เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวิตามินซี

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวิตามินซี


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวิตามินซี


อากาศเย็นๆ หนาวๆ ในช่วงนี้ ทำให้คนเป็นหวัดง่ายจนชีวิตไม่เป็นสุข เพราะไอ จาม มีน้ำมูกตลอดเวลา

เวลาเป็นไข้หวัด ผู้ป่วยมักจะนึกถึงวิตามินซีในรูปแบบของยาเม็ดสีเหลืองออกส้ม รสเปรี้ยว

ประโยชน์ของวิตามินซีไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาอาการของโรคหวัด รวมทั้งโรคลักปิดลักเปิด หรือเลือดออกตามไรฟันเท่านั้น

ความจริงแล้ว วิตามินซียังมีประโยชน์อีกมากหลายอย่างที่เราอาจจะยังไม่รู้มาก่อน

ในวารสาร "ไทยนครินทร์" ฉบับเดือนก.ย.-ธ.ค.2551 น.พ.ครรชิต อมาตยกุล ให้ความรู้ไว้ ว่า วิตามินซีถูกค้นพบมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ช่วยให้อาการโรคหวัดหายเร็วขึ้นถึง 21 เปอร์เซ็นต์ และยังมีคุณประโยชน์นอกเหนือจากนี้อีกมาก ดังนี้

- ช่วยปกป้องเซลล์ เสริมภูมิคุ้มกันสุขภาพและความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับเส้นเอ็นและคอลลาเจน

- ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เนื่องจากช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเองโดยการเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและต่อต้านการอักเสบ ส่งผลให้แผลหายเร็ว

- ช่วยให้เหงือกสุขภาพแข็งแรง โดยวิตามินซีจะไปช่วยรักษาเซลล์ที่ถูกทำลายและช่วยให้แผลที่เหงือกหายเร็ว

- ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานร่วมกับวิตามินอี โดยจะไปลดการเกาะของไขมันที่ผนังหลอดเลือด

- ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก สามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ แสงอุลตราไวโอเลต ที่กระตุ้นให้เกิดต้อกระจก

- ช่วยป้องกันไมเกรน เมื่อรับประทานร่วมกับ Pantothenic Acid จะช่วยร่างกายต่อสู้ความเครียดได้ดีขึ้น

- ช่วยลดความเครียดและยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนกรดอะมิโนให้กลายเป็นสารในสมอง ซึ่งมีความจำเป็นต่อสมองและหน้าที่ของระบบประสาท

- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของภูมิต้านทานโรค โดยเฉพาะประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาว

คุณหมอบอกว่า การรับประทานวิตามินซีในภาวะปกติ คือ 60 มิลลิกรัมต่อวัน คนที่มีความเครียดควรรับประทาน 500 มิลลิกรัมต่อวัน และไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับในปริมาณที่มากเกินไป เพราะวิตามินซีละลายน้ำได้ดี หากร่างกายไม่ได้ใช้จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ

แต่ก็มีข้อควรพึงระวังด้วยเหมือนกัน

คุณหมอครรชิตเตือนว่า การรับประทานวิตามินซีในปริมาณสูงๆ อาจมีผลต่อการดูดซับแร่ธาตุอื่นๆ เช่น Copper Selenium และผลการตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะได้

และอาจมีผลต่อความผิดพลาดของการตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะ นอกจากนี้ ยังทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี จึงอาจเกิดภาวะได้รับธาตุเหล็กเกิน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์