6 เหตุผลน่าประหลาดใจ ทำไมลดน้ำหนักไม่ได้สักที

6 เหตุผลน่าประหลาดใจ ทำไมลดน้ำหนักไม่ได้สักที


ทำตามสูตรก็แล้ว แต่น้ำหนักก็ยังเยอะอยู่


โดยเฉพาะไขมันหน้าท้องที่ดูเหมือนมันจะปวารณาตัวแล้วว่าจะอยู่เป็นเพื่อนตายเราไปถาวร...ถ้ากำลังเจอปัญหานี้อยู่ลองสังเกตดูดี ๆ สิว่าพฤติกรรมที่ไม่น่าจะมีอะไรต่อไปนี้เป็นที่มาของเพื่อนตาย (ที่เราไม่ต้องการอย่างว่ารึเปล่า)

ต้นเหตุที่ 1 : โทรทัศน์


ระวังการเอกเขนกสบายอยู่แต่บนโซฟา เพราะเราค้นเจอมาว่าคนที่ดูโทรทัศน์ระหว่าง 1 - 2 1/2 ชั่วโมงต่อวัน จำนวนถึง 93 ใน 100 คน ดูเหมือนว่าจะมีน้ำหนักเกินมาตรฐานกว่าคนที่ดูทีวีต่ำกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากเราไม่ค่อยจะเคลื่อนไหวตัวตอนดูโทรทัศน์นั่นเอง และยังพบด้วยว่าช่วงเวลานั้นอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือด รวมถึงระดับการเผาผลาญก็จะลดลงด้วย

ในคนรูปร่างปกติ ขณะดูทีวีระบบการเผาผลาญ หรือเมตาบอลิซึมจะทำงานต่ำมากเพียง 20 - 30 แคลอรีต่อชั่วโมง หมายความว่าถ้าเราจุ้มปุ๊กหน้าทีวี 5 ชั่วโมงทุกวัน น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น 0.45 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์ นี่ยังไม่นับแคลอรีจากขนมที่เราถือติดมือไว้ทุกครั้งเวลาอยู่ตรงนั้นอีกละ

Solution : ง่ายมาก ก็ดูเฉพาะรายการโทรทัศน์ที่ชอบ จบแล้วก็ปิด และขณะดูก็ไม่ควรทานขนม

6 เหตุผลน่าประหลาดใจ ทำไมลดน้ำหนักไม่ได้สักที


ต้นเหตุที่ 2 : ชีวิตแต่งงานมีควาสุข


การวิจัยที่มหาวิทยาลัยแห่งมิเนโซต้า พบว่าเรามักจะมีน้ำหนักเพิ่มเฉลี่ยประมาณ 2.5 กิโลกรัม ภายใน 2 ปีหลังจากแต่งงาน เหตุผลก็คือ คู่แต่งงานใหม่จะเลือกทานอาหารที่คล้ายคลึงกันมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงมักจะหันไปทานตามอย่างสามี

จากที่เมื่อโสด คุณอาจจะอดบางมื้อ หรือทานสลัดเป็นอาหารเย็น แต่เมื่อแต่งงานคุณมีแนวโน้มว่าจะเลือกชนิดอาหารน้อยลง แต่ทานปริมาณเยอะขึ้น อย่างนี้ก็แย่สิ !

Solution :

ควรจะจูจุ๊บสัญญากันว่าจะชวนกันทานอาหารที่เบาขึ้น ดีต่อสุขภาพมากขึ้น อย่างน้อยสัก 2 - 3 มื้อต่อสัปดาห์ เวลาว่างก็เกี่ยวก้อยกันไปออกกำลังกาย เพื่อควบคุมน้ำหนัก ซึ่งนอกจากรูปร่าง และสุขภาพที่เป็นผลดีแล้ว ยังมีการยืนยันว่า คู่แต่งงานที่ออกกำลังกายด้วยกันถึง 95% หย่าร้างกันน้อยกว่าที่แยกกันทำกิจกรรมเลยทีเดียว

6 เหตุผลน่าประหลาดใจ ทำไมลดน้ำหนักไม่ได้สักที


ต้นเหตุที่ 3 : ความเครียด 7 ชั่วโมงต่อวัน


คิดว่างานยุ่ง ๆ จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้นใช่ไหมคะ ผิดค่ะ ที่จริงความเครียดจะเพิ่มการสร้างฮอร์โมนในร่างกายชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งจะส่งสัญญาณให้ร่างกายรักษาน้ำหนักให้คงที่แถมยังฝากไขมันไว้ในช่องท้องมากขึ้นอีกด้วย (ไขมันหน้าท้องเป็นชนิดทีขจัดยากที่สุด และยังเกี่ยวพันไปถึงโรคเบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง และปัญหาสุขภาพอื่นๆ)

ถ้านี่ยังร้ายไม่พอ คอร์ติซอลยังทำให้คุณเจริญอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่หวาน มีไขมันสูง และเป็นศัตรูกับความผอมการปล่อยตัวเองให้เครียดจึงทำให้เราทานของว่างบ่อยเกินไป และทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

ต้นเหตุที่ 3 : ความเครียด 7 ชั่วโมงต่อวัน
คิดว่างานยุ่ง ๆ จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้นใช่ไหมคะ ผิดค่ะ ที่จริงความเครียดจะเพิ่มการสร้างฮอร์โมนในร่างกายชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งจะส่งสัญญาณให้ร่างกายรักษาน้ำหนักให้คงที่แถมยังฝากไขมันไว้ในช่องท้องมากขึ้นอีกด้วย (ไขมันหน้าท้องเป็นชนิดทีขจัดยากที่สุด และยังเกี่ยวพันไปถึงโรคเบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง และปัญหาสุขภาพอื่นๆ) ถ้านี่ยังร้ายไม่พอ คอร์ติซอลยังทำให้คุณเจริญอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่หวาน มีไขมันสูง และเป็นศัตรูกับความผอมการปล่อยตัวเองให้เครียดจึงทำให้เราทานของว่างบ่อยเกินไป และทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
Solution : อันดับแรกคือขจัดต้นตอความเครียด อย่าคิดว่าตัวเองทำทุกอย่างได้ ปล่อยๆ มันบ้าง เมื่อรู้สึกตึงๆ หลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความเครียด ก็ให้เวลาตัวเองเคลียร์สมอง เดินเล่นสัก 5 นาที จุดเทียนกลิ่นลาเวนเดอร์ วานิลลา หรือพักผ่อนทางใจแบบง่ายๆ โดยปิดตา หายใจเข้าลึกๆ จินตนาการถึงภาพวิวสวยๆ สัก 10 นาที ทำแบบนี้จะช่วยลดคอร์ติซอล ขจัดชนวนความอยากอาหาร โดยเฉพาะอะไรที่หวานๆ อย่างที่ชอบทานกันอยู่

Solution :

อันดับแรกคือขจัดต้นตอความเครียด อย่าคิดว่าตัวเองทำทุกอย่างได้ ปล่อยๆ มันบ้าง เมื่อรู้สึกตึงๆ หลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความเครียด ก็ให้เวลาตัวเองเคลียร์สมอง เดินเล่นสัก 5 นาที จุดเทียนกลิ่นลาเวนเดอร์ วานิลลา หรือพักผ่อนทางใจแบบง่าย ๆ

โดยปิดตา หายใจเข้าลึกๆ จินตนาการถึงภาพวิวสวยๆ สัก 10 นาที ทำแบบนี้จะช่วยลดคอร์ติซอล ขจัดชนวนความอยากอาหาร โดยเฉพาะอะไรที่หวานๆ อย่างที่ชอบทานกันอยู่

6 เหตุผลน่าประหลาดใจ ทำไมลดน้ำหนักไม่ได้สักที


ต้นเหตุที่ 4 : เที่ยวกับแฟน


คิดว่าตัวเองน่ะดีจะตาย เพราะดื่มเฉพาะวันที่ไปเที่ยวกับแฟนเท่านั้น แต่ถ้าคุณออกเที่ยวกันบ่อยเกินไป ไขมันก็มาพอกพูนที่รอบเอวอยู่ดีค่ะ แม้ว่าเราจะยังไม่เข้าใจกลไกที่แน่นอน แต่จากการวิจัยก็พบว่าคนที่ดื่มเกิน 4 แก้วต่อคราว แม้ว่าจะเที่ยวเพียงอาทิตย์ละ 1 ครั้ง จะมีไขมันหน้าท้องมากกว่าคนที่เที่ยวบ่อยแต่ดื่มปริมาณน้อยกว่า

Solution :

เพลาๆ การดื่มลงบ้าง ดีที่สุดคือแค่ 1 แก้วหรือน้อยกว่านั้น แต่ถ้าคุณต้องการดื่มมากกว่า 1 แก้ว ให้เลือกดื่มไวน์ ซึ่งมีรายงานหลายชิ้นสนับสนุนว่า คนที่ดื่มไวน์เสี่ยงจะมีหน้าท้องยื่นน้อยกว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทอื่น


6 เหตุผลน่าประหลาดใจ ทำไมลดน้ำหนักไม่ได้สักที


ต้นเหตุที่ 5 : ลมหนาว


ลมหนาวพัดมาทีนอกจากจะได้งัดเสื้อหนาวตัวเก่งมาใส่อวดกันแล้วสาว ๆ จำนวนมากจะมีความสุขกับการบริโภค ทำให้เราจะได้รับแคลอรีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1,000 1,500 แคลอรีต่อวันในช่วงนี้ ในทางตรงข้ามคนที่มักจะซึมเศร้าอยู่แล้วก็จะยิ่งใช้พลังงานน้อยลง เศร้า หงุดหงิดง่าย หรือรู้สึกเหนื่อยล้าตลอดฤดูเหมือนกัน

