กินซะเดี๋ยวไปไม่ถึง

โบราณท่านว่าเอาไว้ว่า "เข้าเมืองตาหลิวต้องหลิวตาตาม" ดังนั้นเวลาที่เราไปต่างบ้านต่างเมืองนั้นก็สมควรอย่างยิ่งที่จะทำตัวให้กลมกลืนกับคนท้องถิ่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาหารการกิน เพราะเป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายของเรา เวลาที่เรามีโอกาสได้ไปท่องต่างแดน การไปลองลิ้มชิมอาหารขึ้นชื่อในแบบต้นตำหรับนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลาย ๆ คนพลาดไม่ได้ เรื่องแบบนี้อย่ามองข้ามนะคะ เพราะของแบบนี้ หากไปถึงถิ่นแล้ว แต่เราดันไม่ลิ้มลองอาหารแบบบ้านเค้าเลยก็ดูจะกระไรอยู่ จริงมั้ยจ๊ะ

ไปเกาหลีทั้งที ไม่กิน กิมจิได้ไง

กิมจิเป็นอาหารเกาหลีประเภทผักดองที่อาศัยภูมิปัญญาก้นครัวของชาวเกาหลี ด้วยการหมักพริกสีแดงและผักต่างๆ โดยทั่วไปจะเป็นผักกาดขาว ชาวเกาหลีนิยมรับประทานกิมจิเกือบทุกมื้อ และยังนำไปปรุงเป็นส่วนประกอบอาหารอีกหลายอย่าง เช่น ข้าวต้ม ข้าวสวย ซุป ข้าวผัด สตู บะหมี่ จนถึงพิซซาและเบอร์เกอร์ ปัจจุบันกิมจิมีมากกว่า 187 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีรสเผ็ด เปรี้ยว และมีกลิ่นฉุน

ไปอินเดียทั้งที ไม่กินแกงกะหรี่ได้ไง

เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งเครื่องเทศ แถมยังเป็นประเทศต้นตำหรับของ "แกงกะหรี่" อีกต่างหาก ไหน ๆ ก็ทานแกงกะหรี่บ้านเรามาบ่อยแล้ว ไปอินเดียทั้งที ลองไปชิมดูสิว่า แกงกะหรี่บ้านเค้ากับแกงกะหรี่ของบ้านเราต่างกันยังไง แถมรู้หรือเปล่าว่า "แกงกะหรี่" น่ะช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งและโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วยนะ

ไปอิตาลีทั้งที ไม่กินพิซซ่าได้ไง

ว่ากันว่า พิซซ่า นั้นมีประวัติยาวนานกว่าพันปี โดยแรกเริ่มนั้นเป็นเพียงแค่ ขนมปังอบธรรมดา ต่อมาจึงมีการใส่มะเขือเทศ และสมุนไพรบางชนิดลงไปด้วย และในภายหลังก็มีการเพิ่มชีสลงไป ต่อมาเมื่อมีคนทำพิซซ่าเพื่อการค้ามากขึ้น พิซซ่าจึงถูกดัดแปลงมาจนถึงทุกวันนี้

ไปฝรั่งเศสทั้งที ไม่ดื่มไวน์ได้ไง

เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีมาหลายร้อยปีแล้ว มีการค้นพบโถโบราณบรรจุเมล็ดองุ่นไร่ซึ่งมีอายุนับเนื่องขึ้นไปกว่า 8,000 ปี ก่อนคริสตกาล

ทั้งนี้แม้ว่า ไวน์ จะเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์อยู่ด้วย แต่ถ้าดื่มในระดับที่พอดีก็จะให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะไวน์นั้นมีวิตามิน ช่วยบำรุงร่ายกายได้ แถมยังช่วยให้เจริญอาหารได้อีกด้วย