ขอเตือน!! ใครจะ เช่าบ้าน ฟังไว้

ฮั่นแน่ ถามไปงั้นแหละ ส่วนจะเช่าหรือไม่เช่าก็ขึ้นอยู่กับ ความจำเป็นของแต่ละคน เพราะการเช่าบ้านเป็นปรากฏการณ์ ที่เห็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ส่วนใหญ่ผู้เช่ามักไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง

จึงวิ่งโร่หาเช่ากันจ้าละหวั่น แต่อย่าวิ่งจนล้มลุกคลุกคลานนะ... มันหวาดเสียวน่ะสิ คนยังไม่มีเงินถุงเงินถังมากพอ ที่จะซื้อบ้านเป็นของตนเองก็งี้แหละ

จึงแก้ปัญหาด้วยการหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่บ้านเช่า ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่ทำงานซะเลย ขืนเดินทางไปๆมาๆระหว่างบ้านจริง กับที่ทำงานก็เปลืองค่าน้ำมันและค่ารถตายเลย ยิ่งตอนนี้น้ำมันแพงๆอยู่ด้วย

แถมการจราจรก็ติดได้ติดดี ติดทุกวี่ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด หรือวันทำงานก็ต้องหาทางออกแบบนี้ไปก่อนใช่ป่าว

แต่ที่แท้ยังเช่าบ้านเค้าอยู่ก็มี สงสัยคงชอบมีหน้ามีตาในสังคมมากกว่ามีบ้านเป็นของตัวเองแฮะ

เอ้า มาเล่าสู่กันฟังเรื่อง การเช่าบ้าน ละกัน อย่าลืมสิว่า

ค่าเช่าบ้านเป็นส่วนหนึ่งของรายจ่ายที่ต้องคำนวณให้ดีก่อนตัดสินใจ ถ้าไม่จัดสรรเงินค่าเช่าให้ดีๆมีหวังกระเป๋าฉีกไม่รู้ด้วย

1. ควรทราบก่อนว่าบริเวณที่จะไปเช่าน่ะ

อยู่แถวไหน และช่วยให้คุณสัญจรไปมาสะดวกหรือไม่ เช่น ถ้าทำงานแถวสุขุมวิท ก็หาเช่าแถวสุขุมวิทนั่นแหละ อย่าถ่อไปเช่าแถวฝั่งธนฯ คิดให้รอบคอบซะก่อนนะ

ไม่แน่นะในย่านเดียวกันอาจมีอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดฯอีกเยอะแยะให้เลือกก็ได้ เดินสำรวจก่อนอย่าเพิ่งใจร้อน

สมมติได้เงินเดือน 1 หมื่น ก็ไม่น่าจะเสียค่าเช่าเกิน 3-4 พัน ขืนจ่ายค่าเช่ามากกว่านี้ คงได้กินข้าวคลุกน้ำปลาแหงๆเลยวุ้ย

ก็ต้องทำสัญญาเช่าใช่มะ อย่าลืมขอสำเนาของสัญญาเช่ามาอ่านด้วยล่ะ ส่วนอยากจะเช่าเป็นเดือนหรือทั้งปีก็ว่ากันไป

จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ แต่ถ้ามีสิ่งใดชำรุดควรรีบแจ้งเจ้าของ จะได้ไม่มั่วนิ่มทีหลังว่า เราทำเฟอร์นิเจอร์ เค้าพัง

ก็เป็นค่าใช้จ่ายอีกประการที่ควรเผื่อตังค์ไว้จ่ายในแต่ละเดือน จึงต้องเตือนตัวเองว่าอย่าใช้น้ำใช้ไฟเปลืองงบประมาณจนติดลบนะจ๊ะ

อีกอย่าง อย่าลืมเก็บตังค์ไว้ซื้อบ้านเองนะหนู เพราะอยู่บ้านใครก็ไม่อบอุ่นเท่าบ้านเรา.

สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย: