มุมมองความรักของ “พระนางศุภยาลัต” ราชินีองค์สุดท้ายของพม่า ที่เล่ากันว่าโหดเหี้ยมเกิดคน!!!

ณ ตอนนี้ ชื่อของพระนางศุภยาลัต ราชินีพม่าองค์นี้ คงเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากๆ ซึ่งเรามักจะได้ยินเรื่องความโหดเหี้ยมผ่านเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์มากมาย แต่น้อยคนนักจะได้รับรู้ถึงอีกมุมหนึ่งของพระนาง โดยเฉพาะด้านความรัก ที่จริงๆ แล้วอาจไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด

มุมมองความรักของ “พระนางศุภยาลัต” ราชินีองค์สุดท้ายของพม่า ที่เล่ากันว่าโหดเหี้ยมเกิดคน!!!

เรื่องเล่าอันโด่งดังกับการสังหารหมู่ของพระนาง

เจ้าหญิงศุภยาลัต เป็นพระราชธิดาของพระเจ้ามินดง กษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบอง กับพระนางอเลนันดอ จากบันทึกของดอกเตอร์จอห์น แอบเบนีเซอร์ มาร์คส์ ครูมิชชันนารี เล่าไว้ว่าอุปนิสัยของเจ้าหญิงนั้นทะเยอทะยานและร้ายกาจ ครั้งหนึ่งในวัย 9 ปี เคยบีบนกจนปีกหักเพราะนึกสนุกมาแล้ว

จากบันทึกนี้เอง ที่เป็นต้นเรื่องทำให้หลายคนกล่าวโทษเจ้าหญิงศุภยาลัต (ซึ่งต่อมาอภิเษกสมรสกับพระเจ้าธีบอ และกลายเป็นพระนางศุภยาลัต) ว่าจับพระญาติและบริวารมาสังหารหมู่แบบลับๆ เพราะเกรงว่าจะเป็นเสี้ยนหนามต่อราชบัลลังก์ โดยออกอุบายจัดงานเลี้ยงรื่นเริงทั้งเมือง และให้วงมโหรีบรรเลงเพลงกลบเสียงร้องโหยหวน ถ้าช่วงไหนที่เสียงร้องดัง ก็จะบรรเลงเพลงดังขึ้นไปอีก สังหารไปก็โยนศพลงหลุมขนาดใหญ่ไป รวมๆ แล้วมีมากถึง 500 ศพ และใช้เวลาสังหารรวมถึง 3 วัน 3 คืน แต่เรื่องก็เกิดแดงขึ้นมาเพราะศพมากมายในหลุม ขึ้นอืดดันขึ้นมา แม้พระนางจะสั่งให้เอาช้างมาเหยียบก็ไม่อาจกลบความโหดเหี้ยมนี้ได้


จากปากคำของนางกำนัล เป็นหนังคนละม้วน

แต่เรื่องเล่าอันโหดร้ายที่รับรู้กันมานั้น ก็อาจจะไม่ใช่แบบที่เราเชื่อเสมอไป เพราะจากหนังสือ Thibaw's Queen หรือฉบับภาษาไทย "ราชินีศุภยาลัต จากนางกษัตริย์สู่สามัญชน" (สุภัตรา ภูมิประภาส และสุภิดา แก้วสุขสมบัติ แปล, ฟีลดิ้ง ฮอลล์ เขียน) ได้รวมเรื่องราวจากคำบอกเล่าของนางกำนัลคนสนิท ซึ่งยืนยันว่าพระนางศุภยาลัตเป็นที่รักของเหล่าบริวาร พระนางเอาใจใส่ทุกๆ คน โดยเฉพาะเรื่องภาพลักษณ์ พระนางจะไม่ยอมให้เหล่านางกำนัลสวมใส่ผ้าซิ่นเก่าๆ เด็ดขาด จึงประทานผ้าซิ่นไหมลายเดียวกับพระนางให้นางกำนัลหลายร้อยคนใส่ด้วย แต่มีข้อแม้อย่างเดียวคือ ห้ามใส่ลายซ้ำกับพระนางในวันนั้นเท่านั้นเอง

