สร้างลูกน้อยให้ฉลาดได้ด้วยดนตรี

ก่อนหน้านี้กลายเป็นกระแสที่ฮิตมาก ๆ มาครั้งหนึ่งแล้ว สำหรับเรื่องการใช้ดนตรีบำบัด ซึ่งมีความเชื่อกันว่ากันใช้ดนตรีบำบัดนั้นสามารถใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัย

ซึ่งผลที่ได้นั้นก็คือผู้ที่เข้ารับการบำบัดจะมีจะมีภาวะทางอารมณ์ที่สมดุล ผ่อนคลาย

นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ดังนั้นอาการเจ็บป่วยบางอย่างจึงทุเลาลงได้ จากนั้นก็มีการน้ำแนวคิดนี้มาใช้กับเด็ก ๆ ตัวน้อย ด้วยเชื่อกันว่า จะเป็นการกระตุ้นสมองของทารกตัวน้อย ให้มีพัฒนาการที่ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลวิจัยยืนยันด้วยว่า

ช่วงเวลาที่เด็กจะพัฒนาความเฉลียวฉลาดทางดนตรีได้มากสุดก็คือทันทีที่เด็กเกิดนั่นเอง

สมองบางส่วนที่ไม่ได้ถูกใช้ในการพัฒนาเซนส์ทางดนตรี อาจถูกเปลี่ยนไปใช้พัฒนาในด้านอื่น ๆ ดังนั้นยิ่งเด็กได้เรียนรู้ดนตรีเร็วเท่าไร เด็กก็จะยิ่งมีความสามารถในการเรียนมากขึ้น

นอกจากนี้ดนตรีสไตล์ต่าง ๆ สามารถส่งผลถึงพฤติกรรมของเด็กต่างกัน ดนตรีคลาสสิคเช่นของ Mozart / Bach หรือChopin มีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรคได้ ขณะที่เพลงมาร์ชปลุกใจสามารถเพิ่มอาการ hyperactivity ให้เด็กบางคนอีกด้วย

อันที่จริงแล้วเสียงดนตรีนั้นช่วยในเรื่องพัฒนาการของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือจนเมื่อแรกคลอดแล้ว

แต่เมื่อเขาคลอดออกมาได้สักระยะ เขาจะเริ่มค่อย ๆ มีพัฒนาการมากขึ้น ๆ ดังนั้นเพลงหรือเสียงดนตรีที่เหมาะสมสำหรับเขานั้นก็สมควรที่จะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับพัฒนาการของเขาด้วยค่ะ

โดยในช่วงสามเดือนแรกหลังคลอดนั้น เพลงหรือดนตรีที่มีจังหวะช้า ๆ สบาย ๆ นั้นดูจะเหมาะกับเขามากที่สุด

เพราะทารกในช่วงนี้เขามักจะต้องการความอบอุ่นและความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ สังเกตไหมค่ะว่าเด็กเล็ก ๆ นั้นผู้เฒ่าผู้แก่มักจะร้องเพลงเห่กล่อมที่มีท่วงทำนองค่อนข้างช้าสักหน่อย

ในช่วงสามเดือนต่อมา เด็ก ๆ จะเริ่มมีปฏิกิริยากับเสียงที่ได้ยินมากขึ้น

เช่นถ้าเขาชอบเสียงที่ได้ยินเขาอาจจะยิ่ม หรืออาจจะตีมือไปมาเพื่อแสดงออกถึงความพึงพอใจ ดังนั้นในช่วงนี้เพลงหรือเสียงดนตรีที่เหมาะกับเขาก็ควรจะมีจังหวะที่สนุกสนานมากขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ควรเป็นอะไรที่ซับซ้อนเกินไปนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจจะ "เยอะ" เกินไปสำหรับเขา

เมื่อเจ้าตัวน้อยก้าวเข้าสู่เดือนที่หกเป็นต้นไป เขาจะเริ่มจดจำสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ดี

และในช่วงนี้หนูน้อยทั้งหลายก็เริ่มจะหัดออกเสียงเป็นพยางค์สั้น ๆ ได้บ้างแล้ว ดังนั้นเพลงหรือดนตรีที่เหมาะกับหนูน้อยทั้งหลายควรจะมีท่วงทำนองที่สนุกสนานและมีคำง่าย ๆ ไม่ยากจนเกินไปนักรวมอยู่ด้วย เพราะจะเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ของเขาได้ดีค่ะ หรือคุณแม่อาจจะร้องเพลงง่าย ๆ ให้เด็ก ๆ ฟังบ่อย ๆ ก็ได้ค่ะ อย่างเพลงหนูมาลี มีลูกแมวเหมียวก็ได้ค่ะ สั้น ๆ ง่าย ๆ ร้องซ้ำบ่อย ๆ ให้เขาได้จดจำได้ง่าย ๆ ค่ะ

และเมื่อเจ้าตัวน้อยย่างเข้าสู่วัยหนึ่งขวบขึ้นไป คุณแม่สามารถให้เขาฟังเเพลงที่หลากหลายได้แล้วนะคะ

เพราะว่าจะช่วยกระตุ้นสมองและพัฒนาการของได้ดี แต่ก็ไม่แนะนำให้ใช้เพลงที่ซับซ้อนมากเกินไป อย่างพวกเพลงที่ดนตรีหนัก ๆ ทั้งหลายน่ะค่ะ แนะนำให้เลือกเอาจังหวะที่สนุกสนานนะค

ถึงแม้ว่าจะมีผลการวิจัยออกมาแล้วว่าดนตรีนั้นช่วยกระตุ้นให้เด็ก ๆ มีพัฒนาการที่ดี แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรให้เด็ก ๆ ฟังเพลงตลอดเวลานะคะ ควรจะกำหนดเป็นเวลา ๆ เพราะการปล่อยให้ลูกได้อยู่กับความเงียบเสียบ้าง เขาจะได้สามารถแยกแยะความแตกต่างของเสียงได้ค่ะ