ชีวิตไร้กรอบ

                                               ชีวิตไร้กรอบ


***
เคยได้ยินชื่อ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ ไหมครับ??
เขาเคยเป็นวิศวกรขององค์การอวกาศนาซา
ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ 20
กว่าปีก่อน
เคยได้รับรางวัลงานวิจัยที่ดีที่สุดระดับโลก
เกี่ยวกับเครื่องยนต์ไอพ่น

ตัดสินใจกลับเมืองไทยเพราะ
1.
อยากดูแลพ่อแม่
2.
ไม่อยากเป็นพลเมืองชั้นสองในบ้านพักคนชรา
3.
อยากเที่ยว
4.
ชอบกินอาหารอร่อย

เคยเป็นอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ 
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ก่อนจะออกมาตั้งบริษัทที่ปรึกษาของตัวเอง
ผมประทับใจบทสัม ภาษณ์ของ ดร.วรภัทรใน '
เสาร์สวัสดี'
ของ ' กรุงเทพธุรกิจ '
มาก

คนอะไรก็ไม่รู้ ชีวิตมันส์เป็นบ้า
ความคิดก็กวนเหลือหลาย
ตอนที่เขาเป็นอาจารย์
วิธีการสอนหนังสือของเขาแปลกกว่าคนอื่น

' ผมออกนอกกรอบตลอดเวลา
'
เขาบอก

เขาเคยพาเด็กวิศวะไปที่ริมสระว่ายน้ำ
เรียนไปและดูนิสิตสาว ๆ ว่ายน้ำไป
ด้วยคาดว่าคงไปเรียนเรื่อง '
คลื่น'
ระหว่างท่าฟรีสไตล์ กับท่าผีเสื้อ
คลื่นที่เกิดขึ้นของท่าไหนถี่กว่ากัน
ระหว่างชุดทูพีซกับวันพีซ
แรงเสียดทานกับน้ำ ชุดไหนมากกว่ากัน
แนวการศึกษาน่าจะออกไปทำนองนี้


ชีวิตไร้กรอบ


แต่ที่ชอบที่สุดคือตอนที่เขาออกข้อสอบ
ข้อสอบของเขาสั้นและกระชับมาก

' จงออกข้อสอบเอง พร้อมเฉลย '


โหย...เด็กวิดวะอึ้งกันทั้งห้อง
คำตอบส่วนใหญ่เป็นการตั้งโจทย์แบบง่ายๆ
เช่น ปั้นจั่นมีกี่ชนิด


ผลปรากฎว่าได้ศูนย์กันทั้งห้อง

เพราะเป็นคำตอบที่ไม่ได้แสดงความคิดที่ลึกซึ้ง

สมกับที่เรียนมาทั้งเทอม
เหตุผลที่ดร.วรภัทรออกข้อสอบ

ด้วยการให้นิสิตออกข้อสอบเอง

เป็นเหตุผลที่ตรงกับใจผมมาก

' ชีวิตคนเราจะรอให้อาจารย์ตั้งโจทย์อย่างเดียวไม่ได้

ต้องหาโจทย์มาเอง คิดแล้วทำ
ถ้าผิดแล้วอาจารย์จะปรับให้
'

เขามองว่าเด็กรุ่นใหม่ติดนิสัยเด็กกวดวิชา
รอคนคาบทุกอย่างมาป้อนให้ไม่รู้จักคิดเอง

' ถ้ารอและตั้งรับ

คุณก็เป็นพวกอีแร้ง
แต่พวกคุณแย่กว่า
เพราะเป็นแค่ลูกอีแร้ง
คือ รออาหารที่คนอื่นป้อนให้
'

โหย...เจ็บ

ผมเชื่อมานานแล้วว่า

ชีวิตของคนเรา

เป็นข้อสอบอัตนัย
ที่ต้องตั้งโจทย์เอง และตอบเอง
ไม่ใช่ข้อสอบปรนัย

ที่มีคนตั้งโจทย์ และมีคำตอบ
เป็นทางเลือก ก-ข-ค-ง 
 
ถ้าใครที่คุ้นกับ '
ชีวิตปรนัย'
ที่มีคนตั้งโจทย์ให้และเสนอทางเลือก
1-2-3-4
คนคนนั้นชีวิตจะไม่ก้าวหน้า

เพราะต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลาติดกับ

' กรอบ
'

ที่คนอื่นสร้างให้ ไม่เหมือนกับคนที่รู้จักคิด และตั้งคำถามเอง

เรื่องการตั้งคำถามกับชีวิต เป็นเรื่องสำคัญมาก อย่าลืมว่า

เพราะมี ' คำถาม' จึงมี '
คำตอบ'

เมื่อมี ' คำตอบ'
เราจึงเลือกเดิน
พูดถึงเรื่องการตั้งคำถาม

ผมนึกถึง 'โสเครติส' เขาเป็นนักปรัชญาเอกของโลก
ที่สอนลูกศิษย์ด้วยการสนทนา  ตั้งคำถามให้ลูกศิษย์ตอบ
สร้างองค์ความรู้จาก 'คำถาม'
กลยุทธ์ของ 'โสเครติส' ในการสอน คือ
ไม่ให้ความเห็นใดๆ แก่นักเรียน และทำลายความมั่นใจของ นักเรียนที่เชื่อว่าตนเองรู้

' โสเครติส ' เชื่อว่าเมื่อเด็กตระหนักใน ' ความไม่รู้ ' ของตนเอง

เขาจะเริ่มต้นแสวงหา ' ความรู้ '

แต่ถ้าเด็กยังเชื่อมั่นว่าตนเองมี ' ความรู้' เขาก็จะไม่แสวงหา '
ความรู้ '
การตั้งคำถามของโสเครติสจึงมีเป้าหมาย
โจมตีและทำลายความเชื่อมั่นในภูมิความรู้ของนักเรียน
เป็นกลยุทธ์เท ' น้ำ'
ให้หมดจากแก้ว
เมื่อแก้วไม่มีน้ำแล้ว จึงเริ่มให้เขาเท ' น้ำ'
ใหม่ ใส่แก้วด้วยมือของเขาเอง
' น้ำ' ที่ลูกศิษย์แต่ละคนเทลงแก้วด้วยมือตัวเองมาจาก

'คำตอบ' ที่เขาค้นคิดขึ้นมาเอง
'คำตอบ' จาก 'คำถาม' ของ 'โสเครติส'
'โสเครติส' นิยามศัพท์คำว่า 'คนฉลาด' และ 'คนโง่' ได้อย่างน่าสนใจ
'คนฉลาด' ในมุมมองของ
 'โสเครติส' นั้นไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่องแต่


' คนฉลาด ' คือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้

ส่วน

' คนโง่ ' นั้น คือคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้

แต่ทำตัวราวกับเป็นผู้รู้

*** ไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้

ผมยังมีความภาคภูมิใจใน ' ความรู้ '
ของตนเอง แต่พออ่านถึงบรรทัดนี้
????


 


FW


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์