ย้อนอดีตเปิดปูม 10 ธันวาคม... วันพระราชทานรัฐธรรมนูญของไทย

ย้อนอดีตเปิดปูม 10 ธันวาคม... วันพระราชทานรัฐธรรมนูญของไทย


ตั้งแต่สมัยอดีตกาลมา ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือเป็นการปกครอง ที่พระมหากษัตริย์มีอำนาจเด็ดขาด ในการบริหารราชการแผ่นดิน

ไม่ว่าจะเป็นอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหารหรืออำนาจตุลาการ และจะเรียกกันง่าย ๆ ว่า เป็นการปกครองแบบกษัตริย์อยู่เหนือกฎหมาย คือเป็นทั้งผู้ออกกฎหมายบริหารบ้านเมือง และตัดสินคดีความด้วยพระองค์เอง ส่วนพวกขุนนาง ข้าราชการ เป็นเพียงกลไก ที่ปฏิบัติไปตามพระบรมราชโองการเท่านั้น และถึงแม้ว่าพระมหากษัตริย์ จะทรงมีอำนาจสมบูรณ์เด็ดขาด ในการบริหารปกครองบ้านเมือง แบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่ก็มิได้ทรงใช้อำนาจที่มีอยู่อย่างไม่ชอบธรรม เพราะพระองค์ทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรม


ในสมัยรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์ไทย หลายพระองค์ได้ทรงแสดงออกถึงการสนับสนุนการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย และได้ทรงสืบสานเจตนารมณ์มาตามลำดับ เริ่มตั้งแต่


รัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับองค์รัชทายาทว่า พระองค์จะไม่ทรงตั้งผู้ใดไว้ แต่โปรดเกล้าฯ ให้เหล่าบรรดาข้าราชการเสนาบดีตกลงกันว่า สมควรจะตั้งผู้ใดให้สืบราชสมบัติต่อไป น่าจะถือได้ว่า พระองค์ทรงมีพระราชดำริเป็นประชาธิปไตย ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ที่จะถูกปกครอง ได้มีโอกาสเลือกผู้ปกครองได้เอง


รัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้ทรงยอมรับอารยธรรมตะวันตก เพื่อปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ ให้เข้ากับสภาพบ้านเมือง โดยมีพระราชดำริ ที่เป็นประชาธิปไตย ที่ต้องการให้มีความเสมอภาค เพื่อไม่ให้เกิดความแตกต่าง และช่องว่างระหว่างชนชั้น ทรงโปรดฯ ให้ประชาชนเลือกนับถือศาสนาได้ตามใจชอบ และจัดให้ราษฎรมีการศึกษาโดยเท่าเทียมกัน


ย้อนอดีตเปิดปูม 10 ธันวาคม... วันพระราชทานรัฐธรรมนูญของไทย


รัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้ทรงสานต่อการวางรากฐานการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย ตามแนวพระราชดำริของพระราชบิดา โดยโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงเรียนให้ประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน และให้มีการตั้งทุนเล่าเรียนหลวงขึ้น นอกจากนี้ ทรงปรับปรุงแก้ไขการปกครองแผ่นดิน ทั้งเรื่องศาล ระบบบริหารราชการส่วนกลาง และทรงริเริ่ม ระบบการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น โดยโปรดให้จัดตั้งสุขาภิบาลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาครขึ้น เพื่อให้ราษฎรเลือกผู้ปกครองกันเอง นับเป็นการเริ่มต้นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย


รัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้โปรดให้จัดตั้ง ดุสิตธานี ซึ่งเป็นเมืองจำลองขึ้น เพื่อเป็นการทดลองการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย มีการตราธรรมนูญดุสิตธานีขึ้น ซึ่งมีลักษณะการปกครองโดยคณะนครภิบาล มีการตั้งพรรคการเมือง มีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็นเขตๆ มีสถานที่ทำการรัฐบาลถาวร มีการหาเสียงเลือกผู้แทนราษฎร ตามธรรมนูญดุสิตธานี ซึ่งก็คือรัฐธรรมนูญ และมีการออกหนังสือพิมพ์เพื่อให้สิทธิเสรีภาพ ในการติชมกิจการบ้านเมืองได้


จากนั้นในสมัยรัชกาลที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕

 
นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ในประวัติศาสตร์การปกครองของชาติไทย เนื่องจากได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ที่ใช้กันมาเป็นเวลา ๗๐๐ กว่าปี มาเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ภายใต้รัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เนื่องมาจาก


ย้อนอดีตเปิดปูม 10 ธันวาคม... วันพระราชทานรัฐธรรมนูญของไทย


๑ .พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงมีพระราชประสงค์ ที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นหลักในการปกครองประเทศให้แก่ประชาชนชาวไทย

๒.
หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ได้เกิดภาวะวิกฤทางเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ได้ทรงปลดข้าราชการออกเ พื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ข้าราชการ

๓.
อิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก เกี่ยวกับทางการเมือง ทำให้กลุ่มคนหนุ่มสาว ต้องการความเปลี่ยนแปลง

๔.
รัฐบาลได้มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับภาษี ได้แก่ ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดินจากราษฎร


