กายเดียว จิตเดียว

กายเดียว จิตเดียว


กายเดียว จิตเดียว

รู้กายเดียว ...จิตเดียว ...ไม่เกี่ยวข้อง
สติจ้อง ...รู้จิต ...ปลิดสังขาร
ทั้งดีชั่ว ...ปล่อยไป ...ไม่รำคาญ
ชนะมาร ...ภายใน ...ใช้ปัญญา

กำหนดรู้ ...กายจิต ...ไม่คิดแส่
ตัดกระแส ...สมุทัย ...ไกลตัณหา
แจ้งประจักษ์ ..ในไตร- ...ลักษณา
จับอัตตา ...ฆ่ามัน ...ให้บรรลัย

อัตตาตาย ...กลายเป็นพระ ...ละกิเลส
พ้นวิเศษ ...ปรากฏ ....ความสดใส
พระพุทโธ ...โผล่รู้ ...ดูภายใน
ให้จิตใจ ...ชื่นบาน ...พ้นมารยา

เราเขียนกลอน ...สอนใจ ...ใช้ความคิด
ให้ญาติมิตร ...ตริตรึก ...ได้ศึกษา
ดำเนินตาม ...ทางตรง ...ปลงปัญญา
มีดวงตา ...เห็นธรรม ..ประจำเอย.


อย่าเพ่งออก

การปรารภ ...ธรรมะ ...มีประโยชน์
คอยเพ่งโทษ ...ตัวเอง ..อย่าเพ่งเขา
หมั่นมองดู ...หน้าตา ..ฆ่าตัวเรา
ให้ว่างเปล่า ...จากใจ ..อย่าไว้มัน

การเพ่งออก ...หลอกตัวเอง ...เก่งกว่าเขา
ใจมัวเมา ...เพลิดเพลิน ...เที่ยวเหิมหัน
เพิ่มทุกข์โทษ ...ให้แก่ตัว ...ใจพัวพัน
ทุกข์ทั้งนั้น ...อย่างวยงง ...หลงมารยา

จงเพ่งดู ...จิตใจ ...อย่าได้ขลาด
ความฉลาด ...ตรวจดู ...รู้รักษา
สิ่งสกปรก ...รกใจ ...ไม่เก็บมา
ผ่านหูตา ...ปล่อยไป ...ไม่ไยดี

คอยปลดเปลื้อง ...เรื่องร้าย ...ให้คลายออก
หมั่นซักฟอก ...จิตใจ ...ให้เต็มที่
รู้เท่ากล ...มารยา ....ทุกนาที
โทษเกิดมี ...ละมัน ...ในทันใด

ปฏิบัติ ...คัดเลือก ...ทิ้งเปลือกนอก
ให้จางออก ...เห็นชัด ...ตัดสงสัย
เป็นแนวทาง ...หลุดพ้น ...ควรสนใจ
ปล่อยวางไป ...ไม่กังวล ...พ้นโทษเอย.

การเพ่งโทษ

การเพ่งโทษ ...เพื่อประโยชน์ ...จะชี้ทาง
เป็นแบบอย่าง ...วางไว้ ...ให้รู้เห็น
การเพ่งเพื่อ ...สอนกัน ...นั้นจำเป็น
ผู้บำเพ็ญ ...ประโยชน์ ...โทษไม่มี

การเพ่งโทษ ...เพื่อประโยชน์ ...จะอวดอ้าง
ใจกระด้าง ...โกรธเกลียด ...เฝ้าเสียดสี
เพ่งโทษเขา ...เมามัว ...ว่าตัวดี
เพ่งอย่างนี้ ...มีโทษ ...โปรดไตร่ตรอง

เพ่งโทษเขา ...เหมือนหาเหา ...มาใส่หัว
โทษที่ตัว ...เพ่งเขา ...ใจเศร้าหมอง
ใครจะดี ...จะชั่ว ...ไปมัวมอง
ดูโทษของ ...คนอื่น ...ทุกคืนวัน

โทษของตน ...ไม่สนใจ ...ไม่รู้สึก
ไม่นึกฝึก ...ตนบ้าง ...ช่างขยัน
เพ่งโทษเขา ...เอามา ...นินทากัน
เพราะคนนั้น ...มีทิฏฐิ ...ดำริพาล

อีกการพูด ...เพ้อเจ้อ ...เสนอข่าว
รู้เรื่องราว …แปลกแปลก ...อย่างแตกฉาน
ทั้งเรื่องชั่ว ...เรื่องดี ...มิใช่การ
นำมาขาน ...กล่าวไข ...ไม่ละอาย

ครั้งยิ่งพูด ...ยิ่งเพลิน ...เกินขอบเขต
ไม่สมควร ...แก่เพศ ...ที่มุ่งหมาย
ประพฤติพรต ...พรหมจรรย์ ...ฉันนึกอาย
ขอเป็นฝ่าย ...ยอมแพ้ ...เพื่อแก้ตัว

เว้นจากการ ...ถกเถียง ...เพียงรับฟัง
มีสติ ...ยับยั้ง ...ทั้งดีชั่ว
คอยเพ่งโทษ ...ตัวเอง ...เพราะเกรงกลัว
ความเมามัว ...ประมาทรอบ ...มาครอบเรา

เรื่องอะไร ....ของใคร ....อย่าไปคิด
รีบทำกิจ ...ของตัว ...อย่ามัวเขลา
ใครจะดี ...หรือชั่ว ...อย่ามัวเมา
เพ่งโทษเขา ...เราร้อน ...เพราะค่อนคน

ทั้งเรื่องคน ...เรื่องของ ...ต้องงดคิด
ละเลิกหมด ...อดใจ ...จะได้ผล
ผลที่ไหน …ผลที่ใจ ...ไม่ร้อนรน
ผลที่พ้น ...จากโทษ ...โปรดสังวร

การปฏิบัติ ...หัดนิ่ง ..ยิ่งรอบรู้
เพราะมีครู ...รู้เท่า ...เฝ้าสั่งสอน
ทุกอิริยา- บถยืน ...เดินนั่งนอน
หมั่นไถ่ถอน ...มายา ...ฝ้าบังใจ

รู้เหตุผล ...ถูกผิด ...ปลิดทุกข์โทษ
ความโลภโกรธ ...หลงผิด ...จิตหวั่นไหว
จงซักฟอก ...ลอกฝ้า ...บังตาใน
ใจแจ่มใส ...ใจเย็น ...ใจเป็นธรรม

อบรมใจ ....ให้เป็น ...สมาธิ
ความดำริ ...รู้รอบ ...ประกอบสัม-
มาทิฏฐิ ...รู้พร้อม ...ย่อมน้อมนำ
หยั่งรู้ธรรม ...ลุ่มลึก ...อย่าตรึกไป

กำหนดความ ...ชัดใจ ...ให้นิ่งแน่
ไม่ให้แส่ ...ตามอารมณ์ ...ข่มไว้ได้
จิตสงบ ...ประสบว่าง ...สว่างใจ
ผลกำไร …ของมนุษย์ ..ชาวพุทธเอย.


อะไรที่ไหน

อันความงาม ...มีอยู่ตาม ...หมู่ซากผี
อันความดี ....อยู่ที่ละ ...สละยิ่ง
ความเป็นพระ ...อยู่ที่เพียร ...บวชเรียนจริง
นิพพานดิ่ง ...อยู่ที่ตาย ...ก่อนตายเอย ฯ

**** ผู้แต่งกวีเป็นสุภาพสตรี



ขอบคุณข้อมูลจากพลังจิตดอทคอม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์