5 โรคอินเทรนด์
*ไลฟ์สไตล์ในเมืองใหญ่อาจสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ ความหรูหราไฉไลให้หนุ่มสาวในเมืองดูอินเทรนด์ แต่การจะมีความสุขสมบูรณ์แบบ ต้องเกิดร่วมกันทั้งจากปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายใน โดยเฉพาะความแข็งแรงของสุขภาพร่างกาย ที่มักมีสาเหตุเล็กๆ แต่ให้ผลน่าหนักใจในระยะสุดท้าย อย่าให้เวลา
หลายๆ ปี แห่งการละเลย เป็นต้นเหตุให้ชีวิตหมดสนุกในอนาคต หันมาตระหนักถึงภัยร้ายของเทคโนโลยี แล้วใช้ชีวิตให้ปลอดภัยกับข้อเท็จจริง และวิธีแก้ไขจาก 5 โรคอินเทรนด์ของหนุ่มสาวดาวน์ทาวน์ ที่เรานำมาฝากกันเถอะ เพื่อให้ชีวิตของคุณได้เต็มที่กับทุกดีกรีสีสันและกิจกรรม ในแบบดาวน์ทาวน์ได้ตลอด 365 วัน
.. อันดับที่ 1: โรคเครียด
จากผลการวิจัยของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2549 คนไทยมีแนวโน้มเป็นโรคเครียดในระดับสูงมากถึง 8% เครียดระดับปานกลาง 33% และเครียดระดับน้อย 57% หนุ่มสาวในช่วงอายุ 25-35 ปี ซึ่งกำลังก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีสถิติสูงที่สุด ความเครียดส่งผลให้นอนไม่หลับเลยวิตกกังวล จนกระทั่งอาเจียน เครียดลงกระเพาะอาหาร ปัสสาวะบ่อยจนกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นไมเกรนหรือลุกลาม ถึงขั้นเป็นโรคหัวใจ ส่วนผลกระทบทางด้านจิตใจ เช่น เกิดความกังวลตลอดเวลา ลนลานอย่างหนัก กังวลจน สมาธิไม่มี อารมณ์เสีย หงุดหงิด ฯลฯ หากปล่อยทิ้งไว้นานจะพัฒนาไปสู่โรคเครียดเรื้อรังได้
*เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย : ผ่อนคลายความเครียดทางร่างกาย เริ่มง่ายๆ ด้วยการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย จะช่วยให้การทำงานของระบบเลือดหัวใจ และสมองดีขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ ลดคาร์โบไฮเดรต และแอลกอฮอล์ หรือจัดสภาพแวดล้อมในที่ทำงานใหม่ เช่น จัดให้มีมุมนั่งเล่นในสวนสวย มุมทำสมาธิ มุมรับประทานอาหารว่าง มุมดูหนังฟังเพลง บริการนวดคลายเครียดในที่ทำงาน
.. อันดับที่ 2: โรคระบบทางเดินหายใจ
มลภาวะเป็นพิษ สาเหตุหลักของโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคปอด ไซนัส หวัด ภูมิแพ้ องค์การอนามัยโลกรายงานว่า โรคที่คร่าชีวิตคนทำงานมากที่สุดในปัจจุบันคือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โดยมีอัตราเสี่ยงสูงถึง 10% ของคนทั้งโลก นอกจากนี้รายงานทางการแพทย์ของไทยยังพบว่าคนกรุงเทพฯ มีอัตราผู้ป่วยภูมิแพ้สูงถึง 50% ต้นเหตุ แห่ง มลพิษก็มาจากโรงงานอุตสาหกรรม ไอเสียจากรถยนต์ที่มีปริมาณ มากขึ้นทุกวัน อาการเบื้องต้นจะเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย โดยไม่ได้มาจากการเจ็บป่วย หายใจไม่สะดวก ป่วยกระเสาะ-กระแสะ เหมือนเป็นไข้หวัดตลอดเวลา คัดจมูก น้ำมูกน้ำตาไหล แต่ไม่มีไข้
* เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย : เราสามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยการหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลารถติด พักอาศัยอยู่ในที่อากาศถ่ายเทหรือไปสูดอากาศนอกเมืองบ้าง และออกกำลังกายเป็นประจำ
.. อันดับที่ 3: ความผิดปกติ ของกล้ามเนื้อ
การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ทำให้ตาพร่ามัวรังสีจากหน้าจอทำให้กล้ามเนื้อตาตึงเครียด อาการเหล่านี้หากทิ้งไว้นานจะมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย กล้ามเนื้อเมื่อยล้าเป็นอาการเครียดของกล้ามเนื้อเมื่อใช้งานต่อเนื่องนานๆ เช่น การกดแป้นคีย์บอร์ด ทำให้ข้อกระดูกนิ้วเสื่อม กล้ามเนื้อไหล่ตึง และเจ็บปวด การขยับเมาส์ไปมาทำให้ปวดกระดูกข้อมือ อาจเกิดพังผืดที่โพรงเส้นประสาทข้อมือหรืออุโมงค์ข้อมือ หากทิ้งไว้นานอาจ ปวดเรื้อรังถึงขั้นพิการ
* เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย : อาการเหล่านี้บรรเทาด้วยการพักสายตา หลับตาหรือมองต้นไม้ใบหญ้าจะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาได้ อาการเกี่ยวกับข้อมือ ควรพักข้อมือ รับประทานยาแก้ปวด ถ้าอาการหนัก อาจต้องสวมอุปกรณ์ประคองข้อมือ หรือฉีดยาเพื่อลดอาการเจ็บปวด อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาได้คือ ปรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับสรีระ เช่น ใช้แผ่นป้องกันแสง เพื่อป้องกันรังสี หรือเลือกใช้จอถนอมสายตา ควรปรับแสงสว่างหน้าจอให้เหมาะกับช่วงแต่ละเวลาด้วย ขณะใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ให้วางท่อนแขนขนานกับพื้น มีแผ่นรองข้อมือเพื่อช่วยลดการเคลื่อนไหวและการเสียดสี ปรับระดับเก้าอี้ให้นั่งสบาย ขาตั้งฉากกับพื้น ซึ่งถือเป็นท่าที่ถูกต้อง
.. อันดับที่ 4: โรคนอนไม่หลับ
การนอนไม่หลับ นอนหลับยาก นอนหลับๆ ตื่นๆ หรือสะดุ้ง ขึ้นมาและนอนหลับต่อไม่ได้ ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น อาหาร รูปแบบการใช้ชีวิต การเจ็บป่วย การใช้ยา ความเครียด ความกังวล ฯลฯ คนส่วนใหญ่ มักเป็นอยู่ 2-3 วัน แล้วจะหายไปเอง แต่บางรายที่นอนไม่หลับเป็นระยะเวลานานติดต่อกันเป็นสัปดาห์ขึ้นไป หากปล่อยไว้นานๆ จะมีอาการเรื้อรัง กระทั่งส่งผลเสียร้ายแรงต่ออารมณ์ ความจำ การตื่นตัว ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา และไม่มีแรง บางครั้งกลายเป็นโรคซึมเศร้าด้วย
* เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย : เปลี่ยนพฤติกรรม เช่น พยายามนอนและตื่นเวลาเดิมทุกเช้า ไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม ออกกำลังกาย ผู้ที่วิ่งหรือออกกำลังกายวันละ 40 นาที จะหลับลึกนานกว่าคนทั่วไป แต่ถ้าหากเป็นนานกว่า 2 สัปดาห์ หาสาเหตุชัดเจนไม่ได้ และรู้สึกง่วง อ่อนเพลีย จนไม่สามารถทำงานได้ หลับบ่อยครั้งในระหว่างวัน ควรไปพบแพทย์
.. อันดับที่ 5: โรคปลายประสาทอักเสบ
เกิดจากความผิดปกติของประสาทส่วนปลาย เป็นผลจากโรคเครียดและกล้ามเนื้ออักเสบ การได้รับสารพิษ หรือโลหะหนักอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการนั่ง ยืน หรือท่ายกของอย่างไม่ถูกต้องเป็นเวลานานๆ จนเกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแต่บริเวณคอ ลงไปที่ไหล่ เรื่อยถึงกระดูกสันหลัง และช่วงเอว ทำให้ทรงตัว ไม่ได้ ร่างกายอ่อนปวกเปียก ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า หากปล่อยไว้กล้ามเนื้อจะลีบ เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ โรคนี้พบบ่อยในคนทำงานนั่งโต๊ะ รวมทั้งคนที่อาศัยในเขตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริเวณที่มีมลพิษหนาแน่น
* เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย : ป้องกันได้โดยการนั่ง ยืน เดิน ในท่าที่ถูกต้อง นวดคลายกล้ามเนื้ออยู่สม่ำเสมอ อยู่ในที่ที่สภาพแวดล้อมดี อากาศดี
ก่อนที่จะอินสุดๆ กับกระแสดาวน์ทาวน์ ควรหันมาดาวน์โหลดความสมบูรณ์ให้ร่างกายกันก่อน เพราะให้โลกเจริญก้าวไกลอย่างไร ให้รวยติดอันดับไหนของโลก ก็ไม่สำคัญเท่าวันสุดท้ายของชีวิตที่เราได้มีสุขภาพแข็งแรง จริงไหม
ขอบคุณ นิตยสาร 247
TWENTY-FOUR SEVEN City Magazine