จากสาเหตุดังกล่าว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

โดยการปฏิวัติ จากคณะผู้รักษาการพระนครฝ่ายทหาร ประกอบด้วยพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา พันเอกพระยาทรงสุรเดช และพันเอกพระยาฤทธิอาคเนย์ เป็นผู้บริหารประเทศ นอกจากนี้ ในวันที่ ๒๗
มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕  ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว หรือที่เรียกว่า พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว และสาระสำคัญของธรรมนูญการปกครองฉบับนี้ คือ การที่กำหนดว่าอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ หรืออำนาจอธิปไตยเป็นของราษฎรทั้งหลาย การใช้อำนาจสูงสุดก็ให้มีบุคคล คณะบุคคลเป็นผู้ใช้อำนาจแทนราษฎร ได้แก่ พระมหากษัตริย์ สภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมการราษฎร และศาล


ย้อนอดีตเปิดปูม 10 ธันวาคม... วันพระราชทานรัฐธรรมนูญของไทย


และถึงแม้ว่าประเทศไทย จะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มาเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ถือว่าพระมหากษัตริย์ ยังเป็นประมุขของประเทศ

เป็นสถาบันที่มีการสืบราชสมบัติ ต่อกันไปในราชวงศ์ ดังนั้น การปฏิบัติราชการต่างๆ จะต้องมีกรรมการราษฎรผู้หนึ่ง เป็นผู้ลงนามรับสนองพระราชโองการ โดยได้รับความยินยอม จากคณะกรรมการราษฎรจึงจะใช้ได้ และมีสถาบันที่เกิดใหม่ คือ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีอำนาจทางนิติบัญญัติ ในการออกกฎหมายต่าง ๆ เมื่อพระมหากษัตริย์ ลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้แล้ว จึงจะมีผลบังคับใช้ ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้ในระยะแรก ของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร จึงเป็นสถาบันที่มีอำนาจสูงสุด ในทางการเมือง ส่วนการใช้อำนาจตุลาการ ยังคงให้ศาลยุติธรรมที่มีอยู่แล้วพิจารณาพิพากษาคดี ให้เป็นไปตามกฎหมายได้ตามเดิม


ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรสยามฉบับถาวร

ทางราชการจึงได้กำหนดให้วันที่ ๑๐
ธันวาคมของทุกปี เป็นวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลักการที่ต่างกับฉบับแรก ในวาระสำคัญหลายประการ เช่น ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็น การปกครองแบบระบอบรัฐสภา เนื่องจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้บัญญัติให้พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นประมุข ไม่ต้องรับผิดชอบทางการเมือง เป็นผู้ใช้อำนาจทางคณะรัฐมนตรี ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งให้บริหารราชการแผ่นดิน


แต่ทั้งนี้คณะรัฐมนตรี จะต้องรับผิดชอบ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ต่อสภาผู้แทนราษฎร รัฐสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มิได้ใช้แต่เพียงอำนาจนิติบัญญัติเท่านั้น

แต่มีอำนาจที่จะควบคุมคณะรัฐมนตรี ในการบริหารราชการแผ่นดินด้วย อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีซึ่งประกอบกันเป็นรัฐบาล ก็มีอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรได้ หากเห็นว่ามีการดำเนินการที่จะเป็นภัย หรือเสื่อมเสียผลประโยชน์สำคัญของรัฐ ที่มีผลเท่ากับถอดถอนสมาชิกสภา ที่ได้รับเลือกตั้งมาเพื่อให้ราษฎรเลือกตั้งใหม่ ในส่วนที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์นั้น ได้บัญญัติไว้ว่า พระมหากษัตริย์ ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.
ศ. ๒๔๗๕ มาจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญนับเฉพาะ ฉบับที่สำคัญจะมี ๑๘ ฉบับ ได้แก่


ย้อนอดีตเปิดปูม 10 ธันวาคม... วันพระราชทานรัฐธรรมนูญของไทย

๑. รัฐธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยาม พุทธศักราช ๒๔๗๕ ประกาศใช้บังคับเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕

๒. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม
พุทธศักราช ๒๔๗๕ ประกาศใช้บังคับเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.
ศ. ๒๔๗๕

๓.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๔๘๕
ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที ๑๐  พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๙

๔.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช ๒๔๙๐ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.
ศ. ๒๔๙๐

๕.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๔๙๒ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๓
มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๒

๖. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๔๗๕ แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๙๕  ประกาศและบังคับใช้ วันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๕
 
๗. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๐๒ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๒
 
๘. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๑ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๑ 
 
๙. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๑๕ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ 

๑๐. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๗ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ 

๑๑. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๙ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ 
 
๑๒. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๒๐ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ.  ๒๕๒๐ 
 
๑๓. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๒๑ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๑
 
๑๔.  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๔ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๔
 
๑๕. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๔ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๙  ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๔
 
๑๖. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๑  ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๐  
 
๑๗.  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.  ๒๕๔๙ 
 
๑๘. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐


ย้อนอดีตเปิดปูม 10 ธันวาคม... วันพระราชทานรัฐธรรมนูญของไทย


 

ดังนั้น รัฐธรรมนูญจึงถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ

ที่จะเป็นเครื่องกำหนดระเบียบแบบแผนให้กับสังคม และเนื่องใน วันรัฐธรรมนูญ วันที่ ๑๐
ธันวาคม ที่จะถึงนี้ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวไทย ร่วมกันระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ที่ได้ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก ให้แก่ประชาชนชาวไทย ด้วยการสร้างความสมานฉันท์ ความรัก ความสามัคคี และความเป็นประชาธิปไตย ให้เกิดขึ้นแก่คนในชาติ


เพื่อร่วมกันฟันฝ่าปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

พร้อมทั้งปลูกฝังเรื่องประชาธิปไตย ให้แก่เด็กและเยาวชน ที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติต่อไป ดังพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงกล่าวไว้ว่า

"
ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจ อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอม ยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร"


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์