คนไทยหันพึ่ง 'หมอดู'
เที่ยงคืนกว่าริมถนนย่านรามคำแหง ชายหนุ่มแต่งตัวภูมิฐานพินิจ ไพ่ยิปซีในมือส่องดูกับแสงเทียน หญิงวัยกลางคนนั่งตรงข้ามจดจ่อรอการไขความลับจากไพ่ แล้ว คำตอบก็ทำให้เธอยิ้มแก้มปริ ต่างจากหญิงวัยทำงานอีกคนที่เจอ เมื่อต้นปี ใบหน้าบอกบุญไม่รับ ร่างกายซูบผอม เมื่อแม่หมอเปิดไพ่บอกถึงดวงเคราะห์ เธอร้องไห้อย่างไม่อายคนที่เดินขวักไขว่และเราซึ่งนั่งรอเป็นคิวต่อไป
ภาวะที่คนในสังคมถูกบีบ รัดจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ- คนว่างงาน-ค่าครองชีพสูง-เกมแย่งชิงอำนาจการเมือง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นอีกตัวกระตุ้นให้ประชาชนหันมาพึ่งพาหมอดู โดย ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ เล่าถึงสถานการณ์ว่า ตอนนี้มีคนมาดูดวงเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อนมาก เรื่องที่ให้ทำนายมากสุดอันดับ 1 คือ งาน ว่าปีนี้จะมีงานหรือไม่ เงินเดือนน้อยหรือมากไม่สำคัญขอให้มีงานก็พอ 2.เงิน ว่ามีเพียงพอต่อการใช้หรือไม่ 3.ความรัก คู่ครองและการแต่งงาน 4.สุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว 5.อื่น ๆ
ความนิยมการดูดวงยังชี้วัดได้จากสมาชิกที่เข้ามาสมัคร ในสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ เพียงครึ่งปีมีผู้สมัครใหม่กว่า พันคน ซึ่งเป็นเพราะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทำให้ประชาชนสนใจดวงชะตาเพื่อประกอบการตัดสินใจมากขึ้น ขณะเดียวกันภาวะเช่นนี้โหรเองต้องยึดหลักจรรยาบรรณ เพราะการทำนายบางครั้งอาจทำให้ผู้ดูทุกข์ยิ่งกว่าเดิมได้
“ตอนนี้มีเด็กนักเรียนและนักศึกษาเข้ามาดูดวงมากขึ้น ผู้ทำนายควรใช้วิจารณญาณในการพูด เพราะเด็กบางคนไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ ขณะเดียวกันการดูดวงผ่านมือถือหรือเอสเอ็มเอสไม่ควรชี้นำมากเกินไป เนื่องจากผู้ทำนายไม่ได้เห็นหน้าผู้ที่โทรฯเข้ามาทำให้ไม่รับรู้ถึงสีหน้าและปฏิกิริยาของผู้ดูดวง”
ภิญโญ ยังแนะนำถึงการสังเกตหมอดูที่หลอกลวงว่า มักเรี่ยไรเงินมากกว่าที่ตกลง โดยอ้างเก็บเงินเพิ่มเพื่อสะเดาะเคราะห์ เมื่อประชาชนเจอเหตุการณ์เช่นนี้ควรเลิกดูกับหมอคนดังกล่าวทันที สำหรับราคามาตรฐานการดูดวงทั่วไปไม่ควรเกิน 500 บาท