อีกตอนที่น่าประทับใจ ก็คือช่วงที่พระนางรู้ข่าวการบุกยึดพม่า พระนางก็บอกให้เหล่านางกำนัลหนีไปก่อนที่ทหารอังกฤษจะเข้ามา เพราะรู้ดีว่าแต่ละคนนั้นมีครอบครัวที่ต้องไปอยู่และดูแลด้วย และนี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่นางกำนัลเล่าให้ฟัง


รักแท้ของพระนางศุภยาลัต

พูดถึงเรื่องความรักของพระนางศุภยาลัตแล้ว หลายคนอาจจะคิดว่าพระนางอภิเษกสมรสกับพระเจ้าธีบอ เพียงเพราะอยากขึ้นครองราชย์ โดยแย่งตำแหน่งมาจากพระเชษฐภคินีของตัวเอง ทั้งที่จริงแล้ว จากคำบอกเล่าของนางกำนัลบอกว่า พระนางรักพระเจ้าธีบอมากกว่าใครๆ รักมาตั้งแต่ยังเป็นเจ้าชายไม่มีวี่แววว่าจะได้เป็นใหญ่ด้วยซ้ำ ถึงขั้นเคยส่งจดหมายตัดพ้อเจ้าชายธีบอด้วยใจความว่า

"บัดนี้ฝ่าบาทได้ขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้ว และหม่อมฉัน เจ้าหญิงกลาง ผู้เป็นน้องสาวของฝ่าบาทขอแสดงความยินดีกับพระองค์ด้วย ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ได้อย่างไร และตอนนี้เป็นที่เลื่องลือกันว่าพระองค์จะต้องทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงใหญ่ซึ่งเป็นพี่สาวของหม่อมฉัน แต่หากพระองค์จะทรงหยุดคิดสักนิดสิ่งนั้นก็คงจะไม่เกิดขึ้น พี่สาวของหม่อมฉันเคยใส่ใจฝ่าบาทบ้างหรือไม่ เคยทำสิ่งใดเพื่อฝ่าบาทบ้าง

ตอนที่ฝ่าบาทถูกส่งตัวออกจากวังไปบวชเรียนที่วัด นางเคยเขียนจดหมายถึงฝ่าบาทบ้างหรือไม่เพคะ เคยส่งปัจจัยและสิ่งของไปให้ฝ่าบาทบ้างหรือไม่เพคะ จดหมายและข้าวของพวกนั้นอยู่ที่ไหนกันเล่า จะค้นเจอได้จากที่แห่งใดบ้าง ฝ่าบาทย่อมทรงทราบดีว่ามิได้เป็นเช่นนั้น

ไม่เคยมีใครรำลึกถึงฝ่าบาท หรือแม้แต่ส่งของขวัญให้ฝ่าบาทนอกจากหม่อมฉัน ผู้ใดสามารถนับได้ว่าหม่อมฉันเขียนจดหมายถึงฝ่าบาทกี่ฉบับหรือวัดความรักที่หม่อมฉันมีต่อพระองค์ได้บ้างเพคะ สิ่งเหล่านั้นมากมายเกินหยั่งถึง

ขอให้ฝ่าบาททรงตรึกตรองดูเถิด ขอให้พระองค์ย้อนรำลึกถึงความหลังแล้วพระองค์จะทรงมั่นใจว่าพระองค์ไม่อาจจะมีผู้ใดสมควรเป็นราชินีของพระองค์ได้นอกจากหม่อมฉัน"


