
เป็นที่ทราบกันดีว่าการเลี้ยงลูกรักในช่วงประถมวัยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเด็กในวัยนี้มีกิจกรรมให้ทำมากกว่าเด็กทารกและเด็กก่อนวัยเรียนมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การบ้าน กีฬา รวมไปถึงกิจกรรมเสริมนอกหลักสูตรต่างๆ นอกจากนี้ เด็กในวัยซนนี้ก็ต่างไปจากลูกๆ ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น เพราะวัยนี้กำลังอยู่ในวัยแห่งการเรียนรู้สิ่งใหม่ และเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเอง รวมถึงต้องการทำอะไรด้วยตนเอง ดังนั้น จึงต้องการการดูแลและคำแนะนำสั่งสอนจากพ่อแม่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
สำหรับเด็กในวัยเรียนอายุระหว่าง 6-12 ปี ควรได้รับการปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดี ซึ่งจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตทั้งแก่ตัวเด็กเองและพ่อแม่ เพื่อให้พวกเขามีสุขภาพกายใจที่สมบูรณ์แข็งแรง ฉลาด สดใสสมวัย พ่อแม่ควรสนับสนุนให้เด็กวัยเรียนมี 7 อุปนิสัยที่ดี ดังนี้
1.รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์
พ่อแม่ควรพยายามกระตุ้นให้ลูกๆ รับประทานอาหารที่หลากหลายในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อกระตุ้นให้เด็กๆ เจริญอาหาร และให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนและสมดุล ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารไม่ครบมื้อ โดยเฉพาะการงดอาหารเช้า เพราะเป็นอาหารมื้อแรกของวัน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มพลังงานและสารอาหารให้แก่ร่างกาย และยังช่วยให้เด็กมีความสามารถในเรียนหนังสือได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ พ่อแม่ยังสามารถปลูกฝังนิสัยเลือกรับประทานเฉพาะอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ด้วยการควบคุมการรับประทานของหวานและอาหารทอด เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล ไขมันและโซเดียมสูง โดยแนะนำให้ลูกรักรู้จักรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ประเภทโฮลเกรน หรือธัญพืชเต็มเมล็ด อย่างเช่น อาหารเช้าซีเรียลที่ทำมาจากโฮลเกรน เพียงหนึ่งชามในตอนเช้าก็ช่วยเติมพลังงานและพร้อมเรียนรู้อย่างมีสมาธิ จากผลการศึกษาของเนสท์เล่ พบว่าการรับประทานโกโก้ ครั้นช์ โฮลเกรน ซีเรียล หนึ่งถ้วยผสมกับนม มีปริมาณน้ำตาลเท่ากับแอปเปิ้ลเพียง 1 ผล และน้อยกว่าขนมปังปิ้งทาแยม 2 แผ่น ซึ่งเป็นอาหารเช้าที่หลายคนชอบบริโภค
ส่วนปริมาณไขมัน โกโก้ ครั้นช์ โฮลเกรน ซีเรียล มีเพียงแค่ 6 กรัม ซึ่งน้อยกว่าการบริโภคข้าวผัด ไส้กรอก และไข่ดาว ที่มีปริมาณไขมันถึง 21.6 กรัม และมีไขมันต่ำกว่าการบริโภคก๋วยเตี๋ยว หรือเบคอน 3 ชิ้น หรือแม้แต่โดนัท 1 ชิ้น อีกทั้งยังมีปริมาณโซเดียมต่ำกว่าซาลาเปาหมูสับ
1 ลูก และขนมปังทาเนย 1 แผ่นอีกด้วย
ในแต่ละวันเด็กในวัยเรียนควรได้รับประทานผักผลไม้ประเภทต่าง ๆ รวมถึงโฮลเกรน หรือธัญพืชเต็มเมล็ด
ซึ่งผ่านการขัดสีน้อย เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นไฟโตนิว เตรียนท์ และใยอาหารต่างๆ อย่างครบถ้วน ซึ่งใยอาหารนี่เองที่จะช่วยป้องกันอาการท้องผูกและช่วยควบคุมน้ำหนักตัว พร้อมกันนั้น พ่อแม่ก็ควรอธิบายให้เด็กๆ เข้าใจถึงคุณค่าทางโภชนาการที่จะได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไป เพื่อให้ลูกรักสามารถเลือกซื้ออาหาร
ที่โรงเรียนได้อย่างชาญฉลาด
2.ดื่มน้ำเป็นประจำ
เด็กๆ มักจะลืมดื่มน้ำ ประกอบกับขนาดร่างกายที่ยังเล็กอยู่ทำให้เด็กๆ เกิดอาการขาดน้ำได้ง่าย ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย อิดโรย และท้องผูก ร่างกายของเด็กจำเป็นต้องได้รับน้ำเพื่อที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยร่างกายทำงานได้เป็นปกติ จำไว้ว่าควรให้เด็กจิบน้ำเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนชื้น และอย่ารอจนกระทั่งรู้สึกกระหายจึงดื่มน้ำ
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว