เรื่องรักๆใคร่ๆ
เรื่องรักๆใคร่ๆ
เมื่อเรารักใครสักคน เราจะมองเห็นแต่อิฐก้อนสวยๆ เป็นกำแพงคู่ชีวิตของเรา
เพราะเราอยากเห็นแค่นั้น เราจึงเห็นแค่นั้น เราไม่ยอมรับความเป็นจริง
ต่อมาเมื่อเราไปหาทนายความเพื่อดำเนินเรื่องหย่าร้าง เราก็จะเห็นแต่ก้อนอิฐ
น่าเกลียดๆในกำแพงคู่ชีวิตของเรา เรามืดบอดต่อความดีใดๆทั้งสิ้น เราไม่ต้องการ
ที่จะเห็นมัน เป็นการไม่ยอมรับความจริงอีกครั้ง
ทำไมความรู้สึกรักๆใคร่ๆ มักจะเกิดขึ้นในไนท์คลับที่มืดสลัว หรือระหว่างอาหารค่ำ
ที่ได้นั่งอิงแอบกันกลางแสงเทียน หรือในค่ำคืนกลางแสงจันทร์? นั่นก็เพราะว่าในสถานการณ์
และบรรยากาศเช่นนั้น เราจะมองไม่เห็นสิวบนใบหน้าของเธอ หรือเห็นฟันปลอมของเขา
คนนั้น ท่ามกลางความสลัวของแสงเทียน จินตนาการของเราจะไร้ขอบเขต จนฝันเห็น
ว่า หญิงที่นั่งตรงข้ามนั้นงามราวกับนางแบบแนวหน้า หรือหนุ่มคนนี้รูปงามราวกับดารา
ภาพยนตร์ คนเรารักที่จะเพ้อฝัน และเราก็มักจะเพ้อฝันถึงความรัก อย่างน้อยเราก็ควร
รู้ตัวนะว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
พระไม่ใช่ผู้ที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องรักๆใคร่ๆ กลางแสงเทียน
แต่เป็นผู้ที่จะส่องแสงสว่างแห่งความเป็นจริงให้ปรากฏ ถ้าโยมต้องการที่จะฝัน
โยมก็ยังไม่ต้องเข้าวัดหรอก ในปีแรกที่อาตมาบวชเป็นพระที่ภาคอีสานของไทย
อาตมากำลังนั่งอยู่ในตอนหลังของรถคันหนึ่งกับพระฝรั่งอีกสององค์ หลวงพ่อชา
ท่านอาจารย์ของอาตมานั่งที่เบาะหน้า จู่ๆหลวงพ่อก็หันหน้ามาข้างหลังและจ้องดู
พระหนุ่มชาวอเมริกันซึ่งเพิ่งบวชใหม่ๆ ที่นั่งอยู่ข้างอาตมา แล้วท่านก็พูดอะไรบางอย่าง
เป็นภาษาไทย พระฝรั่งองค์ที่สามที่นั่งอยู่ในรถ พูดภาษาไทยได้คล่อง ท่านจึงแปล
ให้เราฟัง...."หลวงพ่อบอกว่า คุณกำลังคิดถึงแฟนของคุณที่อยู่แอลเอนู่น"
พระบวชใหม่ชาวอเมริกัน ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความงงงัน...
หลวงพ่อรู้วาระจิตของท่าน รู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่ แถมยังแม่นยำเสียด้วย
หลวงพ่อยิ้มแล้วพูดต่อว่า...."ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้จัดการได้ ให้เขียนจดหมายไปหาเธอ
ขอให้เธอส่งของส่วนตัวบางอย่างมาให้คุณ เอาสิ่งที่ใกล้ชิดกับตัวเธอมากที่สุด
ที่คุณจะสามารถเอาออกมาชื่นชมได้ เมื่อคุณคิดถึงเธอ เพื่อจะเตือนคุณให้ระลึกถึงเธอ"
พระบวชใหม่ถามด้วยความประหลาดใจว่า..."โอ้! พระเราทำได้หรือครับ"
หลวงพ่อตอบว่า..."ทำได้"
เห็นทีพระท่านก็เข้าอกเข้าใจในเรื่องรักๆใคร่ๆกระมัง...สิ่งที่หลวงพ่อกล่าวต่อไปนั้น
ต้องใช้เวลาอยู่หลายนาที กว่าจะแปลออกมาได้ ล่ามของเราถึงกลับต้องกลั้นหัวเราะ
ให้อยู่และรวบรวมสมาธิเสียก่อน
"หลวงพ่อบอกว่า........................." ท่านพยายามที่จะเอ่ยคำออกมา ปาดน้ำตาที่เล็ด
จากการหัวเราะทิ้ง..."หลวงพ่อบอกว่า คุณควรจะขอให้เธอส่งขี้ใส่ขวดมาให้ แล้วเมื่อไหร่
ที่คุณคิดถึงเธอ คุณจะได้หยิบขวดขี้ของเธอมาสูดดม!"
นี่ไงหล่ะ ของเฉพาะตัวของเธอ เมื่อเราเปล่งวาจาว่าเรารักคู่ชีวิตของเรา
เรามิได้หมายความว่า เรารักทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเขาหรอกหรือ? คำแนะนำอย่างเดียวกันนี้
สามารถใช้ได้กับแม่ชีที่กำลังถวิลหาแฟนหนุ่มของเธอ
อย่างที่อาตมาบอกแล้ว ถ้าโยมยังพอใจจะเพ้อฝันถึงเรื่องรักๆใคร่ๆ โยมก็อยู่ห่างๆวัด
ของเราไปก่อนเถอะ...
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
(ธรรมะบันเทิงหลายเรื่องเล่า โดยพระอาจารย์พรหม)