ซึ่งอธิบายได้ว่าเป็นเพราะช่วงกลางวันที่สั้นลงนำไปสู่การลดระดับของสารเซอโรโทนิน และโดพามินในสมอง เป็นเหตุให้รู้สึกเฉื่อยชา แต่กระตุ้นให้เราอยากทานอาหารจำพวกแป้ง หรือขนมหวาน

Solution :

เดินผึ่งแดดตอนช่วงกลางวันประมาณ 15 - 30 นาที จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นการออกกำลังกายก็จะช่วยให้กระฉับกระเฉงเช่นเดียวกันและยังช่วยเผาผลาญแคลอรีที่เพิ่มขึ้นมา แต่ถ้า 2 สัปดาห์ แล้วคุณยังรู้สึกหดหู่อยู่

อย่างนี้เรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่แล้วล่ะค่ะ ควรไปปรึกษาแพทย์ ท้ายที่สุดอย่าให้ลมหนาวล่อลวงถุงขนมเข้ามาในบ้านของคุณ ชิงซื้อผลไม้ ผัก หรือธัญพืชเข้ามาก่อนจะดีที่สุด

6 เหตุผลน่าประหลาดใจ ทำไมลดน้ำหนักไม่ได้สักที


ต้นเหตุที่ 6 : ไม่ยอมนอน


การวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก พบว่าหากนอนน้อยเกินไปจะส่งผลให้ระบบเมตาบอลิซึมแปรปรวน จึงง่ายสำหรับไขมันตัวร้ายที่จะดอดเข้ามายึดครองร่างกาย การอดนอนยังนำไปสู่สภาพที่ร่างกายไม่ได้ใช้น้ำตาลในเลือดอย่างสมควร

จึงทำให้เราเสี่ยงต่อโรคเบาหวานมากขึ้น และยังลดระดับของเลปติน (ฮอร์โมนซึ่งเป็นกุญแจสำคัญให้คุณรู้สึกอิ่ม) และไม่ใช่จะมีปัญหากับเฉพาะคนที่นอนไม่หลับ ปัญหานี้ยังเกิดขึ้นกับคนที่นอนน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อคืนด้วย

Solution :

อย่าอดนอน ผู้หญิงเราควรนอน 7 - 8 ชั่วโมงต่อคืน และหากกำลังประสบปัญหานี้อยู่ให้ลองตั้งเวลาตื่นเท่ากันทุกวัน และเข้านอนเร็วขึ้น 15 นาที ทุกๆ สัปดาห์ ร่างกายจะค่อยๆ ปรับตัวจนอยู่กับร่องกับรอยมากขึ้น

6 เหตุผลน่าประหลาดใจ ทำไมลดน้ำหนักไม่ได้สักที


ถ้าบ้านทำให้คุณอ้วน


เชื่อมั๊ย ! สิ่งแวดล้อมในบ้านก็ทำให้รอบเอวคุณขยายได้ ลองดูวิธีนี้ว่าจะช่วยคุณได้รึเปล่า


ปรับแสงไฟภายในบ้าน

งานวิจัยพบว่าคนอ้วนจะทานอาหารมากขึ้นในห้องที่มีแสงจ้ามากกว่าแสงสลัว เพราะแสงสว่างๆ ทำให้เรารู้สึกตื่นตัว จึงทำให้กินเร็วขึ้น และได้รับแคลอรีเพิ่มขึ้น

และในทางตรงกันข้ามคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักก็มีแนวโน้มที่จะกินอาหารมากขึ้นแม้จะอยู่ในแสงที่หรี่ลงเพราะลืมตัว ฉะนั้นปรับแสงไฟในบ้านให้พอดี ๆ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

เก็บอาหารให้ห่างสายตา

อาหารยิ่งอยู่ใกล้ ก็ดูเหมือนเราจะกินมันมากขึ้นเท่านั้น อาหารที่เก็บอยู่ในชั้นที่ต่ำกว่าในตู้เก็บของจะถูกกินบ่อยกว่าอาหารบนชั้นสูงๆ และระหว่างอาหารจานเดียวกับการทำกับข้าวทานด้วยกันก็ดูเหมือนว่าอย่างหลังจะทำให้เราเติมข้าวมากกว่า 1 จาน

ปิดวิทยุ

เราจะรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยขึ้นถ้าฟังดนตรี และนั่งที่โต๊ะอาหารนานขึ้น โทรทัศน์ก็ให้ผลแบบเดียวกัน


สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์