เช่นเดียวกับ “ทิพย์รดา พยากรณ์” ซึ่งเปิดรับดูดวงมา 5 ปี ในย่านท่าพระจันทร์ แหล่งดูหมอเลื่องชื่อ ที่มีนักศึกษาและคนทำงานแวะเวียนมาดูดวงเพิ่มขึ้นเช่น วันธรรมดา 2-4 คน ส่วนวันเสาร์, อาทิตย์ ไม่ต่ำกว่า 5- 10 คน ขณะเดียวกันคำถามยอดฮิตคือ 1.เทอมนี้จะสอบผ่านหรือไม่ 2.ด้านการเงิน 3.เมื่อเรียนจบแล้วควรทำงานอะไร 4.อนาคตจะมีคู่ครองหรือไม่
“คนส่วนใหญ่พอมีเรื่องทุกข์มักนึกถึงหมอดู ผิดจากคนที่มีความสุขมักไม่ค่อยมาให้เจอ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ได้อย่างดีว่า อาชีพหมอดูไม่มีวันหายไป จากโลกนี้ ขณะเดียวกันตอนนี้มี หมอดูศาสตร์ใหม่ ๆ ขึ้นมาทำให้ประชาชนพอดูจากในทีวีแล้วก็มาเดินหาที่ท่าพระจันทร์ ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องดีหากศาสตร์ที่ ดูนั้นแม่นจริง ๆ”
“ทิพย์รดา พยากรณ์” เล่าว่า ตอนนี้มีหมอดูปลอมเยอะมาก ประชาชนเองไม่ควรหลงเชื่อผู้ที่เรียกเก็บเงินเพิ่มจากที่ ตกลงไว้ตอนแรก ซึ่งมาตรฐานการดูดวงในละแวกนี้อยู่ที่ครั้งละ 200-500 บาท
จากการเดินสำรวจบริเวณท่าพระจันทร์ในช่วงบ่ายของวันปกติพบว่า มีเด็กนักเรียนระดับมัธยมจนถึงมหา’ลัย และคนวัย ทำงานเข้ามาดูดวงชะตาไม่ขาด สาย ต่างจากซุ้มหมอดูในวัดราชนัดดา ที่เงียบเหงา แม้ประสบการณ์ดูดวงกว่า 30 ปี ของ สมพงษ์ วินวรนาท ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นครูก็ตาม
สมพงษ์ ยอมรับว่า ทำเลการตั้งโต๊ะดูดวงชะตาจำเป็นอย่างมาก แต่ด้วยอายุมากขึ้นจึงไม่อยากย้ายที่ทางไปไหนต่อไหนเหมือนสมัยหนุ่ม ๆ ซึ่งเคยตรวจดวงชะตาไม่ต่ำกว่าสิบรายต่อวัน ขณะที่ปัจจุบันกว่าจะได้วันละ 5 คนก็แสนลำบาก เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมวัดและตรวจดวงชะตา
“ตอนนี้คนตกงานก็แห่กันมาเรียนโหราศาสตร์เพื่อเอาไปประกอบอาชีพ มีตั้งแต่พวกจบปริญญาโท ไปจนถึงหมอนวดแผนโบราณที่ไม่มีหนทางหากินมาเรียนกันมากขึ้น ซึ่งหลักการของหมอดูคือ ต้องช่วยคนอื่น ไม่ใช่ตัดสินคนอื่น”
สำหรับการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ควรดูดวงกับหมอดูที่มีสถานที่อยู่ชัดเจน ไม่ใช่เร่ร่อนไปเรื่อย ๆ ผู้หญิงเองควรพาเพื่อนไปด้วยเพราะบางสถานที่หากเจอพวกแอบอ้างอาจเป็นอันตรายได้
