตุลาคม นั้นทรงมีพระองค์ใดกันบ้าง...

๑ ตุลาคม ๒๔๑๑ : พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เสด็จสวรรคต


ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์ที่ ๔ แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จฯ ทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่บ้านหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามที่พระองค์ทรงคำนวณไว้อย่างแม่นยำ และเสด็จกลับพระนครได้เพียงไม่นาน พระองค์เริ่มมีพระอาการประชวรจับไข้และทรงทราบว่าพระอาการจะไม่หาย จึงได้มีพระบรมราชโองการให้พระราชวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ๓ คน เข้าเฝ้าฯ พร้อมกันที่พระแท่นบรรทม เพื่อมอบพระราชกิจในการดูแลพระนคร

ก่อนจะเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งภานุมาศจำรูญ ภายในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง เวลาทุ่มเศษ ตรงกับวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๑๑ รวมพระชนมพรรษา ๖๔ พรรษา รวมดำรงสิริราชสมบัติ ๑๖ ปี ๖ เดือน
ในกาลต่อมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชโอรสพระองค์ที่ ๙ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๕ สืบต่อไป

๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ : พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จสวรรคต


ตุลาฯอาลัย..!!รำลึก ๓ เหตุการณ์น้ำตาไทยหลั่งไหลเป็นสาย…

เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าโศกให้กับประเทศไทยครั้งใหญ่หลวง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระประชวรด้วยโรคพระวักกะ (ไต) เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต รวมพระชนมพรรษาได้ ๕๘ พรรษา ครองราชสมบัตินานถึง ๔๒ ปี

เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกษัตริย์ที่เป็นที่เคารพรักของทวยราษฎร์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอเนกประการ ทั้งในการปกครองบ้านเมืองและพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชนทุกหมู่เหล่า ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่าง ๆ อันก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ ให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ และสามารถธำรงเอกราชไว้ตราบจนทุกวันนี้

ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงน้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการถวายพระราชสมัญญานามว่า "พระปิยมหาราช" หรือพระพุทธเจ้าหลวง และกำหนดให้ทุกวันที่ ๒๓ ตุลาคม เป็นวันปิยมหาราช เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน

๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต


ตุลาฯอาลัย..!!รำลึก ๓ เหตุการณ์น้ำตาไทยหลั่งไหลเป็นสาย…


ภายหลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๗ ประชาชนชาวไทยจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยแข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญแก่ปวงชนชาวไทย พร้อมติดตามแถลงการณ์สำนักพระราชวังเพื่อรับทราบพระอาการของพระองค์อย่างใกล้ชิด

แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างสุดความสามารถตลอด ๒ ปี แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ ในที่สุดแล้ว น้ำตาไทยต้องไหลรินเมื่อได้รับทราบข่าวพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคตเมื่อเวลา ๑๕.๕๒ น. ของวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ ๘๙

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชสมบัติ ๗๐ ปี นับเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ครองราชย์นานที่สุดในโลก

Cr::: welovemyking


ตุลาฯอาลัย..!!รำลึก ๓ เหตุการณ์น้ำตาไทยหลั่งไหลเป็นสาย…

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์