เปิดจดหมายเหตุ มองซิเออร์คอร์ วินาที กรุงศรีฯใกล้แตก!

เหตุการณ์บางช่วงบางตอนก่อนพระนครศรีฯจะแตกคัดบางตอนจาก จดหมายของมองซิเออร์คอร์

ในเวลานั้นก็เกิดเสียงลือกันขึ้นด้วยว่า กองทัพพม่าเต็มไปด้วยคนไทยซึ่งได้รับความเดือดร้อน เอาใจออกห่างจากไทยไปเข้ากับพม่า เรือลำใหญ่ของมิสเตอร์ ปอเน ได้ทอดสมออยู่ที่ลำน้ำใต้กรุงศรีอยุธยาตรงกับบางกอก ครั้นเมื่อวันที่ ๒๔เดือนธันวาคมอยู่ดี ๆ ไม่ทันรู้ตัว พวกพม่าข้าศึกก็มาตีเรือพวกเรือก็ได้ต่อสู้อย่างสามารถ แต่ถึงจะทำอย่างไรก็สู้พม่าไม่ได้ เพราะพม่าได้ไปยึดป้อมไว้ได้และได้เอาปืนใหญ่ ๆ ไปตั้งบนป้อมเพื่อจะยิงเรืออังกฤษ เจ้าพนักงานในเรือเห็นเช่นนั้น จึงได้จัดการลากเรือขึ้นไปตามลำแม่น้ำ และเมื่อไปถึงที่แห่ง๑ พวกอังกฤษก็เตรียมการที่จะป้องกันมิให้พวกพม่าตั้งป้อมได้ โดยอังกฤษใช้วิธียิงกราดลงไปทั้ง ๒ ฝั่ง เรือลำเล็กนั้นจอดอยู่หน้า และมิสเตอร์ปอเนซึ่งแต่ก่อนทำอิดออดก็เปนอันตกลงจะอยู่ช่วยไทยรักษากรุง แต่ขอให้ไทยส่งกระสุนปืนใหญ่กับกระสุนดินดำให้มาก ๆ กับขอปืนเล็กกับกระสุนด้วย 

ไทยก็ยอมจัดปืนให้แต่ไม่ครบตามจำนวนที่อังกฤษต้องการ แต่ไทยได้สัญญาว่าการที่จะให้ส่งปืนและกระสุน ดินดำนั้น อังกฤษจะต้องขนเอาสินค้าขึ้นไปเก็บในพระคลังหลวง มิสเตอร์ ปอเน ไม่เต็มใจแต่ก็ขัดไม่ได้จึงได้ให้ขนสินค้าขึ้นฝากไว้ที่ พระคลังหลวง ๓๘ หีบ ของที่ยังเหลืออยู่นั้นมิสเตอร์ปอเน ได้ขนลง ไปรวบรวมไว้ในเรือ และตัวมิสเตอร์ ปอเน ก็ได้ลงไปอยู่ในเรือ ๖ ได้สู้รบกับพม่ากว่าเดือน ๑ จึงได้มีจดหมายถวายพระเจ้ากรุงสยาม ขอปืนใหญ่และกระสุนดินดำเพิ่มขึ้นอีก ฝ่ายไทยทราบอยู่ว่าข้าศึก จะยกเข้ามาตีกรุงอีกด้าน ๑ ไม่เกี่ยวทางด้านที่เรืออังกฤษจอดอยู่ ทั้งยังไม่ค่อยจะไว้ใจอังกฤษนัก จึงไม่ยอมให้ปืนตามที่อังกฤษขอมา มิสเตอร์ ปอเน ก็โกรธมาก แล้วได้ส่งหนังสือคล้าย ๆ กับเปนการประกาศไปยังเสนาบดี จึงได้ถอนสมอล่องเรือลงไปตามลำน้ำ และในตอนล่องเรือนั้นได้ให้ขึ้นไปริบของจากเรือสำเภาจีนรวม ๖ ลำ แต่ลำ ๑ เปนเรือของพระเจ้ากรุงสยาม นอกนั้นเปนเรือซึ่งมาจากประเทศจีนเพื่อมาค้าขายในประเทศสยาม จึงได้มาจอดรออยู่ที่อ่าวสยาม