ด้าน นเรศ ชายวัยกลางคน นักศึกษาปริญญาโทและ พนักงานบริษัทเอกชน ผู้ชื่นชอบในการดูดวงเล่าว่า ส่วนใหญ่มา ดูเรื่องการเรียน ครอบครัว งาน และการเงิน เนื่องจากตอนนี้มีสภาวะการแข่งขันสูง การดูดวงเหมือนศาสตร์อย่างหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจ คนอาจมองเป็นเรื่องงมงายแต่ตนมองว่าเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน เช่นอดีต การออกรบยังต้องให้โหรดูช่วงเวลาที่เหมาะสม
“เรามาดูดวงปีละไม่ ต่ำกว่า 5 ครั้ง โดยต้องดูหลาย ๆ หมอประกอบการตัดสินใจ หากหมอหลายคนบอกตรงกันสามารถตัดสินใจ ได้ทันที โหราศาสตร์เคยมี ตำราฝรั่งเศสเขียนไว้ว่า เสมือนศาสตร์สถิติมีโอกาสถูก 70% ขณะเดียวกันก็เหมือนการหาที่พึ่งทางใจ เพราะในเวลาเดือดร้อนมนุษย์ต้องการใครสักคน เพื่อพูดคุย หากเป็นฝรั่งเขาจะไปปรึกษาจิตแพทย์ แต่ในไทยหากใครไปหาจิตแพทย์มักถูกมองว่าบ้า สิ่งเหล่านี้ทำให้คนหันมาหาหมอดูมากขึ้น”
จากประสบการณ์ของนเรศ ที่ตระเวนให้หมอดูดวงจะเลือกหมอที่ไม่เรียกเงินแพง เพราะหากคนมีครูจริงจะไม่ร้องขอเงินเป็นหมื่น ซึ่งหากประชาชนเจอพวกแบบนี้อย่าไปหลงเชื่อ และการดูดวงที่ดีคนไปดูต้องมีสติในการพิจารณาตัวเองด้วย
ส่วน ปิยวัตร ผ่องสกุล นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องดูดวงเดือนละครั้งว่า เพื่อช่วยในการตัดสินใจและสร้างกำลังใจ เรื่องที่มาดูส่วนใหญ่คือ ความรัก การงาน สุขภาพ โดยจะดูดวงผ่านไพ่ยิปซี บางครั้งหมอบอกมีเคราะห์ก็ต้องเสียเงิน เพื่อให้เกิดความสบายใจ แต่หมอบางคนพอแก้แล้วไม่ได้ผลก็ไม่ไปหาอีก
“จะดูเรื่องอนาคตว่า จบไปแล้วทำงานอะไรซึ่งหากอยากได้งานที่ต้องการก็ต้องปรับเปลี่ยนโหงวเฮ้งเช่น ตัดผมทรงใหม่”
ขณะที่ จีรวรรณ นาคแสง อดีตอาจารย์ในโรงเรียนพาณิชยการ ปัจจุบันประกอบอาชีพอิสระ เป็นอีกผู้หนึ่งซึ่ง ชื่นชอบการดูดวงมองว่า เด็กรุ่นใหม่หันมาดูดวงมากขึ้น เนื่องจากสังคมส่วนใหญ่อยู่กันแบบครอบครัวเดี่ยว ทำให้เด็กไม่รู้จะปรึกษาใคร ซึ่งหากปรึกษาพ่อแม่ก็กลัวถูกลงโทษ แต่หากปรึกษาเพื่อนก็อาจถูกล้อเลียน จึงทำให้หันมาปรึกษาหมอดูมากขึ้น
ดังนั้น จากสภาวะที่ประชาชนเกิดความทุกข์ คนในครอบครัวเองก็เป็นอีกกำลังสำคัญเพื่อช่วยให้ฝ่าผ่านวิกฤติไปได้.
ดวงชะตา 12 ราศี ครึ่งปีหลังอาชีพไหนรุ่ง?
