เจ้าฟ้าพินทวดี เจ้านายราชวงศ์บ้านพลูหลวงพระองค์เดียวที่ยังทรงอยู่ไทยหลังกรุงแตก


เจ้าฟ้าพินทวดี เจ้านายราชวงศ์บ้านพลูหลวงพระองค์เดียวที่ยังทรงอยู่ไทยหลังกรุงแตก

เจ้าฟ้าพินทวดี หรือ เจ้าฟ้าพินทุวดีนั้น ทรงเป็นพระราชธิดาลำดับที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศกับกรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวสาน้อย)

เจ้าฟ้าพินทวดีมีพระเชษฐภคินี พระอนุชา และพระขนิษฐาร่วมพระอุทร(รวมพระองค์)
ทั้งหมด 8 องค์ คือ


 1.เจ้าฟ้าประภาวดี

2.เจ้าฟ้าประชาวดี 3.เจ้าฟ้าพินทวดี

4.เจ้าฟ้าเอกทัศน์ คือ กรมขุนอนุรักษ์มนตรี

5.เจ้าฟ้าจันทวดี

6.เจ้าฟ้ากษัตรี

7.เจ้าฟ้ากุสุมาวดี

8..เจ้าฟ้าอุทุมพร หรือ เจ้าฟ้าดอกเดื่อ คือ กรมขุนพรพินิจ

เป็นที่ทราบกันว่าหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 นั้น ชาวเมืองอยุธยาและเชื้อพระวงศ์บ้านพลูหลวงต่างถูกจับเป็นเชลย และถูกกวาดต้อนไปยังกรุงอังวะที่ประเทศพม่า

แต่สำหรับเจ้าฟ้าพินทวดีนั้น เจ้าครอกทองอยู่ (พระอัครชายาในกรมพระราชวังหลังกรุงรัตนโกสินทร์) เคยเป็นข้าหลวงของเจ้าฟ้าหญิงพินทวดีมาก่อน เมื่อกรุงแตกจึงเชิญเสด็จลงมากรุงธนบุรีด้วยกัน ปรากฏว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดให้ประทับในพระราชวังกรุงธนบุรีและทรงอุปการะยกย่องเป็นอันดี

เจ้าฟ้าพินทวดีจึงทรงเป็นผู้แนะนำเรื่องราชประเพณี และการรั้ววังต่าง ๆ จนกระทั่งหมดสมัยกรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) จึงเชิญให้เข้ามาประทับในพระบรมมหาราชวัง ที่กรุงเทพฯ


นอกจากนี้ ยังปรากฏเรื่องราวของท่านในพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 ) เรื่องพระราชพิธีโสกันต์ตอนหนึ่งว่า

"...เจ้าฟ้าพินวดี ซึ่งเป็นพระราชธิดาพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาโบราณนั้น ท่านเคยลงสรงโสกันต์ด้วยพระองค์เอง แลเห็นการงานต่าง ๆ เมื่อเวลาลงสรงโสกันต์ เจ้าพี่เจ้าน้องของท่านๆทราบการทุกอย่าง เป็นผู้แนะนำอย่างธรรมเนียมโบราณอื่น ๆ ต่าง ๆ หลายอย่างหลายประการในกรุงเทพฯ นี้

เมื่อท่านเห็นว่าเจ้าฟ้า 7 พระองค์ที่โสกันต์ ไม่ได้ทำเต็มตามตำราพระราชพิธีแต่สักพระองค์หนึ่ง จนหมดเจ้าฟ้าไปแล้ว ท่านก็บ่นนักว่าการอย่างธรรมเนียมพระราชพิธีลงสรงโสกันต์เจ้าจะสาบสูญไป เสียแล้ว ท่านก็ทรงชราแล้ว เมื่อไม่มีพระชนม์ท่าน ถ้าการสืบไปมีเวลาที่จะได้ทำขึ้น ใครจะมาแนะชี้การให้ถูกต้องตามแบบแผนได้เล่า

ท่านจึงคิดอ่านจดหมายการงานลงสรงโสกันต์ต่าง ๆ ลงไว้ แล้วชี้แจงให้ผู้ใหญ่ผู้น้อยข้างหน้าข้างในเรียนดูรู้ไว้ด้วยกันมาก เพื่อจะไม่ให้การสาบศูนย์ไป ความที่เจ้าฟ้าพินทวดีทรงพระวิตกนั้น กรมพระราชวังฯ ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงเห็นชอบด้วย จึงทรงสร้างเขาไกรลาสมีพระมณฑปเป็นยอด และมีสระอโนดาต และท่อไขนำจากปากสัตว์ทั้ง 4 ตามอย่างเจ้าฟ้าพินทวดีชี้การให้ทำ ครั้นการเขาไกรลาสเสร็จแล้ว ก็กราบทูลขอแต่พระเจ้าอยู่หัวได้โปรดให้ทำการโสกันต์ พระราชบุตร แลพระราชบุตรีของท่าน ที่เป็นแต่พระองค์เจ้าสมมติให้เป็นดังเจ้าฟ้า ทำการทั้งนี้แม้นผิดอย่างธรรมเนียม ก็เพื่อว่าจะให้เห็นเป็น (ตัว) อย่างทันเวลาเมื่อเจ้าฟ้าพินทวดียังทรงพระชนม์อยู่ จะให้มีผู้ได้รู้ได้เห็นไว้เป็นอันมากมิให้การสาบสูญไป"

ในวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ คาดว่าทรงประทับอยู่ฝ่ายใน พระบรมมหาราชวัง จนสิ้นพระชนม์ในวันที่27 มกราคม พุทธศักราช 2344 ในรัชกาลที่ 1 นั้นเอง พระราชทานเพลิงศพเจ้าฟ้าพินทวดี ณ วัดสุวรรณาราม

ภาพประกอบ: พระบรมสาทิศลักษณ์ในจินตนาการ ,ชมรมประวัติศาสตร์สยาม

เจ้าฟ้าพินทวดี เจ้านายราชวงศ์บ้านพลูหลวงพระองค์เดียวที่ยังทรงอยู่ไทยหลังกรุงแตก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์