มีคนตั้งคำถามกับหมอบ่อย ๆ ว่าเผลอลืมทานยาตามเวลาที่หมอบอกไว้ จะทานตามหลังจากที่นึกออกได้หรือเปล่า
จริง ๆ แล้วการที่ยาแต่ละชนิดมีการกำหนดเวลาในการทานเอาไว้ อย่างยาก่อนอาหาร ยาระหว่างมื้ออาหาร ยาหลังอาหาร หรือยาก่อนนอน ล้วนมีเหตุผลทั้งนั้ครับ
ยาที่แนะนำให้ทานก่อนอาหาร มักเป็นยาที่สามารถถูกทำลายได้ในสภาวะความเป็นกรด ซึ่งการทานอาหารจะทำให้สภาวะในกระเพาะอาหารมีความเป็นกรด จึงทำให้ยาถูกทำลายได้ในปริมาณมากขึ้น และอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการรักษาลดลงได้ เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนนิซิลลิน (แอมพิซิลลิน คลอกซาซิลลิน) และยาปฏิชีวนะกลุ่มแมคโครไลน์ (อีริโทมัยซิน รอกซิโทมัยซิน) เป็นต้น ทั้งนี้ การทานยาประเภทนี้ควรทานก่อนเริ่มทานอาหารอย่างน้อย 30 - 60 นาที
ทานยาถูกเวลาลดผลข้างเคียงได้
ยาที่แนะนำให้ทานพร้อมอาหารคำแรก จะเป็นยาที่ออกฤทธิ์ป้องกันไม่ให้มีการดูดซึมของสารอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรต หรือไขมันเข้าสู่กระแสเลือด ตัวอย่างยาดังกล่าวคือ ยาลดระดับน้ำตาลในเลือดบางชนิด (อะคาโบสโวกิโบส) และยาป้องกันการดูดซึมไขมันเพื่อใช้ในการลดน้ำหนัก (ออริสแตด) ดังนั้น ยาดังกล่าวนี้จึงควรทานพร้อมอาหารคำแรก หรือก่อนอาหารทันทีจึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุดจากการทานยา
ยาที่แนะนำให้ทานหลังอาหาร เป็นคำแนะนำของการทานยาส่วนใหญ่ ซึ่งทั่วไปแล้วการทานยาประเภทนี้จะแนะนำให้ทานหลังอาหารแล้วประมาณ 15 - 30 นาที แต่จะมียาบางชนิดที่แนะนำให้ทานหลังอาหารทันที เนื่องจากยาดังกล่าวจะมีผลระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ เช่น ยาลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ยาลดการอักเสบชนิดสเตียรอยด์ เป็นต้น
ยาที่แนะนำให้ทานก่อนนอน จะมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญอยู่ 2 ประการ ประการแรก คือ ยานั้นมีผลทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ยาช่วงก่อนนอนจะทำให้อาการข้างเคียงดังกล่าวเกิดขึ้นน้อยลง หรือหากเกิดขึ้นก็จะไม่มีผลกระทบต่อผู้ป่วยมากนัก เนื่องจากนอนหลับไปแล้ว ส่วนวัตถุประสงค์อีกประการคือ ยามีการออกฤทธิ์ได้ดีในช่วงเวลากลางคืน เช่น ยาลดไขมันในกระแสเลือดบางชนิด (ซิมวาสแตติน พาวาสแตติน) เพราะยานี้จะทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ใช้ในการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล และเอนไซม์ดังกล่าวจะทำงานได้ดีในช่วงเวลากลางคืน ทั้งนี้ การทานยาก่อนนอน ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเวลานอนแล้วจึงทาน แต่ผู้ป่วยสามารถทานยาในช่วงเวลาประมาณ 3 - 4 ทุ่ม หรือประมาณ 1 - 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอนก็ได้
ดังนั้นคุณจึงควรให้ความสำคัญกับการทานยาให้ตรงตามกำหนดเวลาเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุด และเกิดอาการข้างเคียงจากยาน้อยที่สุดครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจากนิตยสารสุขภาพดี
บทความโดย ภก.ธนรัตน์ สรวลเสน่ห์
อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