ราศีเมษ เกิด 13 เม.ย.-14 พ.ค. ทำงานเพื่อสร้างตนเอง ทำงานหลายแขนง งานการ ออกแบบ ขีดเขียน ศิลปะ เป็นนักต่อสู้แข่งขัน ตำรวจ ทหาร พนักงานต่อสู้ป้องกันสาธารณภัย งานวิ่งเต้นติดต่อ
ราศีพฤษภ เกิด 15 พ.ค.-14 มิ.ย. นักการเงินการธนาคารและศิลปิน เจ้าหน้าที่นำเที่ยว เจ้าหน้าที่สายการบิน เจ้าหน้าที่รับรอง นักร้อง นักพูด นักหนังสือพิมพ์ ทนายความ นักธุรกิจ นักการเงิน
ราศีมิถุน เกิด 15 มิ.ย.-15 ก.ค. อาชีพที่ต้องคิดอ่าน ต้องใช้การพูดการเกลี้ยกล่อมชักจูงใจ ตัวแทน นายหน้า เลขานุการ นักกฎหมายและงานบริการอื่น ๆ เป็นลูกจ้างจะเป็นผู้จงรักภักดี รักษาผลประโยชน์ให้แก่นายจ้างได้ดี
ราศีกรกฎ เกิด 16 ก.ค.-16 ส.ค. งานบริการ งานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน งานที่มีความรอบคอบและพิถีพิถัน ชอบงานบำเพ็ญประโยชน์งานช่วยเหลือประชาชนและงานด้านการสังคมสงเคราะห์
ราศีสิงห์ เกิด 17 ส.ค.-16 ก.ย. รับราชการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ งานประสานงาน เป็นผู้นำ ชอบความเป็นหนึ่ง คิดทำอะไรใหญ่ ๆ เสมอ งานสมาคมกับคนทั่วไป ความคิดวางแผนงานที่แยบยลจึงได้ดำรงตำแหน่งหน้าที่การงานที่สำคัญ
ราศีกันย์ เกิด 17 ก.ย.-16 ต.ค. ทำงานแบบเดิม ๆ งานด้านการรับใช้ งานบริการ การวิเคราะห์วิจัยวิพากษ์วิจารณ์ ศิลปะและวรรณกรรมที่ละเอียดอ่อนประณีต ถือว่ามีความสามารถและความน่าเชื่อถือมากที่สุด หากทำงานด้านศิลปะจะมีความประณีตมาก
ราศีตุลย์ เกิด 17 ต.ค.-15 พ.ย. งานด้านกฎหมายยุติธรรม งานศิลปะ ความสวยสดงดงามและดนตรี ด้านภาษา การติดต่อประสานงาน การโต้ตอบ การแสดงความคิดเห็น งานความประณีตพิถีพิถัน งานการบริหาร การประสานงาน
ราศีพิจิก เกิด 16 พ.ย.-15 ธ.ค. งานต่อสู้ผจญภัย งานอาสา การประดิษฐ์คิดค้น งานเรื่องทางเพศ งานศาสตร์ลี้ลับศาสนาและปรัชญา เป็นนายจ้างที่ดี เป็นลูกจ้างที่ดี งานแบบใช้สมอง แสดงความคิดเห็น มากกว่าการออกแรง
ราศีธนู เกิด 16 ธ.ค.-14 ม.ค. งานการศึกษา ต้องใช้จินตนาการ งานวางแผน งานใช้สมองด้านปรัชญา งานการศาสนา งานการเดินทาง ศาสตร์ลี้ลับ ขายอาหารรสนิยมต่างชาติ ทำการติดต่อเจรจาทางธุรกิจในสถานที่ต่าง ๆ งานพูดจาปราศรัย
ราศีมังกร เกิด 15 ม.ค.-12 ก.พ. งานการศึกษา งานวางแผนทางเศรษฐกิจ งานสร้างสรรค์ การจัดการ นักลงทุน การบริหาร การปกครอง นักบุกเบิก เป็นคนมีฝีมือในการเป็นนักปฏิบัติงานที่ดี ทำงานชนิดช้า ๆ แต่หนักแน่น
ราศีกุมภ์ เกิด 13 ก.พ.-14 มี.ค. นักค้นคว้า นักสังคมสงเคราะห์ งานช่วยเหลือผู้อื่น งานทางด้านจิตวิญญาณศาสตร์ลี้ลับ งานด้านศิลปวัฒนธรรม งานประดิษฐ์คิดค้นริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ งานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี งานที่ต้องรับผิดชอบอย่างกว้างขวางในด้านสาธารณะ
ราศีมีน เกิด 15 มี.ค.-12 เม.ย. ครูบาอาจารย์ นักกฎหมาย ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกวีนิพนธ์ ดนตรี งานติดต่อช่วยเหลืองานด้านบริการ หรือกิจกรรมงานอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันได้ดี หากทำกิจการใดก็สามารถประสบความสำเร็จได้.
ทำนายโดย... ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ
ศราวุธ ดีหมื่นไวย์/ภูริตา โฉมศรี
สังคมไม่แน่นอน...ขอตัวช่วยตัดสินใจ
ภาพประกอบอินเตอร์เน็ต