อย่าชะล่าใจ.. ฉลองปีใหม่ระวังลูกหาย

ใกล้เทศกาลวันหยุดยาว หลายครอบครัวเตรียมตัวเปลี่ยนบรรยากาศไปพักผ่อนต่างจังหวัด หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งปี

ทว่า..ช่วงเวลาที่มีการเดินทางอย่างคึกคักอย่างเทศกาลปีใหม่ สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ "ภัย" ร้ายต่างๆ จากมิจฉาชีพที่คอยจ้องจะแสวงหาผลประโยชน์จากผู้คน

เช่นเดียวกับ "ภัยเด็กหาย" ที่มูลนิธิกระจกเงา มีข้อมูลเตือนว่า ช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ หรือสงกรานต์ "เด็กและเยาวชน" ที่ถูกลักพาตัว มีจำนวนมากขึ้น

"จริงๆ แล้วช่วงที่เด็กหายมากที่สุด มักจะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่สำหรับเทศกาลปีใหม่ ก็ถือว่ามาก สาเหตุเนื่องจากว่า ช่วงเทศกาลจะมีการหลั่งไหลของผู้คนจำนวนมาก หลายบ้านหลายครอบครัววางแผนเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งกวดขันเรื่องของอุบัติเหตุ การตั้งด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ แก๊งมิจฉาชีพจึงสามารถปะปนไปกับรถและพาหนะต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลักพาตัวเพื่อขายแรงงาน เพื่อล่อลวงทางเพศ การค้ามนุษย์" เอกลักษณ์ หลุ่มชุมแข หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา อธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

มูลนิธิกระจกเงา ได้รวบรวมสถิติการรับแจ้งบุคคลสูญหายตลอดทั้งปี 2551 ว่า มีทั้งหมด 310 คน แบ่งเป็นชาย 87 คน หญิง 222 คน ช่วงอายุของบุคคลที่สูญหายมากที่สุด คือ ช่วงอายุ 11-15 ปี คือ 137 คน แบ่งเป็นชาย 30 คน หญิง 107 คน รองลงมาคือช่วง 16-18 ปี ทั้งหมด 73 คน แบ่งเป็นชาย 5 คน หญิง 68 คน ส่วนประเภทของการสูญหาย ถูกล่อลวงทางเพศมากที่สุดจำนวน 114 คน ซึ่งจำนวนนี้หัวหน้าศูนย์บอกด้วยว่า เป็นตัวเลขที่สูงกว่าปี 2550

"ถ้าให้เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ตัวเลขเด็กหายในปีนี้ค่อนข้างสูง โดยปี 2550 มีจำนวนคนหายทั้งหมด 214 คน เนื่องจากสภาพสังคมที่มีปัญหาสะสมมานาน เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ปัญหาการเมือง การแก้ไขจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม เมื่อปัญหาก่อตัวมากขึ้น ปี 2551 จึงเหมือนกับจุดระเบิด"

กระนั้น สิ่งที่เอกลักษณ์กังวล คือ สภาพสังคมในปี 2552 ซึ่งเขาคาดการณ์ว่าจะมีเด็กและเยาวชนถูกแก๊งมิจฉาชีพจับตัวไปมากกว่าเดิม

"ปี 2552 ที่จะถึงนี้ เพราะเศรษฐกิจจะย่ำแย่กว่านี้ คนจากภูมิภาคต่างๆ จะอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาหางานในกรุงเทพฯและตามหัวเมืองใหญ่ ขณะที่กระทรวงแรงงานได้มีการคาดการณ์ว่าปี 2552 จะมีจำนวนผู้ใช้แรงงานจำนวน 1-1.5 ล้านคนที่ตกงาน ซึ่งในจำนวนนี้มีแรงงานที่ไร้ฝีมืออยู่เป็นจำนวนมาก ทุกคนคงต้องเดินทางมาแออัดในกรุงเทพฯ ในส่วนของผู้ประกอบการก็มีมาตรการลดต้นทุนการผลิต จะเน้นการจ้างแรงงานที่ถูก ซึ่งตรงนี้จะก่อให้เกิดธุรกิจนายหน้าขายแรงงาน โดยเฉพาะเยาวชน เพื่อนำไปขายต่อ"

หัวหน้าศูนย์บอกต่อถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวว่า ในส่วนของระยะสั้นคือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจำเป็นต้องลดพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เช่น ร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านผับบาร์ ร้านคาราโอเกะ ให้เหลือน้อยที่สุด เพราะจากสถิติเยาวชนช่วงอายุ 11-15 ปี จะถูกลักพาตัวมากที่สุด เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างเด็กกับวัยรุ่น เด็กเริ่มออกจากครอบครัว มีเพื่อน เข้าสู่วัยอยากรู้อยากลอง สนใจเพศตรงข้าม และคิดว่าตัวเองโตแล้ว ได้เรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆ เมื่อมีใครเข้ามาคุยด้วย ก็คิดว่าไม่กลัว ส่วนการแก้ไขระยะยาว ต้องโฟกัสเน้นไปที่ครอบครัวต้องดูแลบุตรหลาน ปลูกฝังทักษะเรื่องการคุยกับคนแปลกหน้า ซึ่งปัจจุบันรูปลักษณ์ของมิจฉาชีพไม่ใช่ลักษณะน่ากลัว แต่เป็นคนธรรมดา แต่งตัวดี สะอาด ใช้ขนม เกมส์ มาล่อ เด็กจะสามารถตามกลุ่มมิจฉาชีพไปได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องใช้กำลังบังคับ ขณะที่ชุมชนก็ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาด้วย

ภัยเด็กหาย นับวันจะทวีปัญหามากขึ้น ทุกฝ่ายคงต้องช่วยกันสอดส่องดูแล เพื่อไม่ให้สมาชิกที่รักในครอบครัวต้องหายไปสู่กระบวนการค้ามนุษย์