ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่ ใคร ๆ ก็รักลูก อยากให้ลูกได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุด ยิ่งนมผงสูตรใหม่ ๆ ที่เติมคุณค่าทางโภชนาการนั่นนี่ก็ยิ่งได้รับความนิยมมาก
ถึงขนาดมีการเติมสารอาหารบางชนิดเข้าไปสามเท่าสี่เท่าของที่จำเป็น เพราะผู้ผลิตบอกว่าจะช่วยให้ลูกน้อยพัฒนาเร็ว ฉลาด และอื่น ๆ อีกมากมาย
ผศ.พ.ญ.อรพรรณ โพชนุกูล กุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และผู้ช่วยเลขานุการ สมาคมโรคภูมิแพ้และวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า
การที่เด็กสัมผัสสารกระตุ้นชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไปและติดต่อกันเป็นเวลานานมีโอกาสเป็นภูมิแพ้สูงกว่าเด็กทั่วไป
สารกระตุ้นพวกนี้อาจมาจากอาหารที่มีสารบางชนิดในปริมาณมากเกินความจำเป็นที่รับประทานติดต่อกันนาน ๆ หรือสารอื่น ๆ ในสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำงานผิดปกติได้เช่นกัน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้สูงถึงร้อยละ 40 โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เด็กอายุ 1 - 10 ขวบเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง
เด็กกินหลากหลายครบ 5 หมู่ลดภูมิแพ้
คุณหมอแนะนำให้พ่อแม่ดูแลให้ลูกกินอาหารอย่างหลากหลาย ครบ 5 หมู่
ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและการเจริญเติบโตให้ลูกแล้ว ยังลดโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ที่มีสาเหตุมาจากอาหารอีกด้วย รวมทั้งควรสังเกตว่าลูกมีอาการผิดปกติเมื่อรับประทานอาหารบางชนิดในชีวิตประจำวันหรือไม่ หากสงสัยว่าลูกแพ้สารชนิดนั้นก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารชนิดนั้นเสีย
"อาการภูมิแพ้จากการได้รับสารอาหารชนิดหนึ่งชนิดใดมากเกินไปจะแตกต่างกันไปในเด็กแต่ละคน บางคนอาจมีผื่นแดงทั่วผิวหนัง บางคนอาจผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง บางคนออกอาการในระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ขณะที่บางคนออกอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม บางคนมีหลายอาการร่วมกัน นอกจากนี้ อาการภูมิแพ้จากอาหารแต่ละชนิดก็อาจแตกต่างกันไปอีกได้ พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการภูมิแพ้ของลูก เมื่อพบอาการที่น่าสงสัยควรจดรายการอาหารและปริมาณที่ให้ลูกรับประทานประจำเพื่อปรึกษาแพทย์" ผศ.พ.ญ.อรพรรณกล่าว
อ.กฤษฎี โพธิทัต 1 ใน 5 นักโภชนาการและนักกำหนดอาหารชั้นนำของไทย กล่าวว่า
ปัจจุบันคนไทยได้รับข้อมูลข่าวสารด้านโภชนาการมากมายจากสื่อหลากหลายรูปแบบ โดยไม่ทราบว่าควรหรือไม่ควรเชื่อข้อมูลใด ทำให้บางคนหลงทาง หันไปรับประทานอาหารที่เสริมคุณค่าสารอาหารบางอย่างตามที่มีการโฆษณาหรือเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อ เรียกว่า รับประทานอาหารตามกระแส สารประกอบที่มีการเพิ่มเติมในอาหารเหล่านั้นอาจมีประโยชน์ต่อร่างกายจริง แต่บางอย่างนั้นร่างกายจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อได้รับจากแหล่งธรรมชาติหรือในรูปของสารตั้งต้นเท่านั้น
"ปัจจุบันคนไทยเห่อซื้อผลิตภัณฑ์อาหารสูตรพิเศษต่าง ๆ ที่มีราคาแพงลิบลิ่วมารับประทานเสริมสุขภาพ เช่น กระแสความนิยมสารสกัดจากชาเขียว ตามด้วยเครื่องดื่มเสริมคอลลาเจน ผลิตภัณฑ์เสริมงาดำจำนวนมาก และล่าสุด คือนมผงสำหรับเด็กที่มีส่วนผสมของ DHA 3 - 4 เท่า เพราะพ่อแม่คิดว่าจะทำให้ลูกฉลาดกว่าเด็กคนอื่น ซึ่งผู้บริโภคจำนวนมากไม่เข้าใจว่าร่างกายจะดึงสารอาหารเหล่านั้นไปใช้ได้มากน้อยเพียงใด และมีคุณประโยชน์จริง ๆ กับลูกสักแค่ไหน
จริงอยู่ที่สารประกอบเหล่านั้นมักเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากได้รับในปริมาณที่เกินพอดีจะสิ้นเปลืองเงินทองโดยเปล่าประโยชน์เพราะ ร่างกายอาจนำมาใช้ได้ไม่หมดและอาจก่อให้เกิดโทษ ดังนั้น ผู้บริโภคควรปรับวิธีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารอย่างชาญฉลาดและคุ้มค่า โดยเลือกรับประทานอาหารที่ให้คุณค่าเพียงพอกับความต้องการของร่างกายแต่ราคาถูกกว่าได้ เพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่และไม่ก่อให้เกิดโทษกับเรา" อ.กฤษฎีกล่าว