        พม่าล้อมกรุง พวกพม่าได้ยกทัพมีพลมากมายก่ายกองกระจายอยู่เต็มบ้านเต็ม เมืองดุจน้ำไหลอย่างเชี่ยว เมื่อปี ค.ศ.๑๗๖๖ (พ.ศ. ๒๓๐๙) พม่าได้สร้างป้อมล้อมกรุงไว้ ๓ แห่ง แต่ถึงดังนั้นเสบียงอาหารในกรุงก็ยังบริบูรณ์ จะมีคนตายด้วยอดอาหารก็เพียงคนขอทานเท่านั้น เพราะฉนั้นเมื่อวันที่ ๑๔ เดือนกันยายน ข้าศึกจึงได้ยกมาตั้งติดประชิดกรุงห่างจากกำแพงเมืองเพียงระยะทางปืนใหญ่เท่านั้น และก็ตั้งมั่นคอยจับผู้คนเสบียงพาหนะซึ่งจะผ่านไปมา....

พม่าได้ยกทัพออกจากกรุงเมื่อวันที่ ๑๕ เดือนเมษายน ค.ศ. ๑๗๖๗ ( พ.ศ. ๒๓๑๐) บาดหลวงแบนาดีโนได้ตกน้ำตายใต้บางกอก บาดหลวงเยซวิตได้ตายที่ข้างช้าง บาดหลวงอีซีดอร์ได้หนีไปที่เมืองคันเคา ซาอานา ซิโอกับภรรยาถูกพม่าเก็บทรัพย์สมบัติจนหมดตัว ลงปลายที่สุดก็อดอาหารตาย ส่วนตัวข้าพเจ้านั้นได้หนีไปบางกอกพร้อมด้วย พวกเข้ารีด ๓๐๐ คน แล้วได้ลงเรือจีนไปยังเมืองคันเคาต่อไป

บาญชีและจำนวนของที่ได้ฝังไว้ ในบริเวณบ้านบาดหลวงที่กรุงศรีอยุธยา ก่อนพม่าเข้ามาและซึ่งภายหลังหาไม่พบ มองซิเออร์คอร์เปนผู้จด ค.ศ. ๑๗๗๔ ( พ.ศ. ๒๓๑๗) ๑ ฝังไว้ในห้องเก็บน้ำมันซึ่งอยู่ใกล้กับห้องของโกลดีโอ ไม้ยศของสังฆราช กับของต่าง ๆ ของคณะบาดหลวงแต่จะเปนของอะไรบ้าง สังฆราชาได้บอกข้าพเจ้าไม่ สมุดจดเรื่องต่าง ๆ เล่ม ๑ น้ำมันที่เสกแล้วหีบ ๑ กับของ อื่น ๆ อีก

หีบเก็บเงินใบใหญ่ทาสีขาวหีบ ๑ มีเงินในนั้น ๖ ถึง ๗ ชั่ง เปนเงินของ โซาตาซา เงิน ๑๐ ตำลึงหรือ๑ ชั่ง เท่าไรแน่ข้าพเจ้าไม่ทราบ เปนเงินของมาแตงเล็ก เงิน ๑๐ ตำลึง ของไครอตภรรยาตาฉิม เงิน ๑ หรือ ๒ ชั่ง ใส่ไว้ในหีบดำเปนเงินของ โบ ๒. ฝังไว้ที่ประตูสวนใกล้กับห้องนักเรียน คือ เสื้อผ้าของ นางอันโตนีอากับหลุยลาเลอมัน ๓. ฝังไว้ข้างโบสถ์ใกล้กับหอระฆัง ซึ่งนักเรียนเคยไว้โอ่งน้ำ เงิน ๑ ชั่ง ของนางอันโตนีอา ๔. ฝังไว้ในห้องน้ำมันซึ่งกล่าวมาแล้ว และในที่เดียวกันกับเงินของพวกเข้ารีด มีเครื่องแต่งตัวเปนของรูปพรรณ ของยังคาน และบุตรหญิง ชื่อ บีบีนาอา ที่บันไดเล็กบ้านบาดหลวงห่าง ๘ หรือ ๑๐ ก้าว ไปข้างด้าน ที่บูชา ได้เอาเครื่องเงินของคณะบาดหลวงฝังไว้ลึก ๕ หรือ ๖ ฟิต และมีเงินเหรียญประมาณ ๖๐ เหรียญซึ่งมองเซนเยอร์เดอตาบรากาได้ฝังไว้ด้วย..

ที่มาจาก::  FB 
ร้อยเรื่องราว ไปกับ เจ้าคุณปราบสุราพินาศ

เปิดจดหมายเหตุ มองซิเออร์คอร์ วินาที กรุงศรีฯใกล้แตก!

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์