พระนางศุภยาลัตกับความหึงหวง

สิ่งเดียวที่ทำให้พระนางศุภยาลัตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ก็คือความขี้หึง นางกำนัลเปิดเผยว่า พระนางรักมั่นกับพระเจ้าธีบอ จนไม่ยอมให้มีมเหสีอื่นเด็ดขาด ต่อให้เมืองฉานจะส่งเจ้าหญิงมาถวายตัวตามธรรมเนียมปฏิบััติ พระนางก็เพียงรับมาเป็นนางกำนัลเท่านั้น แต่ก็ยังหลุดรอดสายตาไปจนได้ เมื่อครั้งหนึ่งพระนางจับได้ว่าพระเจ้าธีบอแอบมีสัมพันธ์กับเจ้าหญิงเมืองฉาน พระนางโกรธและเสียใจมาก จึงสั่งโบยเจ้าหญิงฉานเพื่อประจานและเนรเทศออกจากวัง หลังจากนั้นมาพระนางก็จะไม่ยอมให้เจ้าหญิงจากเมืองฉานเข้ามาถวายตัวอีกเลย ถ้ามาก็จะไล่กลับ หรือไม่ก็จับขังไว้ โดยไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ตราบเท่าที่พระเจ้าธีบอยังรักและเป็นของพระนางคนเดียว

อีกครั้งหนึ่ง เมื่อขุนนางบางส่วนกระทำการลับ แอบส่งสนมมาถวายงานในวัง และเตรียมการถึงขั้นจะให้ขึ้นเป็นใหญ่ แต่ก็ล่วงรู้ถึงหูพระนางศุภยาลัตจนได้ และนั่นน่าจะเป็นเพียงครั้งเดียวที่พระนางสั่งสังหารคน นางกำนัลกล่าวว่า พระนางจะร้ายก็ต่อเมื่อมีคนมาคิดแย่งชิงพระเจ้าธีบอของพระนางไปเท่านั้น พระนางก็แค่รักแรงเกลียดแรง แต่พระนางไม่ใช่คนโหดร้ายขนาดจะฆ่าใครเป็นร้อยๆ คนได้


พระนางศุภยาลัตกับสัมภาษณ์สุดท้ายในเมืองพม่า

หลังจากที่พระนางศุภยาลัตถูกเนรเทศไปอยู่อินเดียถึง 31 ปี และได้กลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่พม่าอีกครั้ง ก็มีนักข่าวไปขอสัมภาษณ์ และพระนางได้เอ่ยถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ว่า สิ่งที่ทุกคนเชื่อนั้นไม่เป็นเรื่องจริง ฉันไม่ได้ฆ่าพวกเจ้าฟ้าชาย ฉันยังเป็นเด็กตอนที่เป็นพระราชินี (19 พรรษา)

จากคำสัมภาษณ์นี้ หลายๆ คนจึงคาดการณ์ว่าหรือที่จริงแล้ว คนที่สั่งการสังหารหมู่จริงๆ คือพระนางอเลนันดอ พระมารดา อาจไม่ใช่พระนางศุภยาลัตอย่างที่ทุกคนร่ำลือกันก็เป็นได้

สุดท้าย คงไม่มีใครบอกได้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยเราก็ได้รับรู้เรื่องราวอีกมุมหนึ่งของพระนางศุภยาลัต เรื่องราวดีๆ ที่ทำให้เรารู้ว่าพระนางก็เหมือนคนทั่วไปนั่นแหละ ที่มีทั้งความรักและความเกลียดชัง อย่ามองใครเพียงแค่ด้านเดียว และอย่าตัดสินคนเพียงเพราะเค้าเล่ากันต่อๆ มา



มุมมองความรักของ “พระนางศุภยาลัต” ราชินีองค์สุดท้ายของพม่า ที่เล่ากันว่าโหดเหี้ยมเกิดคน!!!


มุมมองความรักของ “พระนางศุภยาลัต” ราชินีองค์สุดท้ายของพม่า ที่เล่ากันว่าโหดเหี้ยมเกิดคน!!!


มุมมองความรักของ “พระนางศุภยาลัต” ราชินีองค์สุดท้ายของพม่า ที่เล่ากันว่าโหดเหี้ยมเกิดคน!!!


มุมมองความรักของ “พระนางศุภยาลัต” ราชินีองค์สุดท้ายของพม่า ที่เล่ากันว่าโหดเหี้ยมเกิดคน!!!

ที่มา : khabphum.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์