ร้อนแบบนี้ระวังเป็น ลมแดด

สงสัยด้วยภาวะโลกร้อนที่กำลังขยายวงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน เลยส่งผลให้อากาศในบ้านเราแปรปวนมากทีเดียว ก่อนหน้านี้บ้านเรายังหนาวจับใจ แต่ไม่ทันก็ร้อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น

ด้วยความที่จู่ ๆ อากาศก็เพิ่มสูงขึ้น จนไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่อากาศร้อน เลยอาจจะทำให้เกิดอาการ "ลมแดด" ได้ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักอาการ "ลมแดด" ว่าเป็นอย่างไรเพราะฉะนั้นวันนี้เราลองมาทำความรู้จักกันนะคะ

ลมแดด คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ เนื่องจากความร้อนที่มากเกินไปและเกิดการสูญเสียเหงื่อและสารน้ำไปอย่างมาก ซึ่งอาการเช่นนี้สามารถเกิดได้ทั้งกับนักกีฬาที่ออกกำลังกายเป็นเวลานาน ๆ รวมทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้แต่คนชราก็อาจจะเป็นได้เช่นกัน โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เดินทางมาพักผ่อนในประเทศเขตร้อนต่าง ๆ อาจจะเกิดอาการ "ลมแดด" ได้ เพราะไม่สามารถปรับร่างกายได้ทัน เนื่องจากอาจจะเจอแต่อากาศที่หนาวเย็นมาจนชินนั่นเอง

โดยอาการของลมแดดนั้นแบ่งได้เป็น 2 แบบใหญ่ ๆ นั่นก็คือ อาการเพลียแดด เกิดจากการที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นลมแดด เพราะยังสามารถควบคุมสติสัมปชัญญะอยู่ได้ แต่จะมีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลียมากและอาจเป็นติดต่อกันไปหลายวัน

ในขณะที่ อาการลมแดด นั้นจะมีอาการ มีการกระหายน้ำมาก ตัวร้อน หายใจสั้นและถี่ ปากคอแห้ง ต่อมาตัวจะร้อนจัดมีอาการเวียนศรีษะ ตาพร่า การเคลื่อนไหวและสติสัมปชัญญะควบคุมไม่ได้ และมีอาการคลื่นไส้อาเจียรด้วย

วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้พาผู้ป่วยไปในที่ร่ม หรือในห้องแอร์ หรือในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก จากนั้นให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเย็น ๆ จากนั้นจึงนำส่งโรงพยาบาลทันที

วิธีการป้องกันที่ดีคือ พยายามออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงอากาศร้อน ๆ สวมเสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี เมื่อจะออกจากบ้านเมื่อไหร่ก็ให้พกร่ม หรือทาครีมกันแดดด้วยทุกครั้ง นอกจากนี้ต้องดื่มน้ำที่สะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันด้วย โดยควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย ๆ วันละ 6 - 8 แก้วต่อวันทั้งเด็ก และผู้ใหญ่

เดี๋ยวนี้อากาศร้อนมากขึ้น เพราะฉะนั้นก็ต้องหมั่นดูแลตัวเองให้มาก ๆ นะคะ ยิ่งถ้าใครที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุอาศัยด้วยก็ต้องใส่ใจเป็นพิเศษด้วยค่ะ