การตั้งครรภ์นั้นถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับมนุษย์เราเลยทีเดียว เพราะถือเป็นการให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งชีวิตให้ลืมตามาดูบนโลกใบนี้
ว่าที่คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะเห่อลูกมาก ทำให้ช่วงที่ตั้งครรภ์ว่าที่คุณแม่บางคนแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากตั้งหน้าตั้งตาบำรุงสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่คุณทราบหรือไม่ค่ะ ว่าบางครั้งแม้ว่าเราจะทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพแค่ไหนก็ไม่อาจต้านทาน ศัตรูตัวร้ายอย่าง "ครรภ์เป็นพิษ" ได้ !!!
ครรภ์เป็นพิษ ว่าที่คุณแม่รู้จักหรือยัง ?
ครรภ์เป็นพิษหมายถึงการเกิดความดันโลหิตสูงหลังตั้งอายุครรภ์ได้ 20 สัปดาห์ขึ้นไป
จะพบว่าความดันโลหิตจะสูงทีการคั่งของน้ำ และเกลือทำให้บวมและตรวจพบไข่ขาวในปัสสาวะอาการมีทั้งเป็นน้อยจนกระทั่งในรายรุนแรงทำให้เกิดปัญหากับแม่ ซึ่งอาจจะเสียชีวิตได้
ส่วนสาเหตุของโรคนี้นั้น ยังไม่เป็นที่ทราบอย่างแน่ชัด แต่คาดกันว่าน่าจะเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
หรือฮอร์โมนต่อมไร้ท่อบางตัว เกิดจากกรรมพันธุ์ เพราะจะพบโรคนี้บ่อยใน การตั้งครรภ์แรก ตั้งครรภ์แฝด มีประวัติครอบครัวเคยเป็นโรคครรภ์เป็นพิษ หรืออาจจะเกิดเพราะคุณแม่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวาน โรคไต
ซึ่งเจ้าโรค "ครรภ์เป็นพิษ" นี้เป็นหนึ่งในโรคที่ว่าที่คุณพ่คุณแม่มือใหม่ทั้งหลายจำเป็นต้องทำความรู้จักให้ดี ๆ
เลยทีเดียว เพราะ โรคนี้เป็น สาเหตุที่สำคัญสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตในมารดา เพราะในบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจจะมีอาการชัก หมดสติ หรือมีเลือดออกในสมองได้ และจะส่งผลต่อไปยังทารกที่อยู่ในครรภ์ด้วย
และความน่ากลัวของโรคนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ อาการที่ไม่ปรากฏเด่นชัดนัก หากคุณแม่ไม่ได้อยู่ในขั้นรุงแรง
และยิ่งถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ดีจากสูติแพทย์ มีโอกาสเป็นไปได้มากว่าคุณแม่อาจจะตกอยู่ในภาวะ "ครรภ์เป็นพิษ" รุนแรงได้ แต่โดยมากแล้วหากคุณแม่มีอาการความดันโลหิตสูง มีอาการบวมที่หน้าหรือที่หลังเท้า และพบไข่ขาวในปัสสาวะล่ะก็เท่ากับคุณเริ่มมีอาการของ "ครรภ์เป็นพิษ" แล้วล่ะ
อย่างที่กล่าวในตอนต้นว่า ขณะนี้ยังไม่อาจหาสาเหตุที่แน่ชัดของโรคนี้ได้ ดังนั้นการป้องกันที่ดีก็คือ
คุณแม่ต้องมีการฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอ เพราะหากมีอาการผิดสังเกตุคุณหมอจะได้ทราบได้ และ ถ้ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น บวม ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว หรือจุกเสียด แน่นลิ้นปี่ ก็ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบหรือพบแพทย์ทันที
"ครรภ์เป็นพิษ" นั้นถือเป็นอีหนึ่งโรคที่คุณแม่ทั้งหลายต้องใส่ใจให้มาก ๆ นะคะ เพราะนอกจากจะทำอันตรายตัวคุณแล้ว ยังอาจจะทำอันตรายไปยังลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ของคุณได้ด้วยค่ะ